นายกฯยืนยัน นายกรัฐมนตรี ยืนยันกรณี พล.ต.ท.คำรณวิท
2 สิงหาคม 2025 - 08:56
วันนี้ (10 พ.ค.2565) นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน
2 สิงหาคม 2025 - 08:56

วันนี้ (12 ก.พ.2567) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ โดยในปัจจุ

จ.เชียงรายรพ.แม่สาย ปิดถึง 16 พ.ค.เนื่องจากผู้ป่วยปกปิดข้อมูลเสียชีวิต กักตัว 88 คน จ.นครสวรรค์รพ.ชุมแสง ปิดถึง 7 พ.ค.เนื่องจากเจ้าหน้าที่ติดเชื้อ 1 คน จ.ชัยนาทรพ.รวมแพทย์ชัยนาท ปิดถึง 12 พ.ค.เนื่องจา

คลอดกฎหมายอุ้มบุญ บังคับใช้ 30 ก.ค.นี้ สธ.เตือนทำเชิงพาณิชย์จำคุก 10 ปีปรับ 2 แสน รมว.สธ.เผยกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ มีผลบังคับใช้สิ้นเดือน ก.ค. 58 เนื้อหาระบุห้ามปฏิเสธรับเด็กเป็นบุตร อุ้มบุญเพื่อการค้า หรือเป็นนายหน้า รวมถึงห้ามซื้อขายนำเข้าอสุจิ ไข่ ตัวอ่อน ชี้หากแพทย์-คู่สามีภรรยา-ผู้รับตั้งครรภ์ ฝ่าฝืน มีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ปรับ 2 แสนบาท คลอดกฎหมายอุ้มบุญ บังคับใช้ 30 ก.ค.นี้ สธ.เตือนทำเชิงพาณิชย์จำคุก 10 ปีปรับ 2 แสน วันนี้ (29 ก.ค. 2558) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข แถลงข่าวการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ปี 2558 ว่า กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ก.ค. นี้ โดยเจตนารมย์ของกฎหมาย มีขึ้นเพื่อช่วยคู่สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายแต่มีบุตรยาก ให้สามารถมีบุตรได้ และยังควบคุมป้องกันไม่ให้นำวิธีอุ้มบุญไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างตั้งครรภ์ การค้ามนุษย์ รวมถึงการทอดทิ้งเด็ก นพ.รชตะกล่าวอีกว่า กฎหมายฉบับนี้ยังกำหนดข้อห้าม ไม่ให้สามีและภรรยาที่ทำอุ้มบุญปฏิเสธรับเด็กเป็นบุตร ห้ามรับตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า ห้ามเป็นนายหน้าจัดการหรือชี้ช่องให้มีการตั้งครรภ์แทน ห้ามซื้อ เสนอซื้อหรือขาย นำเข้าหรือส่งออกอสุจิ ไข่ ตัวอ่อน โดยสถานประกอบการ แพทย์ คู่สามีภรรยา และผู้รับตั้งครรภ์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย “สำหรับบทลงโทษกรณีแพทย์ไม่ปฏฺิบัติตามมาตรฐานแพทยสภา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำเชิงการค้ารับจ้างอุ้มบุญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท กรณีเป็นนายหน้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,0เลข งวด นี้ 1 ก พ 64 เลข งวด นี้ 1 ก พ 6400 บาท กรณีขายอสุจิ หรือไข่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศ.นพ.รชตะ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่ดำเนินการอุ้มบุญก่อนกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ สามารถยื่นรับรองบุตรได้ ซึ่งการปฏิบัติการตามกฎหมายจะดำเนินการภายใต้คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ จำนวน 15 คน วันนี้ (29 ก.ค. 2558) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข แถลงข่าวการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ปี 2558 ว่า กฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ก.ค. นี้ โดยเจตนารมย์ของกฎหมาย มีขึ้นเพื่อช่วยคู่สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายแต่มีบุตรยาก ให้สามารถมีบุตรได้ และยังควบคุมป้องกันไม่ให้นำวิธีอุ้มบุญไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นการรับจ้างตั้งครรภ์ การค้ามนุษย์ รวมถึงการทอดทิ้งเด็ก นพ.รชตะกล่าวอีกว่า กฎหมายฉบับนี้ยังกำหนดข้อห้าม ไม่ให้สามีและภรรยาที่ทำอุ้มบุญปฏิเสธรับเด็กเป็นบุตร ห้ามรับตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า ห้ามเป็นนายหน้าจัดการหรือชี้ช่องให้มีการตั้งครรภ์แทน ห้ามซื้อ เสนอซื้อหรือขาย นำเข้าหรือส่งออกอสุจิ ไข่ ตัวอ่อน โดยสถานประกอบการ แพทย์ คู่สามีภรรยา และผู้รับตั้งครรภ์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย “สำหรับบทลงโทษกรณีแพทย์ไม่ปฏฺิบัติตามมาตรฐานแพทยสภา มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำเชิงการค้ารับจ้างอุ้มบุญ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท กรณีเป็นนายหน้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท กรณีขายอสุจิ หรือไข่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ศ.นพ.รชตะ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่ดำเนินการอุ้มบุญก่อนกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ สามารถยื่นรับรองบุตรได้ ซึ่งการปฏิบัติการตามกฎหมายจะดำเนินการภายใต้คณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ โดยเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ จำนวน 15 คน

คลอดกฎหมายอุ้มบุญ บังคับใช้ 30 ก.ค.นี้ สธ.เตือนทำเชิงพาณิชย์จำคุก 10 ปีปรับ 2 แสน รมว.สธ.เผยกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ มีผลบังคับใช้สิ้นเดือน ก.ค. 58 เนื้อ

วันนี้ (7 ก.ค.2567) เมื่อเวลา 19.27 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารภายใน โรงพยาบาล สถาบันโรคไตภูมิราชนคริน