slotgame666 -Bekasi dan Bali Sempat Blackout

พล.อ.ซุลกิฟลี ไซนัล อบิดิน ผู้อำนวยความสะดวกพูดคุยของมาเลเซีย มั่นใจการพูดคุยสันติสุข กำลังปูทางไปสูslotgame666

วันนี้ (13 มี.ค. 2564) ผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมเดินทะลุฟ้า v.2 โดยรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพื่อเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล มีรายละเอียดดังนี้ 14.00 น. ผู้ชุมนุมที่จัดกิจกรรมเดินทะล

พล.อ.ซุลกิฟลี ไซนัล อบิดิน ผู้อำนวยความสะดวกพูดคุยของมาเลเซีย มั่นใจการพูดคุยสันติสุข กำลังปูทางไปสู่การยุติความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนใต้ของไทย แต่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเปิดใจและพร้อมรับความเห็นที่แตกต่างในกระบวนการเจรจา “ประชาชนที่ผมพูดคุยด้วยเชื่อว่าเราเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว” พล.อ.ซุลกิฟลีกล่าว ระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Thai PBS World ซึ่งเป็นบริการข่าวภาคภาษาอังกฤษ ของไทยพีบีเอส ระหว่างการเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ซุลกิฟลีมั่นใจว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทางกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมกันแสวงหาทางออกอย่างสันติ ให้กับความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนของไทย ตามข้อตกลงที่บรรลุในระหว่างการพูดคุยสันติสุข ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.ซุลกิฟลี เป็นผู้อำนวยความสะดวก และมีตัวแทนของรัฐบาลไทยนำโดย พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็นหัวหน้slotgame666าคณะและตัวแทนจากบีอาร์เอ็นเข้าร่วม แต่ พล.อ.ซุลกิฟลีเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรง เปิดใจรับฟังความเห็นต่าง และเปิดรับการมีส่วนร่วมของกลุ่มคนในพื้นที่โดยคำนึงถึงความแตกต่างและความหลากหลายทางศาสนา วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ “ทุกคนต้องใจกว้าง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า คุณสามารถโต้แย้งในสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วย ในบางเรื่องได้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบ “วิน-วิน” ที่ทุกคนได้ ไม่ใช่มีผู้ชนะแต่ผู้เดียว นั่นคือสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนัก และมันต้องมาจากหัวใจเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นั่นคือสันติภาพ ซึ่งหมายความว่าต้องพร้อมที่จะได้และพร้อมที่จะเสียด้วย” พล.อ.ซุลกิฟลี กล่าว หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุข โดยนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม พล.อ.ซุลกิฟลี ได้พบกับตัวแทนกลุ่มแยกดินแดน ไม่ว่าจะเป็นพูโล มารา ปาตานี หรือบีอาร์เอ็นที่พำนักอยู่ในมาเลเซีย พล.อ.ซุลกิฟลี พูดถึงเหตุผลที่เดินทางมาเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เทพชัย หย่อง จาก Thai PBS World สัมภาษณ์พิเศษ คำต่อคำ พล.อ.ซุลกิฟลี ไซนัล อบิดิน ผู้อำนวยความสะดวกการพูดคุยสันติสุขของมาเลเซีย พล.อ ซุลกิฟลี : ก่อนหน้าผู้คนไม่ค่อยมีความมั่นใจต่อกระบวนการพูดคุยและบทบาทของมาเลเซียในการอำนวยความสะดวก สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากรับบทบาทนี้คือการทำความเข้าใจกับสถานการณ์ ผมได้เห็นท่าทีที่เป็นบวกจากทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ผู้คนตามท้องถนน เช้าวันนี้ผมไปกินโรตีในตลาดแห่งหนึ่ง ทุกคนดูเหมือนจะรู้จักผม และแสดงความยินดีที่ผมมาเยือน ผมพูดได้ว่า ผู้คนกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่ามีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว และคนที่เชื่อแบบนี้ก็มีมากขึ้นทุกทุกที พล.อ ซุลกิฟลี : มีประโยชน์อย่างมาก ทุกคนพร้อมจะให้ข้อเสนอแนะ พวกเขาอยากส่งเสียงและมีส่วนร่วมในกระบวนการ ผมคิดว่าควรต้องมีกลไกให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมและมีความรู้สึกเป็นเจ้าของ มันไม่ควรเป็นบทบาทของผู้อำนวยความสะดวกอย่างเดียว ทุกคนควรมีส่วนร่วม พล.อ.