กลับมาอยู่ในความสนใจของวงการอนุรักษ์อีกครั้ง เมื่อ

วันนี้ (8 ม.ค.2567) นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดา ของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เข้าปรึกษานายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งเป็นอดีตทนายความในคดีการเสียชีวิตของแตงโม พร้อมเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตัวเองอาจจะถูก 1 ใน
คัลแลน (컬렌) หรือ PARK KIDEUK เกิดปี 1990 ขณะนี้อายุ 33 ปี ตอนเด็กๆ เขามักถูกทักว่าเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลี เพราะเค้าโครงหน้าคล้ายกับคนไทย จนเกิดความสนใจในประเทศไทย และตัดสินใจมาเมืองไทย เพื่อให้เห็นกับต
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.2566) และต้องเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม จากจำนวนคดีที่เหลืออยู่ 3 คดี ดังนี้ อ่านข่าว : 3 คดีทุจริตเดินหน้าหาก "ทักษิณ" Comeback สำหรับการเริ่มนับระยะเวลาลงโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 22 บัญญัติวางหลักไว้ว่า "มาตรา 22 โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษาเว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ในกรณีคำพิพากษากล่าวไว้เป็นอย่างอื่น โทษจำคุกตามคำพิพากษาเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาในคดีเรื่องนั้นเข้าด้วยแล้ว ต้องไม่เกินอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำลงนั้น ทั้งนี้ไม่เป็นการกระทบ กระเทือนบทบัญญัติในมาตรา 91" ในกรณีที่จำเลยต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ศาลไม่นับโทษต่อจากโทษในคดีก่อนให้ การขอให้นับโทษต่อจากคดีเรื่องอื่น โจทก์ต้องแถลงให้ชัดว่าคดีเดิมศาลตัดสินลงโทษแล้ว ประกอบด้วยหลักฐาน กรณีไม่ใช่ข้อที่ศาลรู้เอง การนับโทษต่อจากคดีก่อนคือการใช้มาตรานี้ที่ว่า "เว้นแต่คำพิพากษาจะได้กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ซึ่งเป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่ง ๆ เริ่มนับแต่วันใดได้ "โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักจำนวนวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ในกรณีที่คำพิพากษากล่าวไว้เป็นอย่างอื่น โทษจำคุกตามคำพิพากษาเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาในคดีเรื่องนั้นเข้าด้วยแล้วต้องไม่เกินอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำลงนั้น ทั้งนี้ไม่เป็นการกระทบกระเทือนบทบัญญัติในมาตรา 91" ฎีกาที่ 5548/2559 ตาม ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักจำนวนวันที่ถูกคุมขัง ออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นได้ว่า ถ้าคำพิพากษาไม่ได้กล่าวเป็นอย่างอื่น โทษจำคุกต้องเริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา แสดงว่ากฎหมายให้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดวันเริ่มนับโทษจำคุกแต่วันอื่นได้เพียงแต่ต้องกล่าวไว้ในคำพิพากษาและอยู่ภายใต้มาตรา 22 วรรคสอง การนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่น ย่อมกระทำได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว ฎีกาที่ 1831/2557 วันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก หมายถึง วันที่ศาลอ่านคำพิพากษา โดยเปิดเผยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 และ 188 โดยคำพิพากษาไม่จำเป็นต้องถึงที่สุด เพราะเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยย่อมต้องถูกบังคับโทษตามคำพิพากษานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาจะพิพากษาแก้โทษจำคุก ก็ไม่มีผลต่อวันเริ่มนับโทษจำคุก ความหมายของคำว่า "เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ต้องโทษจำคุกอาจจะไม่ได้รับโทษจำคุกในวันที่มีคำพิพากษาก็ได้ แต่อาจรับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกในคดีก่อน ทั้งนี้ แล้วแต่ที่จะกำหนดไว้ในคำพิพากษา ตามที่มาตรา 22 วรรคแรก บัญญัติไว้ในตอนท้ายว่า "เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ซึ่งถือเป็นดุลพินิจของศาล (ฎีกาที่ 281/2505, ฎีกาที่ 276/2513) ฎีกาที่ 4656/2540 การขอให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีหนึ่งต่อจากโทษคุกของจำเลยในคดีอื่น เป็นการขอให้ศาลกล่าวไว้เป็นอย่างอื่นในคำพิพากษาเกี่ยวกับการเริ่มนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนั้นว่าจะให้เริ่มนับแต่เมื่อใด ซึ่งหากไม่กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ก็จะต้องเริ่มแต่วันมีคำพิพากษา ตาม ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าสมควรให้นับโทษต่อหรือไม่เพียงใด ฎีกาที่ 2469/2560 ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า โทษจำคุกให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างtaibet88 เครดิต ฟรี 200slotworld777อื่นนั้น เป็นบทกำหนดหลักเกณฑ์ในการบังคับโทษจำคุกว่าให้เริ่มนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา โดยมีข้อยกเว้นในกรณีที่ศาลจะมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น การใช้ดุลพินิจให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น จึงเป็นข้อยกเว้นไม่ให้เริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา (และฎีกาที่ 5548/2559) การที่โจทก์ขอให้ "นับโทษต่อ" เป็นการขอให้ศาล "กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ตามความหมายของมาตรา 22 วรรคหนึ่ง โจทก์มีอำนาจที่จะขอให้ศาลสั่งให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีหนึ่งต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอื่นได้ โดยฎีกาที่ 4656/2540 วินิจฉัยว่า ถือเท่ากับว่า "เป็นการขอให้ศาลกล่าวไว้เป็นอย่างอื่นในคำพิพากษาเกี่ยวกับการเริ่มนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนั้นว่าจะให้เริ่มนับแต่เมื่อใด ซึ่งหาก (ศาล) ไม่กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ก็จะต้องเริ่ม (นับโทษจำคุก แต่วันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคหนึ่ง จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าสมควรให้นับโทษต่อหรือไม่เพียงใด" ข้อสังเกต หากศาลใช้ดุลพินิจให้มีการนับโทษคดีหลังต่อจากโทษในคดีแรก โทษทั้งหมดรวมกัน อาจเกินกำหนดของมาตรา 91 ก็ได้ (ให้ดูคำอธิบายมาตรา 91) โจทก์ต้องมี "คำขอ" ให้ศาล "นับโทษต่อ" นั้นทางอัยการเข้าของคดีนั้น ๆ จะต้องเป็นผู้ยื่นคำขอหรือคำร้องต่อศาล ข้อสังเกต การที่ศาลจะสั่งในคำพิพากษาให้นับโทษจำคุกสองคดีติดต่อกันนั้น โจทก์จะมีคำขอ (ฎีกาที่ 992/2546) กฎหมายมิได้บัญญัติว่าการขอให้นับโทษต่อ อ่านข่าวอื่น ๆ ดีลจบ 11 พรรคตั้ง "รัฐบาลเพื่อไทย" 314 เสียง "เพื่อไทย" คุม 8 กระทรวง “ทักษิณ” กลับไทยเรื่อง “ได้” มากกว่า “เสีย” เคลียร์รับ "ทักษิณ" เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ งดเยี่ยมญาติ 22 ส.ค. เส้นทาง 22 ปี "ณัฐวุฒิ" เกิด-เติบโต-ยุติ บทบาท "เพื่อไทย"
วันนี้ (28 ส.ค. 2564) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึ
“ไทยพีบีเอสออนไลน์” สัมภาษณ์พิเศษ “ปิ่นสักก์ สุรัสวดี” อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ในห้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.2566) และต้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.2566) และต้องเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม จากจำนวนคดีที่เหลืออยู่ 3 คดี ดังนี้ อ่านข่าว : 3 คดีทุจริตเดินหน้าหาก "ทักษิณ" Comeback สำหรับการเริ่มนับระยะเวลาลงโทษจำคุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 22 บัญญัติวางหลักไว้ว่า "มาตรา 22 โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษาเว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ในกรณีคำพิพากษากล่าวไว้เป็นอย่างอื่น โทษจำคุกตามคำพิพากษาเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาในคดีเรื่องนั้นเข้าด้วยแล้ว ต้องไม่เกินอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำลงนั้น ทั้งนี้ไม่เป็นการกระทบ กระเทือนบทบัญญัติในมาตรา 91" ในกรณีที่จำเลยต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ศาลไม่นับโทษต่อจากโทษในคดีก่อนให้ การขอให้นับโทษต่อจากคดีเรื่องอื่น โจทก์ต้องแถลงให้ชัดว่าคดีเดิมศาลตัดสินลงโทษแล้ว ประกอบด้วยหลักฐาน กรณีไม่ใช่ข้อที่ศาลรู้เอง การนับโทษต่อจากคดีก่อนคือการใช้มาตรานี้ที่ว่า "เว้นแต่คำพิพากษาจะได้กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ซึ่งเป็นอำนาจศาลที่จะสั่งให้โทษจำคุกในคดีหนึ่ง ๆ เริ่มนับแต่วันใดได้ "โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักจำนวนวันที่ถูกคุมขังออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ในกรณีที่คำพิพากษากล่าวไว้เป็นอย่างอื่น โทษจำคุกตามคำพิพากษาเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษาในคดีเรื่องนั้นเข้าด้วยแล้วต้องไม่เกินอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำลงนั้น ทั้งนี้ไม่เป็นการกระทบกระเทือนบทบัญญัติในมาตรา 91" ฎีกาที่ 5548/2559 ตาม ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "โทษจำคุก ให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา แต่ถ้าผู้ต้องคำพิพากษาถูกคุมขังก่อนศาลพิพากษา ให้หักจำนวนวันที่ถูกคุมขัง ออกจากระยะเวลาจำคุกตามคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นได้ว่า ถ้าคำพิพากษาไม่ได้กล่าวเป็นอย่างอื่น โทษจำคุกต้องเริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา แสดงว่ากฎหมายให้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดวันเริ่มนับโทษจำคุกแต่วันอื่นได้เพียงแต่ต้องกล่าวไว้ในคำพิพากษาและอยู่ภายใต้มาตรา 22 วรรคสอง การนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอื่น ย่อมกระทำได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว ฎีกาที่ 1831/2557 วันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคแรก หมายถึง วันที่ศาลอ่านคำพิพากษา โดยเปิดเผยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 และ 188 โดยคำพิพากษาไม่จำเป็นต้องถึงที่สุด เพราะเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว จำเลยย่อมต้องถูกบังคับโทษตามคำพิพากษานั้น แม้ภายหลังศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาจะพิพากษาแก้โทษจำคุก ก็ไม่มีผลต่อวันเริ่มนับโทษจำคุก ความหมายของคำว่า "เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ต้องโทษจำคุกอาจจะไม่ได้รับโทษจำคุกในวันที่มีคำพิพากษาก็ได้ แต่อาจรับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกในคดีก่อน ทั้งนี้ แล้วแต่ที่จะกำหนดไว้ในคำพิพากษา ตามที่มาตรา 22 วรรคแรก บัญญัติไว้ในตอนท้ายว่า "เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ซึ่งถือเป็นดุลพินิจของศาล (ฎีกาที่ 281/2505, ฎีกาที่ 276/2513) ฎีกาที่ 4656/2540 การขอให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีหนึ่งต่อจากโทษคุกของจำเลยในคดีอื่น เป็นการขอให้ศาลกล่าวไว้เป็นอย่างอื่นในคำพิพากษาเกี่ยวกับการเริ่มนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนั้นว่าจะให้เริ่มนับแต่เมื่อใด ซึ่งหากไม่กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ก็จะต้องเริ่มแต่วันมีคำพิพากษา ตาม ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าสมควรให้นับโทษต่อหรือไม่เพียงใด ฎีกาที่ 2469/2560 ป.อ. มาตรา 22 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า โทษจำคุกให้เริ่มแต่วันมีคำพิพากษา เว้นแต่คำพิพากษานั้นจะกล่าวไว้เป็นอย่างtaibet88 เครดิต ฟรี 200slotworld777อื่นนั้น เป็นบทกำหนดหลักเกณฑ์ในการบังคับโทษจำคุกว่าให้เริ่มนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา โดยมีข้อยกเว้นในกรณีที่ศาลจะมีคำพิพากษาเป็นอย่างอื่น การใช้ดุลพินิจให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอื่น จึงเป็นข้อยกเว้นไม่ให้เริ่มนับแต่วันมีคำพิพากษา (และฎีกาที่ 5548/2559) การที่โจทก์ขอให้ "นับโทษต่อ" เป็นการขอให้ศาล "กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น" ตามความหมายของมาตรา 22 วรรคหนึ่ง โจทก์มีอำนาจที่จะขอให้ศาลสั่งให้นับโทษจำคุกของจำเลยในคดีหนึ่งต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอื่นได้ โดยฎีกาที่ 4656/2540 วินิจฉัยว่า ถือเท่ากับว่า "เป็นการขอให้ศาลกล่าวไว้เป็นอย่างอื่นในคำพิพากษาเกี่ยวกับการเริ่มนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนั้นว่าจะให้เริ่มนับแต่เมื่อใด ซึ่งหาก (ศาล) ไม่กล่าวไว้เป็นอย่างอื่น ก็จะต้องเริ่ม (นับโทษจำคุก แต่วันมีคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 22 วรรคหนึ่ง จึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าสมควรให้นับโทษต่อหรือไม่เพียงใด" ข้อสังเกต หากศาลใช้ดุลพินิจให้มีการนับโทษคดีหลังต่อจากโทษในคดีแรก โทษทั้งหมดรวมกัน อาจเกินกำหนดของมาตรา 91 ก็ได้ (ให้ดูคำอธิบายมาตรา 91) โจทก์ต้องมี "คำขอ" ให้ศาล "นับโทษต่อ" นั้นทางอัยการเข้าของคดีนั้น ๆ จะต้องเป็นผู้ยื่นคำขอหรือคำร้องต่อศาล ข้อสังเกต การที่ศาลจะสั่งในคำพิพากษาให้นับโทษจำคุกสองคดีติดต่อกันนั้น โจทก์จะมีคำขอ (ฎีกาที่ 992/2546) กฎหมายมิได้บัญญัติว่าการขอให้นับโทษต่อ อ่านข่าวอื่น ๆ ดีลจบ 11 พรรคตั้ง "รัฐบาลเพื่อไทย" 314 เสียง "เพื่อไทย" คุม 8 กระทรวง “ทักษิณ” กลับไทยเรื่อง “ได้” มากกว่า “เสีย” เคลียร์รับ "ทักษิณ" เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ งดเยี่ยมญาติ 22 ส.ค. เส้นทาง 22 ปี "ณัฐวุฒิ" เกิด-เติบโต-ยุติ บทบาท "เพื่อไทย"
นายชนะวุธ อุทโท กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชาวุธ ๔๒๘๙ อมูเลท จำกัด พร้อมทนายความ นำหลักฐานเอกสารกว่า 5