วันนี้ ( 2 มี.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของ May Chit Thway พี่สาวของ ไป่ ทาคน นายแบบชื่อดั
ปฎิบัติการวางแผน "เด็ดปีก" เข้าจับกุม "วีระชาติ รัศมี" นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี และพวกรวม 5 คน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือน เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา หากไม่ได้เกิดในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรั
ปฎิบัติการวางแผน "เด็ดปีก" เข้าจับกุม "วีระชาติ รัศมี" นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี และพวกรวม 5 คน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือน เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา หากไม่ได้เกิดในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง ซึ่งมี มท.3 "ชาดา ไทยเศรษฐ์" เป็น ส.ส.เขต พรรคภูมิใจไทย ในฐานะเจ้าถิ่นผู้มากบารมีและมีอิทธิพลกว้างขวาง ข่าวชิ้นนี้ สังคมคงไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่เพราะ "วีระชาติ" คือ สามีของ "อัลฑริกา ไทยเศรษฐ์" บุตรสาวคนที่ 4 ของ "ชาดา" จึงทำให้สังคมสนใจมากขึ้น ไม่ใช่เพราะ "อนุทิน ชาญวีระกุล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะ รมว.มหาดไทย มอบหมายงานปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมาเฟียให้กับ "ชาดา" รมช.มหาดไทยเป็นผู้รับผิดชอบ แม้ล่าสุด "ชาดา" ในฐานะ มท.3 สั่งให้ "วีระชาติ" ลาออกจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีตลุกดู่แล้วก็ตาม แต่กระบวนการสอบสวนและการดำเนินคดี ก็ยังต้องเดินหน้าต่อ "ก็บอกแล้ว เตือนแล้ว ถ้าไม่หยุดก็ต้องดูแลตัวเองกันไป" คือ คำเตือนจากพ่อตา "ชาดา" ถึง "วีระชาติ" ลูกเขย ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ในฐานะผู้รับผิดชอบคดีร่วมกับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ได้ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหา "วีระชาติ" และพวกอีก 5 คน คือ "ธนภัสสร์" ปลัดเทศบาลตลุกดู่, "กุลธัช" ผู้ช่วยนายช่างโยธาเทศบาลตลุกดู่ ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่วนลูกน้องอีก 2 คน คือ มานพ และยิ่งยง ซึ่งกระทำความผิดซึ่งหน้า ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานี ได้เปิดประมูลโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำประปาในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ และ ต.หาดทนง โดยให้ผู้ประกอบการเข้ายื่นสิทธิในการประมูลผ่านรูปแบบของ e-bidding หรือ วิธีประกวดราคาผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่ จึงได้ยื่นสิทธิเข้าร่วมการประมูลทั้ง 2 แห่ง แต่หลังจากนั้นไม่นาน บุคคลปริศนาได้ส่งเสียงมาทางสายโทรศัพท์ ข่มขู่ให้ถอนตัว โดยระบุว่า ผู้ใหญ่ในพื้นที่ต้องการโครงการนี้ไปทำ พร้อมเสนอเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าชดเชยหรือค่าเสียเวลาให้ แต่ทางผู้เสียหายตอบปฏิเสธ และใช้สิทธิเข้ายื่นประมูลตามเดิม และชนะการประมูลได้รับงานทั้ง 2 โครงการ ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย หลังชนะการประมูลพบว่า ผู้เสียหายไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากถูกกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ห้ามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง