สลด! ชายเสียชีวิตคาบ้าน พบสุนัขที่เลี้ยงไว้ 27 ตัวป่วยอ่อนแรง

วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความพยายามในการแก้ไข และประคับประคองสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ที่มีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศกรีซ

วันนี้ (24 ธ.ค.2566) 6 บริษัทผู้ค้าน้ำมัน และ 9 บริษัทผู้ค้ารถยนต์ ร่วมกันจัดโปรโมชันส่วนลดสูงสุดร้อ

กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติไม่รับเรื่องการถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.2561 แก้ไขเพิ่มเติม

วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความพยายามในการแก้ไข และประคับประคองสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ที่มีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศกรีซ ซึ่ง ณ เวลานี้ กำลังแบกรับระดับหนี้สาธารณะที่สูงกว่า 160% ของจีดีพี วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน    โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด   ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้sbobet ขั้นต่ำ 5 บาทเล่นเกมยิงปลายังไงให้ได้รางวัลานของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน    โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด   ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด

รองผบ.ตร.ตรวจการปฏิบัติงานศูนย์รับแจ้งเรือเข้า-ออก จ.สมุทรสงคราม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์รับแจ้งเข้า - ออกเรือประมง จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย