จากกรณีที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาต

หลังจากมูลนิธิก้าวคนละก้าว โดยนายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ได้ออกมาประกาศโครงการก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน "๑๐๙ คำขอบพระคุณ" ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสานต่อกิจกรรมวิ่งก้าวเพื
กรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นเพียงจุดเสี่ยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง เพียงแห่งเดียวของโลกเท่านั้น เมื่อเดือน มิ.ย.2564 กรีนพีซเผยแพร่รายงานความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่คาดการณ์จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลแบ
กรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นเพียงจุดเสี่ยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง เพียงแห่งเดียวของโลกเท่านั้น เมื่อเดือน มิ.ย.2564 กรีนพีซเผยแพร่รายงานความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่คาดการณ์จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลแบบสภาวะสุดขีด หรือ Extreme Sea-Level Rise ใน 7 เมืองของเอเชีย ภายในปี 2030 หรือในอีก 9 ปีข้างหน้า ซึ่ง 7 เมืองในรายฉบับนี้ ประกอบไปด้วยฮ่องกง กรุงไทเป กรุงโซล กรุงโตเกียว กรุงจาการ์ตา กรุงมะนิลา และกรุงเทพมหานคร กรีนพีซ ระบุว่าเมืองชายฝั่งทั่วเอเชีย กำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากน้ำท่วม จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและพายุโซนร้อน โดยพายุมีความเร็วลมรุนแรงสร้างความเสียหายมากขึ้น คลื่นพายุซัดฝั่งสูงขึ้นและปริมาณน้ำฝนที่มีสภาวะสุดขีดมากกว่าในอดีต สาระสำคัญของรายงานฉบับนี้คือ มากกว่าร้อยละ 96 ของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงน้ำท่วม หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์อุทกภัยคาบอุบัติซ้ำ 10 ปี หรือ "ten-year flood" ซึ่งหมายถึง เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่กว่าปกติในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ยังประเมินว่า หากเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น สัปปายะสภาสถาน รัฐสภาแห่งใหม่ของไทย จะเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมเช่นกัน ซึ่งกรุงเทพฯ จะได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 512,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 15 ล้านล้านบาท ขณะที่ประชากรอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน อาจได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและน้ำท่วมชายฝั่งภายในปี 2030 ขณะที่รายงานของสถาบันทรัพยากรโลก หรือ World Resources Institute ประเมินว่า ผู้ได้รับกระทบจากน้ำท่วมในหลายประเทศทั่วโลก มีแนวโน้มสูงขึ้น 2 เท่า จาก 72 ล้านคน เมื่อปี 2010 เพิ่มขึ้นเป็น 147 ล้านคนในปี 2030 ผู้ได้รับผลกระทบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 221 ล้านคนในปี 2050 ขณะที่ความเสียหายอาจพุ่งสูงถึงปีละ 1,700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 51 ล้านล้านบาท ความรุนแรงของนสมัครสมาชิกรับ 68 บาท วิเคราะห์ บาร์ เซ โล น่า วัน นี้้ำท่วมมาจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เสี่ยงสูงและแผ่นดินทรุดตัวจากการใช้น้ำบาดาลมากเกินไป พื้นที่เสี่ยงส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงบังกลาเทศ เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน การขุดคลอง การสร้างสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ใต้น้ำ เพื่อระบายน้ำออกหากเกิดวิกฤตน้ำท่วม ถือเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ที่มา : Greenpeace ,World Resources Institute ,The Guardian
กรณีนายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน ออกมาเปิดเผยในรายการหนึ่งถึงเรื่องราวชีวิตระหว่างถูกดำเนินคดี Forex
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เตรียมเปิดพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำ วันที่ 20-24 เม.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา 16.00-20
วันนี้ (31 พ.ค.2566 ) กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนคลื่นลมแรงและฝนตกหนักถึงหนักมาก มีผลกระทบถึงวันที่
กรุงเทพมหานครไม่ได้เป็นเพียงจุดเสี่ยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง เพียงแห่งเดียวของโลกเท่านั้น เมื่อเดือน มิ.ย.2564 กรีนพีซเผยแพร่รายงานความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่คาดการณ์จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลแบบสภาวะสุดขีด หรือ Extreme Sea-Level Rise ใน 7 เมืองของเอเชีย ภายในปี 2030 หรือในอีก 9 ปีข้างหน้า ซึ่ง 7 เมืองในรายฉบับนี้ ประกอบไปด้วยฮ่องกง กรุงไทเป กรุงโซล กรุงโตเกียว กรุงจาการ์ตา กรุงมะนิลา และกรุงเทพมหานคร กรีนพีซ ระบุว่าเมืองชายฝั่งทั่วเอเชีย กำลังเผชิญกับความเสี่ยงจากน้ำท่วม จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและพายุโซนร้อน โดยพายุมีความเร็วลมรุนแรงสร้างความเสียหายมากขึ้น คลื่นพายุซัดฝั่งสูงขึ้นและปริมาณน้ำฝนที่มีสภาวะสุดขีดมากกว่าในอดีต สาระสำคัญของรายงานฉบับนี้คือ มากกว่าร้อยละ 96 ของกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงน้ำท่วม หากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์อุทกภัยคาบอุบัติซ้ำ 10 ปี หรือ "ten-year flood" ซึ่งหมายถึง เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่กว่าปกติในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ยังประเมินว่า หากเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น สัปปายะสภาสถาน รัฐสภาแห่งใหม่ของไทย จะเสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมเช่นกัน ซึ่งกรุงเทพฯ จะได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่า 512,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 15 ล้านล้านบาท ขณะที่ประชากรอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน อาจได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและน้ำท่วมชายฝั่งภายในปี 2030 ขณะที่รายงานของสถาบันทรัพยากรโลก หรือ World Resources Institute ประเมินว่า ผู้ได้รับกระทบจากน้ำท่วมในหลายประเทศทั่วโลก มีแนวโน้มสูงขึ้น 2 เท่า จาก 72 ล้านคน เมื่อปี 2010 เพิ่มขึ้นเป็น 147 ล้านคนในปี 2030 ผู้ได้รับผลกระทบมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 221 ล้านคนในปี 2050 ขณะที่ความเสียหายอาจพุ่งสูงถึงปีละ 1,700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 51 ล้านล้านบาท ความรุนแรงของนสมัครสมาชิกรับ 68 บาท วิเคราะห์ บาร์ เซ โล น่า วัน นี้้ำท่วมมาจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การตั้งถิ่นฐานในพื้นที่เสี่ยงสูงและแผ่นดินทรุดตัวจากการใช้น้ำบาดาลมากเกินไป พื้นที่เสี่ยงส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงบังกลาเทศ เวียดนาม อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน การขุดคลอง การสร้างสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ใต้น้ำ เพื่อระบายน้ำออกหากเกิดวิกฤตน้ำท่วม ถือเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ที่มา : Greenpeace ,World Resources Institute ,The Guardian
กรณีสื่อออนไลน์ เผยแพร่ข้อมูลกลุ่มวัยรุ่นโอริโอ้ ที่เล่นเกม Five M อินกับเกมและมีพฤติกรรมก้าวร้าว มี