วันนี้ (16 ธ.ค.2567) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธ

วันนี้ (6 ต.ค. 67) เวลา 17.00 น. หน่วยเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ได้ปิดหีบลงคะแนน และทำการนับคะแนน ภาพรวมผู้มาลงคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.ระนองในวันนี้ค่อนข้างบางตาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะใ
วันนี้ (9 ธ.ค.2567) นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี (สสจ.อุดรธานี) แถลงข่าวกรณีนักร้องหมอลำ “ผิง ชญาดา” เสียชีวิต ซึ่งครอบครัวตั้งข้อสังเกตว่า อาจมาจากการนวดบริเวณต้นคอ ที่ร
เหตุเรือลากจูงล่มบริเวณสามแยกหน้าวัดพนัญเชิงวรมหาวิหารเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา แม้จะผ่านมา 26 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอยผู้สูญหายทั้ง 2 คน ขณะที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่มีสัญญาณดีเมื่อตรวจพบพิกัดเรือที่ล่มได้แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดโศกนาฏกรรมจากอุบัติเหตุทางน้ำบนเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก โดยเฉพาะใน จ.พระนครศรีอยุธยา ข้อมูลจากการศึกษาความเสี่ยงของการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วง พ.ศ. 2550-2557 พบว่า ในช่วง 8 ปีมีอุบัติเหตุการคมนาคมทางน้ำในพื้นที่ 13 ครั้ง เฉลี่ย 1.63 ครั้งต่อปี โดยมีจำนวนเรือที่เกี่ยวเนื่องกับอุบัติเหตุทั้งสิ้น 16 ลำ ในจำนวนนี้เป็นอุบัติเหตุที่เรือได้รับความเสียหายในลักษณะของเรือจม 14 ลำ มีผู้ประสบเหตุ 73 คน ประกอบด้วย ผู้บาดเจ็บ 69 คน เสียชีหา เว็บ พนัน ออนไลน์เล่น เกม บา คา ร่า ออนไลน์วิต 1 คน และสูญหาย 3 คน อุบัติเหตุทั้งสิ้น 13 ครั้ง พบว่ามีสถานที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 10 แห่ง และบริเวณหน้าวัดพนัญเชิงฯ ที่เกิดอุบัติเหตุเรือล่มเมื่อวานนี้ ก็เคยพบอุบัติเหตุทางน้ำมาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วง พ.ศ.2550-2557 ทั้งนี้ เรือที่ประสบอุบัติเหตุในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักใน จ.พระนครศรีอยุธยา 13 ครั้งนั้น ได้แก่ เรือดันหรือเรือลากจูง 6 ลำ (ร้อยละ 37.5) รองลงมาเป็นเรือลำเลียง 5 ลำ (ร้อยละ 31.25) เรือโดยสาร 1 ลำ นอกจากนั้นมีข้อมูลที่ไม่ทราบประเภทเรือจากการบันทึกอุบัติเหตุ 4 ลำ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของการศึกษา พบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของคน บางครั้งอาจร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และสาเหตุจากเรือหรืออุปกรณ์ชำรุด โดยความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่เพียงใน จ.พระนครศรีอยุธยาเท่านั้น เส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาเคยเกิดอุบัติเหตุทางเรือครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง 1 มิ.ย.2554 เรือบรรทุกน้ำตาลล่มจนทำให้มีน้ำตาลรั่วบริเวณวัดท่าการ้อง ขวางลำน้ำได้ทำให้น้ำเปลี่ยนเส้นทางเดินของน้ำ จนตลิ่งที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวพังลงยาวประมาณ 7 เมตร และทำให้มีปลาตายจำนวนมาก 18 ก.ย.2559 เหตุการณ์เรือสมบัติมงคลชัย ล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากชนกับสิ่งปลูกสร้าง บริเวณหน้าวัดสนามไชย จ.