เลือดสีฟ้ายังไม่หยุดหลั่ง นับแต่ "เสี่ยต่อ" เฉลิมช

วันนี้ (6 ม.ค.2565) นายโกเมศ พุทธสอน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) พร้อมด้วย พ.อ.วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รอง ผอ.รมน.จังหวัดพิษณุโลก ร่วมปล่อยกำลังพลการบูรณาการเพิ่มประ สิทธิภาพในการแก้ไขปัญ
วันนี้ (16 มี.ค.2564) น.ส. รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการทางการบริหารเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการทางวินัยและ
เครือข่ายปกป้องอันดามันยันจุดยืนค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขอ 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินแถลงจุดยืนค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจ.กระบี่ ที่ทางกฟผ.จะเปิดซื้อซองประกวดราคาในวันที่ 22 ก.ค.นี้ โดยขอเวลา 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน ขณะที่ตัวแทนรัฐบาลรับข้อเสนอดังกล่าวเพื่อส่งต่อข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา เครือข่ายปกป้องอันดามันยันจุดยืนค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขอ 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน วันนี้(14 ก.ค.2558) เครือข่ายปกป้องอันดามันแถลงจุดยืนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ด้านหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีเงื่อนไขที่เรียกร้องคือรัฐบาลต้องล้มเลิกโครงการนี้ทันที เครือข่ายปกป้องอันดามันฯมั่นใจว่า แม้ไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน ชาวจ.กระบี่ ก็ยังมีไฟฟ้าใช้เพียงพอ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ระบุถึงกำลังการผลิตไฟ้ฟ้าพึ่งได้ในปัจจุบันของภาคใต้อยู่ที่ 3,887.7 เมกะวัตต์ โดยค่าการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ณ วันที่ 26 เม.ย.2557 อยู่ที่ 2,467.7 เมกะวัตต์ หมายความว่า ยังมีไฟฟ้าเหลือใช้อีกกว่า 1,400 เมกะวัตต์ ส่วนพลังงานทดแทนจากปาล์มและน้ำเสียจากโรงงานปาล์ม ที่นำไปสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้าขณะนี้ทั้ง 11 แห่ง ในจ.กระบี่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึงกว่าร้อยละ 47 จากปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งจังหวัดกว่า 120 เมกะวัตต์ อีกทั้งโรงไฟฟ้าจากน้ำมันเตาของ กฟผ.เดิมก็มีกำลังการผลิตถึง 350 เมกะวัตต์ สถานการณ์การใช้ไฟฟ้ารวมถึงภาพรวมของพลังงานทดแทนนี้เอง ทำให้เครือข่ายปกป้องอันดามันฯขอเวลา 3 ปี พิสูจน์ให้รัฐบาลเห็นถึงแนวทางการใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน ขณะที่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการตอบรับข้อเสนอนี้แต่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงการออกมาคัดค้านของเครือข่ายฯ และพร้อมนำข้อเสนอต่างๆ ส่งถึงนายกรัฐมนตรีทันที รวมถึงการขอให้ กฟผ.ยุติการเปิดยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างโรงไฟฟ้าในวันที่ 22 ก.ค.นี้ สำหรับความพยายามของกฟผ.ในการตั้งราคากลาง ในการเปิดให้เอกชน ยื่นซองประกวดราคาไว้ที่ 49,500 ล้านบาทนั้นถูกมองว่าเป็นการดำเนินการทั้งที่กระบวนการรายงาน EIA และ EHIA ยังไม่ครอบคลุม และไม่สมบูรณ์เพียงพอ และงานวิจัยของเครือข่ายปกป้องอันดามันยังพบด้วยว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 87 จะไม่กลับมาเที่ยว จ.กระบี่ หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะกระทบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 300,000 ล้านบาท วันนี้(14 ก.ค.2558) เครือข่ายปกป้องอันดามันแถลงจุดยืนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ด้านหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีเงื่อนไขที่เรียกร้องคือรัฐบาลต้องล้มเลิกโครงการนี้ทันที เครือข่ายปกป้องอันดามันฯมั่นใจว่า แม้ไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน ชาวจ.