วันนี้ (8 เม.ย.2565) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหาย สามีภรรยา ชาวกำแพงเพชร ยื่นขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุ
วันนี้ (13 ม.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญูได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านบางใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเข้าไปถึงเจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตนอนอยู่
วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความพยายามในการแก้ไข และประคับประคองสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรป ที่มีจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการที่ประเทศกรีซ ซึ่ง ณ เวลานี้ กำลังแบกรับระดับหนี้สาธารณะที่สูงกว่า 160% ของจีดีพี วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด ดูเหมือนกับว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะเป็นความหวังล่าสุดสำหรับจัดการกับวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยืดเยื้อ ที่ทางการของประเทศสมาชิกยูโรโซนเตรียมจะนำมาใช้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2554 เพื่อสกัดและลดความเสี่ยงของการลุกลามของปัญหาไปยังประเทศสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ (นอกเหนือไปจากประเทศกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส) ควบคู่ไปกับเครื่องมือนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของพัฒนาการในด้านลบ-ด้านบวกของวิกฤตหนี้ยุโรปในระยะ 6-12 เดือนข้างหน้า เป็นตัวแปรสำคัญตัวหนึ่งที่ทำให้การประเมินผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจมหภาคของไทยมีความไม่แน่นอนตามไปด้วย ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงได้ประเมินผลกระทบเบื้องต้นต่อเศรษฐกิจมหภาคของไทยภายใต้สถานการณ์ของวิกฤตหนี้ในยุโรปตามลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีวิกฤตจำกัดขอบเขต และกรณีวิกฤตลุกลามบานปลาย โดยกรณีสุดขั้วทั้ง 2 ด้าน จะให้ผลที่ค่อนข้างแตกต่างกัน โดยในกรณีที่ผลกระทบเชิงมหภาคของไทยจากกรณีวิกฤตหนี้ยุโรปมีขอบเขตที่จำกัดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกของไทยในปี 2555 ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงทิศทางการชะลอตัวได้ แต่น่าที่จะสามารถรักษาอัตราการขยายตัวไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10.0 เศรษฐกิจไทยที่น่าจะได้แรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศและแรงกระตุ้นจากภาครัฐ ก็อาจขยายตัวได้สูงถึงร้อยละ 4.5 ในกรณีที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี หากพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรปไม่สามารถจำกัดวงไว้ได้ตามที่ทางการยุโรปคาดหวัง การส่งออกของไทยในปี 2555 อาจต้องเผชิญกับภาวะหดตัวร้อยละ 7.0 ขณะที่ อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยน่าที่จะต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.0 เท่านั้น แต่ทั้งนี้ ผลในท้ายที่สุดแล้ว คงต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของสถานการณ์วิกฤตในระยะข้างหน้า ซึ่งยังคงมีโอกาสพลิกผันได้ ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์ในระยะข้างหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ท่ามกลางภาวะความเสี่ยงในช่วงขาลงของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นแกนสำคัญของโลกอย่างสหรัฐฯ และยุโรป น่าที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย และไทยในปี 2555 ขยายตัวในอัตราที่อ่อนแรงลงตามไปด้วย สำหรับในด้านของผู้ประกอบการของไทย คงต้องเตรียมศึกษาประสบการณ์จากภาวะวิกฤตในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเตรียมวางแนวทางและกลยุทธ์ และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2555 ทั้งจากความผันผวนของตลาดการเงิน และความอ่อนไหวของสถานะคู่ค้า เพื่อให้สามารถประคัpg xoบประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นมรสุมไปได้อย่างราบรื่นที่สุด
วันนี้ (30 ก.ค.2565) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ขอรายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำ ประจำวันที่ 30 ก.ค.2565 ดังนี้ ประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 22/2565 ลงวันที่ 26 ก.ค.2565 กองอำนวยการน
วิกฤตหนี้ยุโรป ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เป็นเวลานานกว่า 1 ปีครึ่ง ที่ผู้นำของประเทศสมาชิกยูโรโซนใช้ความ