jokerxoth -Tawuran Pecah di Jalan Tambak Manggarai

โปรแกรม ยู ฟ่า แช ม เปีย น ส์ ลีก 2020 ล่าสุด

วันนี้ (28 ม.ค.2564) พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลดุสิต นัดส่งตัว นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง หรือ ฟรานซิส นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือ ตัน ผู้ประสานงานเครือข

วันนี้ (22 ม.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง พร้อมด้วยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองน

แม้ความนิยมระดับเขตในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะสำคัญ (สัดส่วน ส.ส.82 % ในปี 2566 ต่อ 88 % ในปี 2562) แต่การยื้อแย่งคะแนนกันเองในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ผสมโรงกับการเข้ามาครองพื้นที่ จ.ภูเก็ต ได้ยกจังหวัดของพรรคก้าวไกล ถือเป็นสัญญาณความเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยปรากฎมานานแล้ว ในภูมิภาคการเมืองแห่งนี้ รศ.ดร.เอกรินทร์ ต่วนศิริ นักรัฐศาสตร์จาก มอ.ปัตตานี วิเคราะห์ 3 ปัจจัยที่มีผลต่อความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภาคใต้ ตั้งแต่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผลการเลือกตั้งที่จังหวัดภูเก็ต สะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงได้ดีว่า คนในพื้นที่ต้องการความสดใหม่ในเชิงนโยบาย การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และนี่คือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่แพ้ใครในพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงตำนานเสาไฟฟ้าภาคใต้สักเล็กน้อย เพราะเป็นวาทะกรรมที่ปรากฏอยู่บ่อยๆในวงการเมือง นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ นักการเมืองรุ่นใหญ่จากพัทลุง อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นแกนนำพรรคพลังประชารัฐ คือเจ้าของวาทกรรม “ประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าลง คนก็เลือก” ประโยคนี้ถูกพูดเป็นครั้งแรกหลายสิบปีก่อน ในการหาเสียงเลือกตั้ง หลังจากแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์คนหjokerxothนึ่งบอกให้ นิพิฎฐ์ หยุดปราศรัย เพราะต่อให้ประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าลงสมัคร ก็จะเลือกอยู่ดี ความหมายที่ปรากฎในช่วงหลังมักถูกใช้กับพรรคการเมืองที่ครองความนิยมอย่างสูงในระดับภูมิภาค เช่น ภาคใต้กับพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้ง 2566 เราได้เห็นเสียงโหวตที่แตกกันเองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล แม้สัดส่วนรวมกันจะไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่ถือว่าเสียงที่แตกกันเหล่านี้ สะท้อนชัดว่า ไม่ใช่พรรคการเมืองไหนถือธงนำในภาคใต้อีกแล้ว กลับกันเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมเสียอีก ที่ได้ที่นั่ง ส.ส.เขตเพิ่มขึ้น 4 ที่นั่งจากพรรคก้าวไกลที่เหมายก จ.ภูเก็ต และพรรคประชาชาติที่ได้เพิ่มจาก 4 ปีก่อน 1 ที่นั่ง เป็นไปได้เช่นกันที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งบางกลุ่มบางขั้วอาจตัดสินใจเลือก ส.ส.เขตจากผลงานในพื้นที่ อาจมีบ้างที่ต้องอยู่ในระบอบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจตามแต่ละสถานการณ์ของบุคคล แต่ในการเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปรากฏว่าผลลัพธ์ต่างกัน พรรคก้าวไกลเอาชนะในระบบบัญชีรายชื่อถึง 25 เขตในภาคใต้ ขณะที่พรรคประชาชาติเอาชนะไป 13 เขต อีก 22 เขตเป็นชัยชนะของพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคการเมืองที่เคยถือธงนำอย่างประชาธิปัตย์ ไม่สามารถชนะใจคนใต้ ในการเลือกตั้งบัญชีรายชื่อได้เลยในปีนี้ นั่นทำให้โจทย์ใหญ่ตกเป็นของผู้บริหารพรรคชุดต่อไป จะทำงานการเมืองในรูปแบบไหนเพื่อคว้าใจคนใต้มาครอง 4 ปีนับจากนี้ คือช่วงเวลาตัดสินอนาคตของภูมิภาคการเมืองว่า พรรคการเมืองไหนดีพอจะถือธงนำได้ วิเคราะห์ : อุรชัย ศรแก้ว มุมการเมือง

แม้ความนิยมระดับเขตในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมจะไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยยะสำคัญ (สัดส่วน ส.ส.82 % ในปี 2566 ต่อ 88 % ในปี 2562) แต่การยื้อแย่งคะแนนกันเองในกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ผสมโรงกับกา