กระบี่ ก็ยังมีไฟฟ้าใช้เพียงพอ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ระบุถึงกำลังการผลิตไฟ้ฟ้าพึ่งได้ในปัจจุบันของภาคใต้อยู่ที่ 3,887.7 เมกะวัตต์ โดยค่าการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ณ วันที่ 26 เม.ย.2557 อยู่ที่ 2,467.7 เมกะวัตต์ หมายความว่า ยังมีไฟฟ้าเหลือใช้อีกกว่า 1,400 เมกะวัตต์ ส่วนพลังงานทดแทนจากปาล์มและน้ำเสียจากโรงงานปาล์ม ที่นำไปสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้าขณะนี้ทั้ง 11 แห่ง ในจ.กระบี่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึงกว่าร้อยละ 47 จากปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งจังหวัดกว่า 120 เมกะวัตต์ อีกทั้งโรงไฟฟ้าจากน้ำมันเตาของ กฟผ.เดิมก็มีกำลังการผลิตถึง 350 เมกะวัตต์ สถานการณ์การใช้ไฟฟ้ารstarbets99vipเครดิต ฟรี ไม่ ต้อง ฝาก 2020 ล่าสุดวมถึงภาพรวมของพลังงานทดแทนนี้เอง ทำให้เครือข่ายปกป้องอันดามันฯขอเวลา 3 ปี พิสูจน์ให้รัฐบาลเห็นถึงแนวทางการใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน ขณะที่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการตอบรับข้อเสนอนี้แต่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงการออกมาคัดค้านของเครือข่ายฯ และพร้อมนำข้อเสนอต่างๆ ส่งถึงนายกรัฐมนตรีทันที รวมถึงการขอให้ กฟผ.ยุติการเปิดยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างโรงไฟฟ้าในวันที่ 22 ก.ค.นี้ สำหรับความพยายามของกฟผ.ในการตั้งราคากลาง ในการเปิดให้เอกชน ยื่นซองประกวดราคาไว้ที่ 49,500 ล้านบาทนั้นถูกมองว่าเป็นการดำเนินการทั้งที่กระบวนการรายงาน EIA และ EHIA ยังไม่ครอบคลุม และไม่สมบูรณ์เพียงพอ และงานวิจัยของเครือข่ายปกป้องอันดามันยังพบด้วยว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 87 จะไม่กลับมาเที่ยว จ.กระบี่ หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะกระทบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 300,000 ล้านบาท
ฝ่ายนิติบัญญัติทั้ง 2 ฝ่ายในสหรัฐฯ คือ สส. (สภาล่าง) และ สว. (สภาสูง) ได้กดดันให้ออกกฎหมายแบน TikTok
วันนี้ (14 ธ.ค.2566) นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เชิญ พล.ต.ต.สามารถ ม่
Change.orgจับมือเครือข่ายปกป้องกระบี่ฯ ระดม 3 หมื่นชื่อยื่นกฟผ.ไม่เอาโรงไฟฟ้า องค์กร Change.org จับม
เครือข่ายปกป้องอันดามันยันจุดยืนค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขอ 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินแถลงจุดยืนค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจ.กระบี่ ที่ทางกฟผ.จะเปิดซื้อซองประกวดราคาในวันที่ 22 ก.ค.นี้ โดยขอเวลา 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน ขณะที่ตัวแทนรัฐบาลรับข้อเสนอดังกล่าวเพื่อส่งต่อข้อมูลให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา เครือข่ายปกป้องอันดามันยันจุดยืนค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขอ 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน วันนี้(14 ก.ค.2558) เครือข่ายปกป้องอันดามันแถลงจุดยืนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ด้านหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีเงื่อนไขที่เรียกร้องคือรัฐบาลต้องล้มเลิกโครงการนี้ทันที เครือข่ายปกป้องอันดามันฯมั่นใจว่า แม้ไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน ชาวจ.กระบี่ ก็ยังมีไฟฟ้าใช้เพียงพอ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ระบุถึงกำลังการผลิตไฟ้ฟ้าพึ่งได้ในปัจจุบันของภาคใต้อยู่ที่ 3,887.7 เมกะวัตต์ โดยค่าการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ณ วันที่ 26 เม.ย.2557 อยู่ที่ 2,467.7 เมกะวัตต์ หมายความว่า ยังมีไฟฟ้าเหลือใช้อีกกว่า 1,400 เมกะวัตต์ ส่วนพลังงานทดแทนจากปาล์มและน้ำเสียจากโรงงานปาล์ม ที่นำไปสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้าขณะนี้ทั้ง 11 แห่ง ในจ.