ซุลกิฟลี : มีสามประเด็นหลักใน “แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม” (Joint Comprehensive Plan towards Peace) อันดับแรก คือการหยุดความรุนแรงที่ทั้งสองฝ่ายต้องมีข้อตกลงร่วมกัน ต้องเคารพในหลักกฎหมายและมีกลไกติดตาม และทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องรับรู้ในข้อตกลงนี้ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องเกิดขึ้นในการหารือเฉพาะ เพราะมีเรื่องของกฎหมายและความลับของบีอาร์เอ็นที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญคือคำถามที่ควรถามคืออะไร ถ้าเป็นคำถามผิด เราก็จะได้คำตอบที่ผิด และนั่นจะเป็นปัญหา เราคงต้องใช้เวลาในการกำหนดประเด็นและยุทธศาสตร์สำหรับกระบวนการนี้ อาจจะเร็วไปที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้ แต่ก็ได้เห็นหลายประเด็นที่มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ เช่นเรื่องการศึกษา เรื่องเอกลักษณ์ เรื่องศาสนา เรื่องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น พล.อ ซุลกิฟลี : สองปีเป็นกรอบเวลาที่ดีแล้ว แต่หมายความทุกคนต้องใจกว้าง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า คุณสามารถโต้แย้งในสิ่งที่คุณไม่เห็นด้วย ในบางเรื่องได้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบ “วิน-วิน” พล.อ.ซุลกิฟลี : ใช่แล้ว ผมถึงได้บอกว่าผมได้เห็นสัญญาณบวกในทุกการสนทนา ในทุกการแสดงออก มันไม่ใช่เป็นดรามา แต่เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ ผมมีความมั่นใจว่าเราสักวันหนึ่งเราจะได้ข้อยุติ พล.อ.ซุลกิฟลี : มันขึ้นอยู่กับทั้งรัฐบาลไทยและบีอาร์เอ็น ทั้งสองฝ่ายเข้าใจดีถึงความอ่อนไหวของเรื่องนี้ และต้องพยายามหาทางประนีประนอม และมีความอดทนทั้งในพื้นที่และในความคิด นั่นคือเหตุผลที่ผมบอกว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องใจกว้าง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับต้องสองฝ่าย ส่วนผมมีหน้าที่เพียงอำนวยความสะดวก ไม่มีบทบาทอะไรมากไปกว่านั้น พล.อ ซุลกิฟลี : นายกรัฐมนตรีอันวาร์ได้ย้ำว่า การสร้างการมีส่วนร่วมเป็นวาระสำคัญของการเจรจา ตัวแทนบีอาร์เอ็นบอกผมว่า พร้อมให้ตัวแทนกลุ่มอื่นเข้ามาร่วมด้วย แต่จะร่วมด้วยกี่คนหรือในรูปแบบไหนเป็นรายละเอียดที่ต้องหารือกัน ภารกิจแรกของผมคือ การทำให้ทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยกับ “แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติภาพแบบองค์รวม” นั่นคือกุญแจสำคัญ และเป็น “โรดแม็พ” เพื่อเดินไปข้างหน้า จากนี้ไปคงจะมีการหารือว่าจะมีการเปิดให้ฝ่ายอื่น ๆ เข้ามาร่วมอย่างไร ซึ่งผมเชื่อว่าจะมีข้อตกลงได้ พล.อ.ซุลกิฟลี : บทเรียนจากกระบวนการเจรจาสันติภาพในมินดาเนา (ฟิลิปปินส์) และอาเจะห์ (อินโดนิเซีย) บอกเราว่า ทุกอย่างมันไม่ง่าย มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะควบคุมฝ่ายปฏิบัติการภาคพื้นดิน บางครั้งเกิดความผิดพลาดในการสื่อสาร บางครั้งเกิดความเข้าใจผิด และบางครั้งอารมณ์ก็เหนืออยู่คำสั่ง ผมได้บอกกับบีอาร์เอ็น ให้ทำความเข้าใจกับฝ่ายปฏิบัติการต่อเป้าหมายของการเจรจา และถ้าพวกเขาเข้าใจใน “โรดแม็พ” และสิ่งที่รออยู่ข้างหน้า ผมเชื่อเราสามารถหยุดยั้งความรุนแรงได้ ผมได้สื่อสารกับ พล.อ. วัลลภ รักเสนาะ (หัวหน้าพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย) ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติในแนวเดียวกันเพื่อให้เกิดความมั่นใจ พล.อ.ซุลกิฟลี : มันขึ้นอยู่กับประเทศไทย บทบาทของมาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวกเกิดจากข้อเสนอของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระหว่างที่เยือนมาเลเซียในปี 2013 แต่คำถามผมคือถ้าบทบาทผู้อำนวยความสะดวกได้ผล มันมีความจำเป็นอย่างไรที่ต้องปรับเปลี่ยนบทบาท ถ้าเราบรรลุเป้าหมายได้ เราก็น่าจะเดินหน้าไปกับสิ่งที่มีอยู่ พล.อ.ซุลกิฟลี : ถูกแล้ว ถ้าเครื่องไม่เสียก็ไม่จำเป็นต้องซ่อม พล.อ.ซุลกิฟลี : ท่านบอกให้ผมมาทำหน้าที่อำนวยความสะดวก อันดับแรกย้ำว่า มันเป็นเรื่องภายใน (ของประเทศไทย) และสองต้องสร้างความมั่นใจต่อบทบาทของมาเลเซียในการอำนวยความสะดวกการเจรจา สร้างการมีส่วนร่วม มีความโปร่งใส และเราต้องไม่มีวาระซ่อนเร้น ท่านบอกให้ผมทำทุกอย่างเพื่อให้มีความคืบหน้า เพราะยังไง ๆ ประเทศไทยก็เป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุดของเรา มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกัน จึงต้องร่วมมือกันเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นและมีสันติภาพที่นิรันดร์ สัมภาษณ์โดย เทพชัย หย่อง

วันนี้ (28 ธ.ค.2564) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาเครือข

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 08
กว่า 1 เดือนที่คนไทยได้เห็นแอคชันของรัฐบาลเพื่อไทย ในการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด แม้ว่าตลอดช่วง 1 ปี จะมีข่าวคนไทยถูกหลอกลวงสารพัดรูปแบบ จนมีตัวเลขที่ยืนยันผ่านการร้องเรียนผ่าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่