วันนี้ ( 17ก.ค.2567) นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัว
3 สิงหาคม 2025 - 00:53
วันนี้ (25 ก.ค.2566) ความคืบหน้าการควบรวมกิจการระห
3 สิงหาคม 2025 - 00:53

สล็อตโจ๊กเกอร์998วิเคราะห์บอล เล บ้าน เต้

วันนี้ (8 มี.ค.2564) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตามที่พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ยื่นคำร้องขอฝากขังผู้ต้องหา ซึ่งกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่

วันนี้ (3 ต.ค.2566) เวลาประมาณ 22.40 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุพระราม 199 เกิดเหตุไฟไหม้ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีแสงไฟลุกไหม้จากพื้นที่ภายในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้ข้อมูล

ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.2 หลุมฝังกลบ "ชุมชนหนองพะวา" ยุติธรรมไม่มีจริง ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.3 "ขยะอันตราย" ผู้ก่อมลพิษ ต้องรับผิดชอบ ความสูญเสียราคาแพง จากโรงงาน "แว็กซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล" ... ชนะคดีแต่ไม่ได้เงินเยียวยา - ใช้เงินหลวงกำจัดของเสียอันตราย คดีมหากาพย์ 23 ปี "59 ล้านบาท" คือ ราคาที่รัฐต้องจ่ายไปก่อนเบื้องต้น เพื่อนำของเสียอันตรายอย่างน้อยกว่า 13,000 ตัน ออกจากโรงงาน แว็กซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ออกไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ หลังโรงงานรีไซเคิลแห่งนี้ถูกร้องเรียนว่าสร้างผลกระทบให้พื้นที่โดยรอบมากว่า 23 ปี เพราะนำของเสียอันตรายมาลักลอบทิ้งและฝังกลบในบริเวณโรงงาน โดยมีการนัดประชุมแผนการขนย้ายในวันที่ 30 ต.ค.2566 เงินจำนวนนี้ คือ งบประมาณที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรมยื่นเสนอขอคณะรัฐมนตรีให้อนุมัติงบกลางลงมา เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรงงานรีไซเคิลแห่งนี้ก่อน เนื่องจากตัวโรงงานเอง อ้างว่า ไม่มีศักยภาพที่จะนำของเสียอันตรายเหล่านี้ไปกำจัดได้ เพราะโรงงานล้มละลายไปแล้ว ธนู งามยิ่งยวด เคยเป็นเจ้าของสวนลำไยกว่า 100 ไร่ ในที่ดินของตัวเอง แต่ละปีจะมีกำไรจากการซื้อขายและส่งออกลำใยปีละประมาณ 2 ล้านบาท เมื่อปี 2543 มีโรงงานรีไซเคิลมาตั้งอยู่ที่ต้นน้ำ ห่างจากสวนลำไยประมาณ 400 เมตร น้ำในห้วยเริ่มมีฟองสีขาว ส่งกลิ่นเหม็น ตรวจพบมีการปนเปื้อนสารเคมีทั้งในน้ำผิวดิสล็อตโจ๊กเกอร์998วิเคราะห์บอล เล บ้าน เต้นและแหล่งน้ำใต้ดิน ในที่สุดต้นลำไยได้ทยอยตายลงจนหมด บริษัท แว็กซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ ได้รับใบอนุญาตให้เปิดกิจการในปีเดียวกันกับที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ คือ ปี 2543 มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ถึง 9 ใบ โดยมี 5 ใบ เป็นโรงงานลำดับที่ 106 หรือที่เรียกกันว่า "โรงงานรีไซเคิล" ซึ่งชาวบ้านพบว่า โรงงานแห่งนี้ประกอบกิจการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกับสีทาบ้าน และอาจไม่ได้มีกระบวนการรีไซเคิลจริง "ของเสียจำนวนมากกลับถูกฝังกลบอยู่ใต้ดิน จากนั้นก็เทปูนทับลงไปพร้อมสร้างหลังคาขึ้นมาปกคลุมคล้ายเป็นโรงเรือนไม่ให้ถูกมองเห็นได้จากด้านบน แต่หากเดินเข้าไปดูในโรงงานก็จะพบว่า พื้นปูนใต้หลังคาที่คลุมไว้มีลักษณะเป็นคลื่น ไม่ราบเรียบ และไม่ได้ประกอบกิจกรรมใดๆ ในโรงเรือน" ผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ทุกคน