พระนครศรีอยุธยา จนทำให้มีชาวไทยมุสลิมเสียชีวิต 28 คน ถือเป็นอุบัติเหตุทางน้ำครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก 28 ส.ค.2560 เรือโยงลากจูงเรือโป๊ะเหล็กพ่วงบรรทุกน้ำตาลทรายแดง 4 ลำ มาจากคลังสินค้า จ.อ่างทอง บรรทุกน้ำตาลลำละประมาณ 1,200 ตัน เพื่อมาส่งที่บริเวณเกาะเรียน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อลากมาถึงใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน เรือโป๊ะพ่วงลำที่ 4 เกิดไปชนกับตอม่อสะพานจนเกิดรูรั่วบริเวณหัวเรือด้านขวา เป็นเหตุให้น้ำเข้าเรือจนจมลงแม่น้ำ 7 พ.ย.2560 เรือยนต์ลากจูงเรือบรรทุกเรือบรรทุกสินค้าล่มกลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก บริเวณท่าน้ำหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหารก่อนจมไปกลางแม่น้ำ หลังเรือจม มีเรือรับจ้างข้ามฝากบริเวรหน้าวัดช่วยเหลือไว้ได้ทันทำให้ไม่มีผู้บาดเจ็บ 2 ส.ค.2563 อุบัติเหตุเรือโดยสารและภัตตาคารล่ม ขณะให้บริการนักท่องเที่ยว 60 คน ล่องแม่น้ำเจ้าพระยารับผู้โดยสารจากโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ผู้ควบคุมเรือได้ให้ผู้โดยสารขึ้นฝั่งได้ทันก่อนเรือจม จึงทำให้ทุกคนปลอดภัยไม่มีผู้บาดเจ็บ อุบัติเหตุทางน้ำใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เริ่มมากขึ้น อาจกลายเป็นคำถามถึงความหนาแน่นในการสัญจรทางน้ำในพื้นที่ ซึ่งเส้นทางน้ำสายนี้เรียกได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการขนส่งภาคกลาง ด้วยสภาพภูมิศาสตร์และมีวิธีชีวิตที่สัมพันธ์กับการคมนาคมทางน้้ามายาวนาน แม่น้ำไหลผ่าน 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย รวมความยาวประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวชมสถานทางประวัติศาสตร์ ล่องเรือภัตตาคารชิมอาหารไปตามแม่น้้า ขณะเดียวกันเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางน้ำที่สำคัญของภาคกลาง มีท่าเรือสินค้า โรงงานและคลังสินค้ามากกว่า 70 แห่งที่ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดสองฝั่งของแม่น้ำทั้งสอง ทำให้มีเรือสัญจรไปมามากมาย ทั้งขบวนเรือลำเลียงทะเลขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือ ขบวนเรือขนส่งสินค้า เรือดัน-ลากจูง เรือประมง เรือภัตตาคาร เรือโดยสารขนาดเล็ก และเรือขายของ ปริมาณการขนส่งสินค้าบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักในปี 2562 ใช้เรือขนส่งสินค้าทั้งสิ้น 62,236 เที่ยวลำ มีสินค้าทั้งหมด 18 ประเภท ปริมาณสินค้าทั้งหมด 55.999 ล้านตัน ต้นทางของสินค้าจากแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำป่าสัก สินค้าที่มีการขนส่งมากที่สุด คือสินค้าประเภทแร่เชื้อเพลิง รองลงมาคือแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนมากเป็นสินค้าประเภทดิน หินทราย ส่วนแม่น้ำน้อยมีการขนส่งสินค้าเพียง 2 ประเภท คือ ข้าว และดิน หิน ทราย สำหรับสินค้าที่มีการขนส่งมากที่สุดในปี 2562 คือ สินค้าประเภทแร่เชื้อเพลิงประมาณ 14.443 ล้านตัน รองลงมา 3 อันดับ คือ สินค้าประเภท ดิน หิน ทราย ซีเมนต์ และปุ๋ยตามลำดับ ความสำคัญของเส้นทางน้ำสายนี้ที่มีเรือขนส่งสัญจรไปมานับหมื่นเที่ยวในแต่ละปี เป็นชนวนสำคัญที่ทุกฝ่ายอาจต้องเร่งหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุและให้ความสำคัญเกี่ยวกับจราจรทางน้ำเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนที่สุด ข้อมูล : รายงานสถิติข้อมูล ปีงบประมาณ 2563 การศึกษาความเสี่ยงของการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เหตุเรือลากจูงล่มบริเวณสามแยกหน้าวัดพนัญเชิงวรมหาวิหารเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา แม้จะผ่านมา 26 ชั