แคมป์ปูนซีเมนต์ทุกแห่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ขายปูนหรืออุปกรณ์ให้กับผู้เสียหาย ทำให้ไม่สามารถดำเนินงานจัดสร้างได้ตามแผนที่วางไว้ เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา "วีระชาติ" ได้เรียกผู้เสียหายมาพบและยื่นข้อเสนอให้จ่ายเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้เดินหน้าก่อสร้างโครงการทั้ง 2 แห่ง และมีต่อรองเหลือวงเงิน 600,000 บาท โดยระหว่างนั้นผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมายัง ปปป., ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. ทั้งหมดจึงร่วมกันวางแผนเข้าล่อซื้อ โดยนัดหมายส่งมอบเงินที่บริเวณหน้าธนาคาร ธ.ก.ส. สาขา อ.เมือง จ.อุทัยธานี ในช่วงสายๆ ของวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา การวางแผนเด็ดปีก "วีระชาติ" และพวกไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางต้องซุ่มเงียบในระหว่างที่ลงพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลทางการข่าวรั่วไหล ในทุกจุดที่เข้าปฎิบัติการจะมีการวางแผนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ เช่น จุดที่เข้าไปกุม "วีระชาติ" และพวก และจุดนัดพบเพื่อส่งมอบเงินให้กับลูกน้องของวีระชาติ คือ มานพและยิ่งยง ด้านหน้าธนาคาร ซึ่งผู้เสียหายได้นัดหมายไว้ "ก่อนอื่นต้องชม ผู้เสียหายที่เขากล้าร้องเรียน ทั้งๆ ที่เป็นผู้หญิง ต้องบอกว่าใจนักเลง ใจสู้มาก อาจเป็นเพราะเขาถูกกลั่นแกล้งจนทนไม่ไหว" แหล่งข่าวจากชุดปฎิบัติการระบุ "ตอนไปจับวีระชาติที่บ้าน เขาก็โวยวาย จนต้องบอกว่า หากยึกยัก โวยวาย จะเลข ฟัน ธง หุ้นเอาคลิปส่งให้กับผู้สื่อข่าวทุกสำนัก และมารอดูว่า ใครจะพัง ระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนถูกจับ ในที่สุดเขาก็ขอให้รอทนายมารับฟัง แล้วในขณะนั้น ก็ขอโทรศัพท์ด้วย ...ไม่แน่ใจว่าเขาโทรหาใครบ้าง" ชุดปฎิบัติการระบุ นอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่แล้ว มีข้อมูลว่า ระหว่างปฎิบัติการมีตำรวจระดับรองสารวัตรฯ ในพื้นที่มาแสดงตัว โดยอ้างว่าได้รับแจ้งจาก สจ.คนหนึ่งในพื้นที่ให้เข้ามาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการ บอกว่า การวางแผนจับกุมในครั้งนี้ ปิดข้อมูลกันอย่างเงียบเชียบ และไม่แจ้งนักข่าว เพราะกลัวว่าจะมีการปะทะ เพราะเขามีปืน หากคุมไม่อยู่ หรือเกิดเหตุปะทะอาจทำให้เกิดความวุ่นวาย และอาจไม่มีมุมให้หลบ จึงใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ยุทธวิธีทั้งหมด สำหรับปฎิบัติการที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการระบุว่า เป็นการไปเหยียบจมูกเขาถึงถิ่น แต่ในฐานะที่ทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในหลายๆ คดีที่ผ่านมา ก็มีการจับกุมบ่อยครั้ง ซึ่งเมื่อวานจำเป็นต้องปิดข่าวเพื่อความปลอดภัยของทุกๆ คน เจ้าหน้าที่ก็ต้องระวังแนวปืน มันอันตราย ข่าวที่เกี่ยวข้อง "มท.3" สั่งเขยเล็กพ้นตำแหน่งนายกเทศมนตรีตลุกดู่ จับ "ลูกเขยชาดา" เรียกรับสินบนสร้างประปาหมู่บ้าน 6 แสนบาท เส้นทาง "ผู้การเต่า" อดีตมือปราบยาเสพติดสู่มือปราบทุจริต
วิธีการนี้มีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เพราะหากครูปุ๊ทำได้ โรงเรียนอื่นทำตาม อาจนำไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ได้ หากไม่ใช่ครูปุ๊ ทีมข่าวไทยพีบีเอสเดินทางไปยัง จ.อ่างทอง อีกครั้ง เพื่อพูดคุยกับครูปุ๊ “กั