วันนี้ (9 พ.ย.2566) นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  กล่าวถึงการนำผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (8 พ.ย.) เกี่ยวกับการตั้งคณะทำงานดูแลเรื่องภาคใต้ว่า นายกรัฐมนตรี พูดเร

ไม่ใช่แค่หวังสะท้อนความแน่นปึ้ก ของ”บ้านใหญ่”ในจังหวัดที่อาจเป็นแบบอย่างให้”บ้านใหญ่”จังหวัดอื่นเท่านั้น แต่ยังมีนัยสะท้อนการเป็นแบ๊คอัพที่เข้มแข็งให้กับพรรคเพื่อไทย และ “นายใหญ่” นายทักษิณ ชินวัตร ที่ครั้งนี้ต้องลงทุนลงแรงมาก ทั้งการลงพื้นที่เป็นประธานงานเลี้ยงบวชทายาทของหนึ่งใน 8 บ้านใหญ่ พร้อมลูกสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และยังส่งทั้งลูกสาวลูกชาย ลงไปช่วยนายชาญหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายด้วย เพราะถูกทั้งคน “บ้านใหม่” และคนหน้าใหม่ หาญกล้ามาลูบคม จนกระเด็นกระดอนไปตามๆกัน ในการเลือกตั้ง สส.ครั้งที่ผ่านมา แต่เบื้องลึกชัยชนะก็หนักหนาสาหัส เพราะ “บิ๊กแจ๊ส” ถือว่าไม่ธรรมดา คะแนนที่แพ้ให้นายชาญ มีแค่ไม่ถึง 2 พัน สะท้อนแรงหนุนจากค่ายสีน้ำเงิน และอาจได้จากเครือข่ายสีส้ม ที่ปักฐาน สส.ในจังหวัดได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด รวมกับเหตุผลในทางยุทธศาสตร์ คือหากรอครบวาระ เลือกนายกฯ และสมาชิกสภา อบจ. (ส.อบจ.) วันเดียวกัน อาจเจอศึกหนักมากกว่าเลือกคนละวัน เพราะจะมีทีมของ สจ.ลงพื้นที่ช่วยอีกแรงหนึ่ง อีกแห่งคือ นายก อบจ.ชัยภูมิ ที่บ้านใหญ่รุ่นเก๋า อย่างนายอร่ามอาชว์วัต (อร่าม) โล่ห์วีระ อดีต รมช.คมนาคม สมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ปัจจุบันมีลูกชายเป็น สส.พรรคพลังประชารัฐ ลงรักษาเก้าอี้เจอกับคู่ชิงสำคัญคือหลังบ้าน สส.ชัยภูมิ จากพรรคภูมิใจไทย เท่ากับการแข่งขันแย่งชิงผู้บริหารท้องถิ่น ยังคงวนเวียนอยู่กับ “บ้านใหญ่” เป็นสำคัญ แต่จะต่างจากเลือกตั้งระดับประเสูตร โร ม่า ทุน 100ทศ เช่นเลือก สส. ดังที่ รศ.อดิศร เนาวนนท์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ตั้งข้อสังเกตว่า มักจะไม่ค่อยจะไปด้วยกัน เนื่องจากในระดับท้องถิ่น จะไม่เน้นไปที่การขายนโยบายเป็นหลัก แต่จะเน้นไปที่การทุ่มเทและทุ่มทุนไปกับกลุ่มหัวคะแนนให้กระจายมากที่สุดในจังหวัด เท่ากับ “กระเป๋าต้องหนัก” แต่หากดูจากโพลล่าสุดของนิด้าโพล รศ.อดิศร เห็นว่า ที่คะแนนนิยมของทั้งนายเศรษฐา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมถึงพรรคเพื่อไทยลดลง อาจเป็นสัญญาณการถดถอยในระดับหนึ่ง แต่สำหรับประชาชนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนหนึ่ง ยังคงยึดติดกับชื่อนายทักษิณจาก หลายนโยบาย อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือกองทุนหมู่บ้าน จึงเป็นต้นทุนพื้นฐาน ที่นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยเชื่อว่ายังมีอยู่ ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แกนนำในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ยังคงแสดงท่าทีชัดเจนเรื่องเดินหน้านโยบายเรือธงอย่างดิจิทัลวอลเล็ต ปลายปีนี้ แนวทางนี้ เชื่อว่าจะถูกใช้ประกอบควบคู่ไปกับการรื้อฟื้นและมัดรวม “บ้านใหญ่” ในแต่ละจังหวัดเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดพลังที่เข้มแข็ง และจะช่วยให้การเรียกคะแนนนิยมในการเลือกตั้งท้องถิ่นกลับคืนมา เพราะในอีกด้านหนึ่ง “บ้านใหญ่” ก็จะทนเฉยให้โดนคุมกำเนิด โดนด้อยค่าต่อไปไม่ได้ จึงเป็นทางออกที่หลายฝ่ายต่างเห็นตรงกัน คือหากไม่ร่วมแรงร่วมใจกันเหมือนกรณี 8 บ้านใหญ่ปทุมฯ ทั้งบ้านใหญ่-พรรคเพื่อไทย รวมถึงนายทักษิณ อาจต้องพังยับเยิน และส่อเค้าอาจจะหายไปจากสาระบบด้วยกัน ในการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว : ขยายแผลช้ำ "ลุงชาญ" ศาลฯ รับฟ้องคดีทุจริต ติดกับดักตัวเอง กกต.ปทุมธานี ยันตรวจสอบแล้ว “ลุงชาญ” ไม่ขาดคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้าม เลขาฯ กฤษฎีกา ชี้ "ชาญ" ยังนั่ง "นายก อบจ.ปทุมฯ" ไม่ได้ เพราะมีคดีค้างเก่าที่ ป.ป.ช.

วันนี้ (18 ธ.ค.2566) หลายคนลุ้นค่าไฟงวดเเรกของปีหน้าว่ารัฐบาลจะเคาะราคาที่เท่าไหร่ จะเป็นของขวัญปีใหม่ได้หรือไม่? นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานมีแผนเตรียมเสนอคณะ

ไม่ใช่แค่หวังสะท้อนความแน่นปึ้ก ของ”บ้านใหญ่”ในจังหวัดที่อาจเป็นแบบอย่างให้”บ้านใหญ่”จังหวัดอื่นเท่า

นิยายชีวิต โดย : Budi Raharjo
เรื่องและภาพโดย : Budi Raharjo
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..