วันนี้ (26 ต.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บั
ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยน้ำป่า-ดินโคลนถล่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เร่งฟื้นฟ
เหตุเรือลากจูงล่มบริเวณสามแยกหน้าวัดพนัญเชิงวรมหาวิหารเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา แม้จะผ่านมา 26 ชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่พบร่องรอยผู้สูญหายทั้ง 2 คน ขณะที่ล่าสุด เจ้าหน้าที่มีสัญญาณดีเมื่อตรวจพบพิกัดเรือที่ล่มได้แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดโศกนาฏกรรมจากอุบัติเหตุทางน้ำบนเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก โดยเฉพาะใน จ.พระนครศรีอยุธยา ข้อมูลจากการศึกษาความเสี่ยงของการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ช่วง พ.ศ. 2550-2557 พบว่า ในช่วง 8 ปีมีอุบัติเหตุการคมนาคมทางน้ำในพื้นที่ 13 ครั้ง เฉลี่ย 1.63 ครั้งต่อปี โดยมีจำนวนเรือที่เกี่ยวเนื่องกับอุบัติเหตุทั้งสิ้น 16 ลำ ในจำนวนนี้เป็นอุบัติเหตุที่เรือได้รับความเสียหายในลักษณะของเรือจม 14 ลำ มีผู้ประสบเหตุ 73 คน ประกอบด้วย ผู้บาดเจ็บ 69 คน เสียชีหา เว็บ พนัน ออนไลน์เล่น เกม บา คา ร่า ออนไลน์วิต 1 คน และสูญหาย 3 คน อุบัติเหตุทั้งสิ้น 13 ครั้ง พบว่ามีสถานที่เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 10 แห่ง และบริเวณหน้าวัดพนัญเชิงฯ ที่เกิดอุบัติเหตุเรือล่มเมื่อวานนี้ ก็เคยพบอุบัติเหตุทางน้ำมาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วง พ.ศ.2550-2557 ทั้งนี้ เรือที่ประสบอุบัติเหตุในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักใน จ.พระนครศรีอยุธยา 13 ครั้งนั้น ได้แก่ เรือดันหรือเรือลากจูง 6 ลำ (ร้อยละ 37.5) รองลงมาเป็นเรือลำเลียง 5 ลำ (ร้อยละ 31.25) เรือโดยสาร 1 ลำ นอกจากนั้นมีข้อมูลที่ไม่ทราบประเภทเรือจากการบันทึกอุบัติเหตุ 4 ลำ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ของการศึกษา พบว่า อุบัติเหตุส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของคน บางครั้งอาจร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม และสาเหตุจากเรือหรืออุปกรณ์ชำรุด โดยความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง ไม่เพียงใน จ.พระนครศรีอยุธยาเท่านั้น เส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาเคยเกิดอุบัติเหตุทางเรือครั้งใหญ่มาแล้วหลายครั้ง 1 มิ.ย.2554 เรือบรรทุกน้ำตาลล่มจนทำให้มีน้ำตาลรั่วบริเวณวัดท่าการ้อง ขวางลำน้ำได้ทำให้น้ำเปลี่ยนเส้นทางเดินของน้ำ จนตลิ่งที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทรุดตัวพังลงยาวประมาณ 7 เมตร และทำให้มีปลาตายจำนวนมาก 18 ก.ย.2559 เหตุการณ์เรือสมบัติมงคลชัย ล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากชนกับสิ่งปลูกสร้าง บริเวณหน้าวัดสนามไชย จ.พระนครศรีอยุธยา จนทำให้มีชาวไทยมุสลิมเสียชีวิต 28 คน ถือเป็นอุบัติเหตุทางน้ำครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก 28 ส.ค.2560 เรือโยงลากจูงเรือโป๊ะเหล็กพ่วงบรรทุกน้ำตาลทรายแดง 4 ลำ มาจากคลังสินค้า จ.อ่างทอง บรรทุกน้ำตาลลำละประมาณ 1,200 ตัน เพื่อมาส่งที่บริเวณเกาะเรียน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อลากมาถึงใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.เกาะเกิด อ.บางปะอิน เรือโป๊ะพ่วงลำที่ 4 เกิดไปชนกับตอม่อสะพานจนเกิดรูรั่วบริเวณหัวเรือด้านขวา เป็นเหตุให้น้ำเข้าเรือจนจมลงแม่น้ำ 7 พ.ย.2560 เรือยนต์ลากจูงเรือบรรทุกเรือบรรทุกสินค้าล่มกลางสามแยกแม่น้ำเจ้าพระยา-ป่าสัก บริเวณท่าน้ำหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหารก่อนจมไปกลางแม่น้ำ หลังเรือจม มีเรือรับจ้างข้ามฝากบริเวรหน้าวัดช่วยเหลือไว้ได้ทันทำให้ไม่มีผู้บาดเจ็บ 2 ส.ค.2563 อุบัติเหตุเรือโดยสารและภัตตาคารล่ม ขณะให้บริการนักท่องเที่ยว 60 คน ล่องแม่น้ำเจ้าพระยารับผู้โดยสารจากโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ผู้ควบคุมเรือได้ให้ผู้โดยสารขึ้นฝั่งได้ทันก่อนเรือจม จึงทำให้ทุกคนปลอดภัยไม่มีผู้บาดเจ็บ อุบัติเหตุทางน้ำใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เริ่มมากขึ้น อาจกลายเป็นคำถามถึงความหนาแน่นในการสัญจรทางน้ำในพื้นที่ ซึ่งเส้นทางน้ำสายนี้เรียกได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการขนส่งภาคกลาง ด้วยสภาพภูมิศาสตร์และมีวิธีชีวิตที่สัมพันธ์กับการคมนาคมทางน้้ามายาวนาน แม่น้ำไหลผ่าน 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อย รวมความยาวประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นที่นิยมในการท่องเที่ยวชมสถานทางประวัติศาสตร์ ล่องเรือภัตตาคารชิมอาหารไปตามแม่น้้า ขณะเดียวกันเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางน้ำที่สำคัญของภาคกลาง มีท่าเรือสินค้า โรงงานและคลังสินค้ามากกว่า 70 แห่งที่ตั้งเรียงรายอยู่ตลอดสองฝั่งของแม่น้ำทั้งสอง ทำให้มีเรือสัญจรไปมามากมาย ทั้งขบวนเรือลำเลียงทะเลขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรือ ขบวนเรือขนส่งสินค้า เรือดัน-ลากจูง เรือประมง เรือภัตตาคาร เรือโดยสารขนาดเล็ก และเรือขายของ ปริมาณการขนส่งสินค้าบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักในปี 2562 ใช้เรือขนส่งสินค้าทั้งสิ้น 62,236 เที่ยวลำ มีสินค้าทั้งหมด 18 ประเภท ปริมาณสินค้าทั้งหมด 55.999 ล้านตัน ต้นทางของสินค้าจากแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำป่าสัก สินค้าที่มีการขนส่งมากที่สุด คือสินค้าประเภทแร่เชื้อเพลิง รองลงมาคือแม่น้ำเจ้าพระยาส่วนมากเป็นสินค้าประเภทดิน หินทราย ส่วนแม่น้ำน้อยมีการขนส่งสินค้าเพียง 2 ประเภท คือ ข้าว และดิน หิน ทราย สำหรับสินค้าที่มีการขนส่งมากที่สุดในปี 2562 คือ สินค้าประเภทแร่เชื้อเพลิงประมาณ 14.443 ล้านตัน รองลงมา 3 อันดับ คือ สินค้าประเภท ดิน หิน ทราย ซีเมนต์ และปุ๋ยตามลำดับ ความสำคัญของเส้นทางน้ำสายนี้ที่มีเรือขนส่งสัญจรไปมานับหมื่นเที่ยวในแต่ละปี เป็นชนวนสำคัญที่ทุกฝ่ายอาจต้องเร่งหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุและให้ความสำคัญเกี่ยวกับจราจรทางน้ำเพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนที่สุด ข้อมูล : รายงานสถิติข้อมูล ปีงบประมาณ 2563 การศึกษาความเสี่ยงของการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (18 ต.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐบาลตั้งเป้าดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทภายในเ