Home
|
50 รับ 150 ทำ 300 ถอน ได้ หมด

วันนี้ (20 ก.ย.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน

50 รับ 150 ทำ 300 ถอน ได้ หมด

อดีตบอร์ด อคส.แนะรัฐทำบัญชีประจำปี ป้องกันทุจริตจำนำข้าว อดีตประธานบอร์ด อคส.แนะรัฐบาลจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำปี เพื่อป้องกันปัญหาทุจริตในโครงการรับจำนำ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยมีการจัดทำมาก่อน พร

วันนี้ (4 พ.ย.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง กรณีหลอกประชาชนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยติดตามจับที่ได้ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีผู้ต้องหา 3 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฟอกเงิ

วันนี้ (4 พ.ย.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง กรณีหลอกประชาชนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยติดตามจับที่ได้ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีผู้ต้องหา 3 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐาน ฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” พร้อมตรวจยึดของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ รวมจำนวนหลายรายการ รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้จากการประทำความผิด อาทิ โฉนดที่ดิน ยานพาหนะ ของขบวนการดังกล่าวได้จำนวนหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น ทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ตำรวจเปิดเผย พฤติการณ์ เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2561 ผู้เสียหายได้รู้จักกับนายรัฐกรณ์ หรือ อาร์ม สร้างความน่าเชื่อถืออ้างว่า ตัวเองเป็นยี่ปั๊วตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในพื้นที่ จ.เลย และพื้นที่ใกล้เคียง มีโควตารับลอตเตอรี จำนวน 5,000 เล่ม โดยรู้จักกับข้าราชการนายทหารชั้นผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน จึงชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนจริง โดยจะให้ผลตอบแทนกำไร ใบละ 1-5 บาท ต่องวด ของจำนวนเงินที่ลงทุนไปในแต่งวด ซึ่งแต่ละงวดจะได้กำไรไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับต้นทุนสลากที่ซื้อได้จากกองสลาก ต่อมานายรัฐกรณ์ ได้แนะนำผู้เสียหายให้รู้จักกับ น.ส.รพีพรรณ (น้องสาวนายรัฐกรณ์) และ น.ส.รัชฎาภรณ์ (เพื่อนนายรัฐกรณ์) ร่วมกันใช้กลอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนกับนายรัฐกรณ์ จนผู้เสียหายหลงเชื่อและเข้าร่วมลงทุนด้วย การลงทุนช่วงแรกมีการจ่ายเงินตอบแทนจริง ผู้เสียหายจึงได้ร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต้องหาอีกหลายครั้ง กลุ่มผู้ต้องหาได้นำสัญญาการซื้อขายสลากกับเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่มาให้ผู้เสียหายดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น จึงได้เพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียหายต้องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้แจ้งขอเงินลงทุนคืนจากกลุ่มผู้ต้องหาคืน แต่เมื่อถึงวันกำหนด ก็ไม่ยอมคืนเงินให้ เมื่อติดตาม50 รับ 150 ทำ 300 ถอน ได้ หมดทวงถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา สืบทราบภายหลังว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้เป็นยี่ปั๊วแต่อย่างใด และไม่มีโควตาจำนวนมากตามที่กล่าวอ้าง ผู้เสียหายเองก็ไม่เคยเห็นสลากกินแบ่งรัฐบาล และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมารับซื้อ หรือมีหน้าร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้ามาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ที่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำการสืบสวนขยายผล จนทราบว่าขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีหน้าที่ชักชวน สร้างความน่าเชื่อถือ และร่วมกันหลอกลวงจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่นายรัฐกรณ์ เตรียมไว้ ก่อนที่จะมีการโอนเงินต่อให้กับคนในขบวนการ เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินประวัติของผู้ร่วมขบวนการ พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,900 ล้านบาท เบื้องต้นผู้เสียหาย 2 คน จึงได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินจำนวน 126,811,999 บาท นอกจากกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันกระทำความผิดกับผู้เสียหาย 2 คนนี้แล้ว ยังกระทำการในลักษณะเช่นเดียวกันนี้กับผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายคนหลายครั้ง และกระทำซ้ำๆ อย่างนี้เรื่อยมา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล เพิ่มเติม

วันนี้ (11 พ.ค.2564) "ชลรัศมี งาทวีสุข" ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก โ

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2564 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา แถลงว่า การหารือระห

ช่วงค่ำเมื่อ 2 วันก่อนเกิดเหตุการณ์ลักลอบเผาไร่อ้อยท้ายหมู่บ้านห้วยไผ่ ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ท

วันนี้ (4 พ.ย.2565) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม จับ ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง กรณีหลอกประชาชนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยติดตามจับที่ได้ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งมีผู้ต้องหา 3 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐาน ฟอกเงิน และมีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” พร้อมตรวจยึดของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ และของกลางอื่นๆ รวมจำนวนหลายรายการ รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่น่าเชื่อว่าได้จากการประทำความผิด อาทิ โฉนดที่ดิน ยานพาหนะ ของขบวนการดังกล่าวได้จำนวนหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนการสอบสวนเบื้องต้น ทั้ง 3 คน ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ตำรวจเปิดเผย พฤติการณ์ เมื่อประมาณปลายปี พ.ศ.2561 ผู้เสียหายได้รู้จักกับนายรัฐกรณ์ หรือ อาร์ม สร้างความน่าเชื่อถืออ้างว่า ตัวเองเป็นยี่ปั๊วตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในพื้นที่ จ.เลย และพื้นที่ใกล้เคียง มีโควตารับลอตเตอรี จำนวน 5,000 เล่ม โดยรู้จักกับข้าราชการนายทหารชั้นผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน จึงชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนจริง โดยจะให้ผลตอบแทนกำไร ใบละ 1-5 บาท ต่องวด ของจำนวนเงินที่ลงทุนไปในแต่งวด ซึ่งแต่ละงวดจะได้กำไรไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับต้นทุนสลากที่ซื้อได้จากกองสลาก ต่อมานายรัฐกรณ์ ได้แนะนำผู้เสียหายให้รู้จักกับ น.ส.รพีพรรณ (น้องสาวนายรัฐกรณ์) และ น.ส.รัชฎาภรณ์ (เพื่อนนายรัฐกรณ์) ร่วมกันใช้กลอุบายหลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนกับนายรัฐกรณ์ จนผู้เสียหายหลงเชื่อและเข้าร่วมลงทุนด้วย การลงทุนช่วงแรกมีการจ่ายเงินตอบแทนจริง ผู้เสียหายจึงได้ร่วมลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต้องหาอีกหลายครั้ง กลุ่มผู้ต้องหาได้นำสัญญาการซื้อขายสลากกับเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่มาให้ผู้เสียหายดู เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น จึงได้เพิ่มเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2565 ผู้เสียหายต้องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว จึงได้แจ้งขอเงินลงทุนคืนจากกลุ่มผู้ต้องหาคืน แต่เมื่อถึงวันกำหนด ก็ไม่ยอมคืนเงินให้ เมื่อติดตาม50 รับ 150 ทำ 300 ถอน ได้ หมดทวงถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา สืบทราบภายหลังว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้เป็นยี่ปั๊วแต่อย่างใด และไม่มีโควตาจำนวนมากตามที่กล่าวอ้าง ผู้เสียหายเองก็ไม่เคยเห็นสลากกินแบ่งรัฐบาล และไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมารับซื้อ หรือมีหน้าร้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอก เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้ามาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ที่ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำการสืบสวนขยายผล จนทราบว่าขบวนการนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยเริ่มตั้งแต่บุคคลที่มีหน้าที่ชักชวน สร้างความน่าเชื่อถือ และร่วมกันหลอกลวงจนผู้เสียหายหลงเชื่อ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่นายรัฐกรณ์ เตรียมไว้ ก่อนที่จะมีการโอนเงินต่อให้กับคนในขบวนการ เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินประวัติของผู้ร่วมขบวนการ พบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 1,900 ล้านบาท เบื้องต้นผู้เสียหาย 2 คน จึงได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินจำนวน 126,811,999 บาท นอกจากกลุ่มผู้ต้องหาได้ร่วมกันกระทำความผิดกับผู้เสียหาย 2 คนนี้แล้ว ยังกระทำการในลักษณะเช่นเดียวกันนี้กับผู้เสียหายรายอื่นอีกหลายคนหลายครั้ง และกระทำซ้ำๆ อย่างนี้เรื่อยมา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล เพิ่มเติม

ไทยพีบีเอสถ่ายทอดสดแข่งเรือยาว วันนี้ 14.05-16.00 น. รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานเปิดกา