จับ "อัยการ" นครศรีฯ เรียกเงินแลกไม่สั่งฟ้อง

วันนี้ (14 ก.ย.2565) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันนี้ (14 ก.ย.) เวลา 07.00 น. จนถึงพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) เวลา 07.00 น. โดยเฝ้าระวังกลุ่มฝน ตั้งแต่เวลา 14.00

วันนี้ (20 มิ.ย.2565) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้

วันนี้ (23 ม.ค.2565) นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ชื่อเรือ "ป.อันดามัน 2" ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย เมื่อวานนี้ (22 ม.

ปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดนเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในสิงคโปร์ โดยเฉพาะในช่วงปี 2556 ที่เกิดวิกฤตหมอกควันครั้งใหญ่ ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงถึง 401 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินระดับอันตรายอย่างมาก ซึ่งถือเป็นระดับที่อันตรายมากตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 25 มค.ก./ลบ.ม. ในช่วง 24 ชั่วโมง หมอกควันดังกล่าว ส่วนใหญ่มาจากการเผาป่าในอินโดนีเซียเพื่อการเกษตรเชิงพาณิชย์ เช่น การปลูกปาล์มน้ำมันและไม้เยื่อกระดาษ วิกฤตนี้ส่งผลให้ประชาชนในสิงคโปร์ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ และเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพื่อต่อสู้กับปัญหานี้ รัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศใช้ กฎหมายหมอกควันข้ามพรมแดน (Transboundary Haze Pollution Act - THPA) ในปี 2557 กฎหมายนี้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน โดยให้อำนาจในการลงโทษบริษัทหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อมลพิษหมอกควันข้ามพรมแดน แม้ว่าบริษัทหรือบุคคลนั้นจะอยู่นอกเขตแดนสิงคโปร์ก็ตาม กฎหมายนี้ให้อำนาจรัฐบาลสิงคโปร์ดำเนินคดีกับบริษัทต่างชาติที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาป่าหรือการก่อมลพิษ บทลงโทษสูงสุดคือการปรับเงิน 100,000 ดอลลาร์สิงคโปร์/วัน หรือประมาณ 2,500,000 บาท/วัน และสามารถปรับได้สูงสุดถึง 2,000,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หากการกระทำก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง สิงคโปร์ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลการตรวจสอบคุณภาพอากาศเพื่อรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดี ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีบูรณาการกับการบังคับใช้กฎหมาย นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังขอความร่วมมือกับประเทศในอาเซียน เช่น อินโดนีเซียและมาเลเซีย ผ่านข้อตกลง "ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution" เพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษหมอกควันข้ามพรมแดน รัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ รวมถึงรณรงค์ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและการใช้ระบบขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้า เพื่อช่วยลดการปล่อยมลพิษในระยะยาว ในขณะที่สิงคโปร์ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นรอา แจ็ ก ซ์ วิเคราะห์ะบบ แต่ในประเทศไทย ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังเป็นปัญหาที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่การเผาไหม้ในภาคเกษตรกรรมมักเกิดขึ้นมากที่สุด เช่น ฟางข้าว ต้นข้าวโพด  อ้อย การเผาเหล่านี้ส่งผลให้มีฝุ่นละออง PM2.5 ปล่อยออกมาในอากาศอย่างมหาศาล เมื่อปี 2566 ภาคเหนือของไทยประสบปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ที่สูงเกินมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกหลายเดือนติดต่อกัน โดยมีค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ยสูงกว่า 100 มค.ก./ลบ.ม. ภาวะนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงสูงต่อปัญหาหมอกควัน การห้ามเผาในพื้นที่เกษตรกรรมเป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลไทยได้ประกาศใช้เพื่อบรรเทาปัญหานี้ แต่ปัญหายังคงไม่สามารถคลี่คลายได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเกษตรกรยังคงใช้วิธีการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังขาดการสนับสนุนจากภาครัฐในการให้เงินช่วยเหลือหรือเครื่องมือที่เหมาะสมในการกำจัดเศษวัสดุที่ไม่ต้องเผา ซึ่งทำให้เกษตรกรหันกลับมาใช้วิธีการเผาที่ทั้งสะดวกและมีต้นทุนต่ำ นอกจากการห้ามเผาแล้ว รัฐบาลไทยยังใช้มาตรการระยะสั้นอื่น ๆ เช่น การแจกหน้ากาก N95 ให้กับประชาชนในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูง และการฉีดน้ำเพื่อช่วยลดฝุ่นในอากาศ การไม่เก็บค่าโดยสารในรถไฟฟ้า และ บริการขนส่งมวลชนเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบได้ในระยะสั้น แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นตอได้ เนื่องจากการเผาในภาคเกษตรกรรมยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีการยับยั้งอย่างจริงจัง ทั้งนี้ การใช้มาตรการที่ไม่ได้เจาะจงถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของเกษตรกรหรือการลดต้นตอของฝุ่นละออง ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่นในระยะยาว ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังสะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ในกรอบกฎหมายของประเทศไทยที่ยังขาดความชัดเจนในการควบคุมการก่อมลพิษจากการเผาไหม้ในภาคเกษตรกรรม แม้จะมีกฎหมายที่ควบคุมการปล่อยมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือการคมนาคม แต่กฎหมายในด้านการควบคุมการเผาป่าหรือการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรยังไม่เข้มงวดพอ และไม่มีมาตรการลงโทษที่มีประสิทธิภาพ เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในทุกระดับ ทั้งภาครัฐและเอกชน การขาดการบังคับใช้กฎหมายที่ชัดเจนจึงทำให้การเผาป่าและการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ในขณะเดียวกัน ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามพรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมาและลาว ซึ่งมักเกิดจากการเผาป่าเพื่อการเกษตรหรือการล่าสัตว์ในฤดูแล้ง ทำให้ฝุ่นละอองข้ามพรมแดนเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน ปัญหานี้ทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ ที่เกิดจากทั้งการเผาในประเทศและการส่งผลกระทบจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยิ่งทำให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในประเทศไทยซับซ้อนขึ้น เนื่องจากต้องมีความร่วมมือและการดำเนินการร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน กรณีของสิงคโปร์แสดงให้เห็นว่าการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืนต้องเริ่มจากการออกกฎหมายที่ชัดเจน การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และการสนับสนุนประชาชนอย่างเป็นระบบ ในทางกลับกัน นโยบายของไทยที่เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ายังคงขาดความต่อเนื่องและประสิทธิภาพในการจัดการต้นตอของปัญหา คำถามสำคัญคือ หากประเทศไทยเคยนำโมเดลจากสิงคโปร์ เช่น เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือ บ้านเพื่อคนไทย มาใช้แล้ว ทำไมไทยจึงไม่ลองนำกฎหมายการจัดการฝุ่นควันข้ามพรมแดน (THPA) จากสิงคโปร์มาใช้บ้าง ? กฎหมายที่ให้อำนาจในการบังคับใช้กับบริษัทหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อมลพิษหมอกควันข้ามพรมแดน สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการจัดการฝุ่น PM2.5 ในระยะยาว การมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและการบังคับใช้ที่จริงจัง จะช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการการจัดการฝุ่นอย่างเคร่งครัดได้หรือไม่ ? การปรับใช้กฎหมายในระดับประเทศเพื่อควบคุมการเผาป่าและลดมลพิษในอากาศอาจเป็นก้าวสำคัญที่ไทยต้องลองพิจารณา ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างยั่งยืน อ่านข่าวเพิ่ม : เปิดโทษเผาไร่อ้อยโทษคุก7 ปีปรับไม่เกิน 14,000 บาท วิ่งลุยฝุ่น! เช็ก 12 พื้นที่ PM 2.5 กทม.ยังวิกฤตเกิน 2 เท่า ผู้ปกครองแชร์ภาพลูก-หลาน "เลือดกำเดา" ไหล - วอนเร่งแก้ฝุ่น

ปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดนเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในสิงคโปร์ โดยเฉพาะในช่วงปี 2556 ที่เกิดวิกฤตหมอกควันครั้งใหญ่ ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงถึง 401 ไมโครกรัมต่อลูกบา