วันนี้ 8 พ.ย.2565) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่า
2 สิงหาคม 2025 - 22:50
วันนี้ (22 มี.ค.2565) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ
2 สิงหาคม 2025 - 22:50

วันนี้ (31 พ.ค.2568) ความคืบหน้ากรณี ที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เคยระบุว่า ในวันนี้ตัวเองกล้าที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ เพื่อเดินทางไปปฏิบัติภารกิจใน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจน

วันนี้ (20 ก.ย.66) นายอรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับข้อสั่งการจาก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล

12 กรกฎาคม 2566 ศาลอาญามีคำพิพากษา “จำคุก” 121 ปี 358 เดือน นายดนุเดช แสงแก้ว หรือ “เนเน่ โมเดลลิ่ง” ฐานล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ครอบครองและส่งต่อสื่อลามกอนาจาร โดยมีผู้เสียหายเป็นเด็กผู้ชายที่ยังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาตอนต้นเท่านั้น จำนวน 8 คน คดีนี้ เป็นผลงานการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่พบการส่งต่อซื้อขายภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้ชายจากเครือข่ายในต่างประเทศ และพบว่าเป็นภาพที่มาจากประเทศไทย จึงติดตามสืบสวนจนพบความเชื่อมโยงมาจากหลายแหล่ง กระทั่งมาพบต้นทางการขายภาพ จุดใหญ่มาจากชายคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นโมเดลลิ่ง ชักชวนเด็กเข้าสู่วงการบันเทิงโดยใช้ช่องทางเข้าหาผู้ปกครองเด็กโดยตรง และยังเข้าไปเลือกเด็กผ่านทางโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง โดยที่ผู้ปกครองและครูไม่รู้เลยว่า เด็กผู้ชายเหล่านั้นถูกล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศด้วย ถูกบันทึกภาพ คลิปวิดีโอ และส่งต่อไปขายผ่าน Dark Web ในต่างประเทศ “คนร้ายติดต่อเด็กผ่านผู้ปกครองโดยตรง หาเด็กที่เป็นผู้เสียหายโดยติดต่อผ่านโรงเรียนดัง ก่อนจะสามารถเข้าถึงตัวเด็ก สามารถใช้ช่องทางออนไลน์พูดคุยกับเด็กหลังจากนั้น จนกระทั่งมีโอกาสและเวลาที่จะล่วงละเมิดทางเพศเด็ก พร้อมบันทึกภาพ” เมื่อมีคำพิพากษาแล้ว นี่จึงเป็นคดีใหญ่ที่ควรถูกนำมาตีแผ่ เพื่อสร้างองค์ความรู้ให้สังคมไทยสามารถป้องกันไม่ให้เรื่องน่าเศร้าเช่นนี้เกิดขึ้นได้อีก เพราะเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว ก็ยากที่จะเยียวยาความรู้สึกของเด็กที่ถูกกระทำไปส่งเงินบาทไทย ปืนเกมยิงปลาแล้วให้กลับมาเป็นปกติได้ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ DSI ในฐานะหัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนในคดี เปิดเผยเบื้องหน้า-เบื้องหลังคดี โดยหวังให้สังคมไทยตื่นตัวกับภัยร้ายรูปแบบใหม่นี้ เพราะมันอาจเกิดขึ้นได้กับลูกหลานของเราทุกคน โดยที่ผู้ปกครองไม่มีทางรู้เลย “คนทั่วไปอาจจะมีภาพจำเดิมๆ ว่า การล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้ชาย คงจะไปเกิดขึ้นได้กับเด็กที่เป็นกลุ่มเปราะบางเท่านั้น อย่างในอดีต เด็กเร่ร่อน เด็กที่มีฐานะยากจน เด็กที่อยากว่ายน้ำในสระน้ำดีๆ เด็กที่อยากเล่นเปียโนแต่ไม่โอกาส เคยเป็นช่องว่างที่ทำให้ขบวนการเหล่านี้เข้าหาเด็กได้โดยง่าย" แต่เมื่อทำคดี เนเน่โมเดลลิ่ง ทำให้ทราบว่า นั่นเป็นสิ่งที่เคยเป็นความจริงเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่ปัจจุบัน คนร้ายกลุ่มนี้เพิ่มเป้าหมายไปสู่เด็กซึ่งมีสถานะทางบ้านค่อนข้างดีเข้าไปด้วย และยังใช้ช่องทางการติดต่อทางออนไลน์เพื่อล่อลวงเด็กกลุ่มนี้ได้อย่างแยบยล ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ DSI ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ DSI ร.ต.อ.เขมชาติ ถอดรหัสอันตรายของขบวนการล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้ชาย เพื่อชี้ให้เห็นว่า เด็กที่มีโอกาสตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ในปัจจุบัน ไม่ใช่เพียงแค่เด็กที่เป็นกลุ่มเปราะบางในสังคมเท่านั้น แต่กลับเป็นเด็กที่มีฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวดีต่างหาก ที่กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของคนร้าย ร.ต.อ.เขมชาติ บอกว่า หากวิเคราะห์จากอายุของเด็กที่ถูกล่วงละเมิดในคดี เนเน่โมเดลลิ่ง จะพบว่า เด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็ก ไม่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่เหมือนในอดีต เด็กที่ถูกล่อลวง ไม่จำเป็นต้องอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวอย่างพัทยาหรือภูเก็ต แต่เป็นเด็กที่อยู่ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาลหรือประถมต้นเท่านั้น เป็นเด็กที่ยังไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเพศ และยังไม่ถึงวัยที่จะเริ่มเรียนเรื่องเพศศึกษาด้วยซ้ำ และนั่นเป็นช่องว่างที่ทำให้คนร้ายสามารถล่อลวงไปล่วงละเมิด ทำอนาจาร ไปจนถึงกระทำชำเรากับเด็กได้โดยที่เด็กไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังถูกกระทำอยู่ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องร่วมกันสร้างองค์ความรู้พื้นฐานให้กับเด็ก โดยที่ยังไม่จำเป็นต้องให้เด็กวัยนี้เรียนรู้เรื่องเพศ “แต่เดิม ในโรงเรียนมีวิธีการสอนให้เด็กส่งเสียงดังทันทีหากมีอะไรผิดปกติ แต่ในความเป็นจริงมีเด็กน้อยมากที่จะรู้สิ่งที่มากระทำกับเขาอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นเราจึงต้องเปลี่ยนวิธีการสอน เพื่อสอนให้เด็กรู้ว่า อวัยวะส่วนไหนของร่างกายที่ไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นมาแตะต้องได้อย่างเด็ดขาด และอาจทำสื่อการสอนในรูปแบบการ์ตูนมาใช้ เช่น ถ้าต้องถอดเสื้อผ้า แตะอวัยวะในร่มผ้า ก็จะขึ้นเป็นไฟแดงเหมือนสัญญาณไฟจราจร” ร.ต.อ.เขมชาติ กล่าว ข้อเท็จจริงที่น่าเป็นกังวลที่สุดในคดีนี้ ซึ่ง ร.ต.อ.เขมชาติ ค้นพบ ก็คือ คนร้ายเข้าหาเด็กที่เป็นเหยื่อผ่านผู้ปกครองและโรงเรียน เพราะคนร้ายมีอาชีพเป็นโมเดลลิ่ง จึงมีข้อเสนอที่จะชักชวนให้เด็กที่เป็นเป้าหมายเข้าสู่วงการบันเทิง ทำให้พ่อแม่ของเด็กเห็นชอบที่จะปล่อยให้เด็กไปอยู่กับคนร้าย ส่วนโรงเรียนก็อาจจะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นในฐานะที่มีดาราเด็กเรียนอยู่ เมื่อประกอบ 2 ปัจจัยนี้เข้าไว้ด้วยกัน โรงเรียนจึงกลายเป็นใบเบิกทางให้คนร้ายเข้าถึงตัวเด็กได้อย่างง่ายดาย โดยที่พ่อแม่ไว้วางใจ เพราะเชื่อว่าผ่านการคัดกรองมาจากโรงเรียนแล้ว “ถ้าดูจากข้อมูลของเด็กที่ล่วงละเมิด เราพบว่า เนเน่ หาเด็กโดยตรงน้อยมาก ช่องทางที่เขาใช้เข้าหาเด็กจริงๆ มี 2 ทาง คือ การติดตามเด็กที่เป็นเป้าหมายและติดต่อไปที่พ่อแม่โดยตรง กับการทำจดหมายเข้าไปขอคัดเลือกเด็กในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง จนโรงเรียนกลายเป็นตราประทับความถูกต้องให้กับคนร้าย แถมยังสร้างความไว้วางใจให้กับพ่อแม่ของเด็ก และเมื่อเขาเข้าถึงเด็กโดยตรงได้แล้ว เขาจะติดต่อโดยตรงกับเด็กผ่านโซเชียลมีเดียที่เด็กใช้อยู่” เจ้าหน้าที่ DSI นำเสนอด้วยว่า สำหรับเด็กเล็กในวัยอนุบาลหรือประถมศึกษาตอนต้น พ่อแม่สามารถใช้แอปพลิเคชันที่มีชื่อว่า Family Duo ซึ่งจะจับคู่เครื่องมือสื่อสารของผู้ปกครองกับเด็กไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ปกครองสามารถรู้ได้ว่า ในช่วงเวลาที่เด็กอยู่คนเดียว เขากำลังเล่นอะไรอยู่ รู้ได้ว่าอยู่ที่ไหน และหากพบสิ่งที่เป็นอันตรายก็สามารถบล็อกได้ในทันที DSI มีข้อมูลที่ค้นพบจากคดีนี้ว่า คนร้าย มีพฤติกรรมเลือกเด็กที่เป็นเป้าหมายไว้ล่วงหน้าจากการติดตามโซเชียลมีเดีย ซึ่งต่างจากขบวนการล่วงละเมิดทางเพศเด็กผู้ชายในอดีตมาก เพราะมี “เทคโนโลยี” ที่ทำให้คนร้ายสามารถเข้าถึงตัวเด็กได้เอง โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง “ถ้าย้อนกลับประมาณมากกว่า 15 ปี การที่ขบวนการค้ามนุษย์เด็กผู้ชายจะเข้าถึงตัวเด็กได้ เขาจะต้องใช้คนกลางที่ทำงานในลักษณะเป็นผู้ติดตามเด็กกลุ่มเปราะบาง คล้าย Stalker แต่เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา กลุ่ม Stalker ก็ตกงานหมด เพราะอย่างที่บอกคือ เมื่อคนร้ายติดต่อผ่านผู้ปกครองหรือโรงเรียน เขาก็สามารถใช้เทคโนโลยีติดต่อกับเด็กโดยตรงได้เอง และขบวนการเหล่านี้ยังมีชุมชนของตัวเองที่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างดีอีกด้วย” จากปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นทั้ง 3 ข้อ ร.ต.อ.เขมชาติ จึงเห็นว่า มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องถอดบทเรียนจากคดี “เนเน่โมเดลลิ่ง” ออกมาเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ เพื่อสร้างกลไกในการป้องกันให้ลูกหลานของเราอย่างเร่งด่วน ไม่ควรปล่อยให้คดีนี้ผ่านไปโดยที่สังคมไทยรับรู้เพียงแค่ว่า มีคนร้ายที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ถูกตัดสินจำคุกกว่าร้อยปี ส่วนในแง่มุมทางกฎหมาย แม้กฎหมายจะมีประสิทธิภาพในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดในกรณีเช่นนี้ได้และมีบทลงโทษที่รุนแรง แต่ก็ยังมีปัญหาในการป้องกันการก่อเกิดเหตุอยู่มาก ร.ต.อ.เขมชาติ จึงเสนอให้ต้องมีกฎหมายเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือ จำเป็นต้องมีกฎหมายที่สามารถเอาผิดกับบุคคลที่ส่งข้อความในเชิงที่มีโอกาสจะกลายเป็นการล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก “จากที่เราเห็น คนร้ายจะเริ่มต้นด้วยการคุยกับเด็กว่า สนใจเป็นดารามั้ย จากนั้นก็จะชวนมาที่บ้าน ชักชวนให้เด็กเปลื้องผ้าและให้ส่งรูปมา ซึ่งจริงๆ แล้วเมื่อมีข้อความเช่นนี้ก็ควรจะเข้าจับกุมได้แล้ว แต่กฎหมายไทยในปัจจุบันไม่สามารถทำได้จนกว่าเด็กจะส่งรูปมาให้คนร้ายไปแล้ว” ประเด็นที่สอง คือ จำเป็นต้องเพิ่มอาวุธทางเทคโนโลยีให้เจ้าหน้าที่รัฐ ในการใช้ยุทธวิธีเพื่อติดตามจับกุม ร.ต.อ.เขมชาติ กล่าวว่า ข้อนี้แบ่งเป็น 2 วิธีการ คือ ควรอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐแฝงตัวเข้าไปใน Dark Web ที่คนร้ายใช้ซื้อขายรูปภาพการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ซึ่งปัจจุบันมีเพียง DSI หน่วยงานเดียวที่มีอำนาจทำได้ หากเป็นคดีพิเศษ แต่มันไม่เพียงพอและเจ้าหน้าที่ DSI ก็ทำได้ไม่ทั่วถึง ส่วนอีกวิธีการหนึ่ง ดีเอสไอเคยเสนอว่า กฎหมายต้องอนุญาตให้เราสามารถใช้ AI เข้าไปปลอมตัวเป็นเหยื่อเพื่อใช้วิธีการล่อซื้อได้ เพราะจริงๆ แล้ว เรามีข้อมูลของคนร้ายมากพอที่จะระบุตัวตนได้ แต่ไม่มีหลักฐานพอเพื่อใช้ในการจับกุม และหากเราสามารถปลอมตัวไปในโซเชียลมีเดียได้ก็จะช่วยปกป้องไม่ให้เด็กตกเป็นเหยื่อได้อีกมาก ซึ่งกฎหมายเช่นนี้ หลายประเทศในยุโรปเริ่มใช้กันมานานแล้ว

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2565 ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เข้าตรวจสอบเหตุยิงกัน บริเวณตรงข้ามมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี พบผู้เสียชีวิต 1 คน คือนายสมาธิ อายุ 25 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์

12 กรกฎาคม 2566 ศาลอาญามีคำพิพากษา “จำคุก” 121 ปี 358 เดือน นายดนุเดช แสงแก้ว หรือ “เนเน่ โมเดลลิ่ง”