กระบี่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึงกว่าร้อยละ 47 จากปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งจังหวัดกว่า 120 เมกะวัตต์ อีกทั้งโรงไฟฟ้าจากน้ำมันเตาของ กฟผ.เดิมก็มีกำลังการผลิตถึง 350 เมกะวัตต์ สถานการณ์การใช้ไฟฟ้ารวมถึงภาพรวมของพลังงานทดแทนนี้เอง ทำให้เครือข่ายปกป้องอันดามันฯขอเวลา 3 ปี พิสูจน์ให้รัฐบาลเห็นถึงแนวทางการใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน ขณะที่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการตอบรับข้อเสนอนี้แต่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงการออกมาคัดค้านของเครือข่ายฯ และพร้อมนำข้อเสนอต่างๆ ส่งถึงนายกรัฐมนตรีทันที รวมถึงการขอให้ กฟผ.ยุติการเปิดยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างโรงไฟฟ้าในวันที่ 22 ก.ค.นี้ สำหรับความพยายามของกฟผ.ในการตั้งราคากลาง ในการเปิดให้เอกชน ยื่นซองประกวดราคาไว้ที่ 49,500 ล้านบาทนั้นถูกมองว่าเป็นการดำเนินการทั้งที่กระบวนการรายงาน EIA และ EHIA ยังไม่ครอบคลุม และไม่สมบูรณ์เพียงพอ และงานวิจัยของเครือข่ายปกป้องอันดามันยังพบด้วยว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 87 จะไม่กลับมาเที่ยว จ.กระบี่ หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะกระทบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 300,000 ล้านบาท วันนี้(14 ก.ค.2558) เครือข่ายปกป้องอันดามันแถลงจุดยืนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ด้านหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีเงื่อนไขที่เรียกร้องคือรัฐบาลต้องล้มเลิกโครงการนี้ทันที เครือข่ายปกป้องอันดามันฯมั่นใจว่า แม้ไม่มีโรงไฟฟ้าถ่านหิน ชาวจ.กระบี่ ก็ยังมีไฟฟ้าใช้เพียงพอ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่ระบุถึงกำลังการผลิตไฟ้ฟ้าพึ่งได้ในปัจจุบันของภาคใต้อยู่ที่ 3,887.7 เมกะวัตต์ โดยค่าการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ณ วันที่ 26 เม.ย.2557 อยู่ที่ 2,467.7 เมกะวัตต์ หมายความว่า ยังมีไฟฟ้าเหลือใช้อีกกว่า 1,400 เมกะวัตต์ ส่วนพลังงานทดแทนจากปาล์มและน้ำเสียจากโรงงานปาล์ม ที่นำไปสู่กระบวนการผลิตไฟฟ้าขณะนี้ทั้ง 11 แห่ง ในจ.กระบี่ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึงกว่าร้อยละ 47 จากปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั้งจังหวัดกว่า 120 เมกะวัตต์ อีกทั้งโรงไฟฟ้าจากน้ำมันเตาของ กฟผ.เดิมก็มีกำลังการผลิตถึง 350 เมกะวัตต์ สถานการณ์การใช้ไฟฟ้ารstarbets99vipเครดิต ฟรี ไม่ ต้อง ฝาก 2020 ล่าสุดวมถึงภาพรวมของพลังงานทดแทนนี้เอง ทำให้เครือข่ายปกป้องอันดามันฯขอเวลา 3 ปี พิสูจน์ให้รัฐบาลเห็นถึงแนวทางการใช้พลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน ขณะที่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาลในการตอบรับข้อเสนอนี้แต่ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนรัฐบาลยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงการออกมาคัดค้านของเครือข่ายฯ และพร้อมนำข้อเสนอต่างๆ ส่งถึงนายกรัฐมนตรีทันที รวมถึงการขอให้ กฟผ.ยุติการเปิดยื่นซองประกวดราคาก่อสร้างโรงไฟฟ้าในวันที่ 22 ก.ค.นี้ สำหรับความพยายามของกฟผ.ในการตั้งราคากลาง ในการเปิดให้เอกชน ยื่นซองประกวดราคาไว้ที่ 49,500 ล้านบาทนั้นถูกมองว่าเป็นการดำเนินการทั้งที่กระบวนการรายงาน EIA และ EHIA ยังไม่ครอบคลุม และไม่สมบูรณ์เพียงพอ และงานวิจัยของเครือข่ายปกป้องอันดามันยังพบด้วยว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 87 จะไม่กลับมาเที่ยว จ.กระบี่ หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะกระทบการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละกว่า 300,000 ล้านบาท
เครือข่ายปกป้องอันดามันยันจุดยืนค้านสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขอ 3 ปีพิสูจน์พลังงานทดแทน เครือข่ายปกป้องอ