ให้ข้อมูลตรงกัน ธนู ในฐานะเจ้าของสวนลำไยกว่า 100 ไร่ ได้ประเมินความเสียหายร่วมกับทีมทนายความ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชยจากโรงงานไปเป็นเงินจำนวน 16 ล้านบาท แม้ ธนูจะเป็นผู้ชนะในคดีนี้ แต่ศาลมีคำพิพากษาให้โรงงานจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินจำนวน 600,000 บาท เนื่องจากไม่เคยมีตัวอย่างและหลักเกณฑ์การประเมินค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ศาลจึงไปนำหลักเกณฑ์การชดเชยเยียวยาความเสียหายจากภัยแล้งมาเป็นหลักในการพิจารณา "ชนะคดีมา 3 ปีแล้ว ศาลพิพากษาให้โรงงานจ่ายค่าเสียหายให้แค่ 600,000 บาท จากที่เรียกไป 16 ล้านบาท โรงงานยังไม่เคยจ่ายแม้แต่บาทเดียว หลายปีผ่านมา สวนลำไยเสียหายมาก ทำให้ขาดรายได้ จึงเปลี่ยนรูปแบบเอาพื้นที่ไปทำกิจกรรมให้คนมาเที่ยว ก็ไม่มีใครมาเพราะเหม็นสารเคมี ขายที่ดินก็ไม่มีใครซื้อ สิ่งที่ทำได้เพียงการขายอุปกรณ์ เครื่องมือหากินไปทีละชิ้น จนทุกวันนี้ก็ต้องขายสมบัติเก่าๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีเงินใช้ในแต่ละวัน" ธนู บอกว่า ในฐานะเป็นผู้เสียหายและได้รับผลกระทบจากโรงงานที่ลักลอบทิ้งของเสีย และยังเป็นชาวบ้านที่ลุกขึ้นสู้ รวมตัวกันฟ้องร้องกันเอง เป็นกลุ่มคนที่ชนะคดีไปแล้วด้วย แต่สิ่งที่ได้รับ คือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ดิน น้ำ อากาศยังปนเปื้อนเหมือนเดิม ไม่ได้รับการเยียวยา ของเสียก็ยังอยู่ที่เดิม จึงหวังว่าที่กรมโรงงานฯ ไปขอเงินรัฐบาลมาได้ จะช่วยกำจัดของเสียพวกนี้ออกไปได้จริงๆ แต่ .. งบประมาณ 59 ล้านบาทที่นำมากำจัดของเสียอันตรายราว 13,000 ตันนี้ จะกำจัดไปได้แค่เพียงของเสียที่มองเห็นบนดินเท่านั้น เช่น ถังขนาด 200 ลิตร กว่า 58,000 ใบ / ถัง 1,000 ลิตร กว่า 900 ใบ / ปิ๊ป / ถุงบิ๊กแบ็ก / ดินที่ปนเปื้อน ....ยังไม่รวมสิ่งที่อยู่ใต้ดิน จินดา เตชะศรินทร์ ผอ.กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า งบประมาณกว่า 59 ล้านบาทที่กรมโรงงานฯ ไปขอมาจากคณะรัฐมนตรี จะถูกใช้เพื่อนำของเสียอันตรายชุดแรกออกไปกำจัด เป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ก่อน จากนั้นก็จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายส่วนนี้คือจากทางโรงงาน ในฐานที่เป็นผู้ก่อมลพิษ โดยได้หารือกับทางอัยการแล้วว่า ในการฟ้องร้องจะต้องเรียกค่าเสียหายมากกว่าค่ากำจัดของเสียอันตราย เพราะต้องบวกค่าดำเนินการ กรมโรงงานฯ ต้องส่งเจ้าหน้าที่และนักวิทยาศาสตร์ลงไปติดตามตรวจสอบการประเมินราคาค่ากำจัดของเสีย ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปการขนย้ายของเสียไปกำจัดแล้ว จะสรุปตัวเลขที่ต้องฟ้องเรียกคืนเงินให้กับรัฐต่อไป ส่วนของเสียอันตรายที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ผอ.กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม บอกว่า กรมโรงงานฯ กำลังหารือกับกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และอาจต้องหารือเพิ่มเติมกับกรมทรัพยากรธรณี เพื่อตั้งงบประมาณเพิ่มสำหรับการขุดเจาะสำรวจในบริเวณนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีค่าดำเนินการขุดเจาะอีกประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งจะต้องไปดูอีกว่าจะใช้งบประมาณจากแหล่งไหน จากการติดตามสถานการณ์ของธนู ผู้นำชุมชน และเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ ซึ่งร่วมกับนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดของเสียอันตราย เพื่อตรวจสอบการสำรวจก่อนการขนย้ายของเสียอันตราย มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า เมื่อทดลองเจาะลงไปตามจุดต่างๆ ที่มีร่องรอยการฝังกลบพบทุกจุดมีของเสียอันตรายบรรจุอยู่ในถุงบิ๊กแบ็กถูกฝังอยู่ ส่วนมากมีลักษณะเป็นฝุ่นทราย มีสีแดง และมีราคาค่ากำจัดอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อตัน หรือกล่าวได้ว่า มีราคาค่ากำจัด "แพงกว่า" ของเสียที่ไม่ได้ถูกฝังกลบไว้ หมายความว่า หากจะกำจัดของเสียอันตราย จาก "แว็กซ์ กาเบ็จ" ให้หมดไปก่อน รัฐอาจต้องใช้งบประมาณอีกหลายสิบล้านบาทมาดำเนินการไปก่อน แล้วค่อยไปฟ้องร้องเรียกคืนจากโรงงานในภายหลัง วันที่ 30 ต.ค.2566 มีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรงงานแว็ก กาเบ็จ ซึ่งประชุมเป็นครั้งที่ 4 แล้ว เพื่อสรุปแผนการขนย้ายของเสียอันตรายที่อยู่บนดินออกไปก่อนในรอบแรก แต่ยังพบปัญหาว่า ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมต้องไปขอหมายศาลเพื่อให้เอกชนที่รับหน้าที่นำของเสียไปกำจัดสามารถเข้าไปขนย้ายออกจากโรงงานได้ เพราะที่ผ่านมายังมีความพยายามของทางโรงงานที่จะยับยั้งการขนย้ายมาโดยตลอด แม้ที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นจากโรงงานแว็กซ์ กาเบ็จ จะถูกนำเสนอผ่านสื่อมวลชนมาอย่างต่อเนื่องในหลายช่องทาง แต่ในทางกลับกัน ธนู ย้ำว่า ยังไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ของเสียอันตรายยังไม่เคยถูกนำไปกำจัด ชาวบ้านได้รับผลกระทบมากขึ้น โดยเฉพาะการปนเปื้อนในช่วงที่ฝนตก 23 ปี มหากาพย์การต่อสู้ระหว่างชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโรงงานรีไซเคิล แว็กซ์ กาเบ็จ จึงเริ่มต้นด้วยการสิ้นเนื้อประดาตัวของประชาชนที่อยู่ใกล้โรงงาน พวกเขาเป็นเหยื่อให้กลุ่มคนที่ลักลอบทิ้งของเสียอันตรายได้ร่ำรวยด้วยการลดต้นทุนค่ากำจัดของเสีย... แต่บทเรียนที่มีราคาแพงที่สุด ที่หน่วยงานของรัฐควรจะได้ค้นพบจากการละเลยจนทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาได้อย่างยาวนาน คือ การปนเปื้อนของเสียอันตราย ซึ่งมีราคาแพงลิบลิ่วและไม่มีวันแก้ไขได้ ชาวบ้านที่ชนะคดีความไม่สามารถกลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้อีก, ดิน น้ำ อากาศ กลับมาไม่ได้เหมือนเดิม, โรงงานผู้ก่อมลพิษหนีความรับผิดชอบมหาศาลได้ด้วยเพียงคำว่า "ไม่มีเงิน" และสุดท้าย หากหน่วยงานรัฐจะคืนความเป็นธรรมให้ประชาชนผู้เดือดร้อนได้บ้างก็ต้องใช้ "งบประมาณของรัฐ" โดยไม่มีหลักประกันใดๆ สามารถบอกได้ว่า การดำเนินคดีจะทำให้รัฐได้เงินส่วนนี้คืนมา ที่สำคัญ คือ โรงงานรีไซเคิลที่ จ.ราชบุรี เป็นแค่หนึ่งในอีกหลายจุดที่กำลังจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันตามมาในอนาคตอันใกล้ เพียงเพราะคำว่า "ละเว้น" ที่ถูกปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน รายงานโดย: สถาพร พงษ์พิพัฒน์วัฒนา

ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.2 หลุมฝังกลบ "ชุมชนหนองพะวา" ยุติธรรมไม่มีจริง ปนเปื้อน เดอะซีรีส์ EP.3 "ขยะอันตราย" ผู้ก่อมลพิษ ต้องรับผิดชอบ ความสูญเสียราคาแพง จากโรงงาน "แว็กซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล" ... ชนะคดีแต

วันนี้ 13 พ.ย.2566 ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กก.6 บก.ป. ร่วมกับ กก.สส.ภ.8 ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้าน นายสุพ