วันนี้ (25 มี.ค.2567) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว กา
"ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช" หรือ ฮาย ทายาททางการเมืองของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต ส.ส.เชียงราย อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อดีตประธานรัฐสภา รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางการเมื
พระราชพิธีเสกสมรสที่งดงามราวกับเทพนิยาย ของเจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน มาร์เคิล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 ทำให้ราชวงศ์อังกฤษได้รับความสนใจจากคนทั้งโลกอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าชายหนุ่มรูปงาม ได้ครองคู่กับดาราสาวผิวสี ชาวอเมริกัน ที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้ว และผ่านความเห็นชอบจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าราชวงศ์อังกฤษมีการปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่และเปิดรับความหลากหลายมากขึ้น ทำให้หลายฝ่ายมองว่า "เมแกน" จะใช้ความสามารถในฐานะนักแสดงประกอบกับภูมิหลังของเธอ ทำให้ราชวงศ์อังกฤษสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติได้ดีขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม เพราะ เมแกน ทำให้ราชวงศ์อังกฤษอื้อฉาวยิ่งกว่าเดิม เริ่มตั้งแต่กระแสข่าวว่า เมแกน ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับบทบาทของสมาชิกราชวงศ์ได้ ทำให้เธอมีความเครียดอย่างหนัก และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต อ่านข่าวเพิ่ม : บทบาทเคียงคู่กษัตริย์ รัชทายาทลำดับที่ 1 "เจ้าชายวิลเลียม" จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2020 เมื่อเจ้าชาย์แฮร์รี ประกาศถอนตัวจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ แต่ยังทรงมีพระอิสริยยศเป็นเจ้าชาย และทั้ง 2 ยังมีบรรดาศักดิ์ ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ แต่จะไม่ใช้คำนำหน้าพระนาม ที่แสดงถึงความเป็นพระราชวงศ์ชั้นสูงอีกต่อไป เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ย้ายจากอังกฤษ ไปประทับอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแฮร์รี และราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะกับเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา แย่ลงเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อในสหรัฐอเมริกา รวมถึงการตีพิมพ์หนังสือ สแปร์ (Spare) ของเจ้าชายแฮร์รี ที่เผยรอยร้าวในราชวงศ์อังกฤษ ในขณะที่เมแกน เปิดเผยว่าต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการใช้ชีวิตในฐานะสมาชิกราชวงศ์ จนทำให้เธอซึมเศร้า ถึงขั้นเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย แต่การเสด็จสวรรคตของสมเดสมัคร รอยัล คา สิ โน็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ปรากฎภาพของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมกันหน้าพระราชวังวินด์เซอร์ และมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชน ทำให้หลายคนมีความหวังว่า การสูญเสียพระอัยยิกา จะทำให้พี่น้องกลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง แต่จนถึงขณะนี้ ดูเหมือนว่าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น โดยมีกระแสข่าวว่าเจ้าชายวิลเลียม ในฐานะรัชทายาทลำดับที่ 1 กังวลพระทัยเป็นอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมของ เมแกน พระชายาในเจ้าชายแฮร์รี ที่อาจจะสร้างความเสื่อมเสียให้ราชวงศ์อังกฤษมากขึ้นไปอีก ในขณะที่เจ้าชายแฮร์รีทรงรักใคร่และปกป้องพระชายาอย่างถึงที่สุด และนี่คือความขัดแย้งที่ทั้งสองพระองค์ไม่อาจประนีประนอมกันได้ ส่วนความสัมพันธ์อีกแง่มุมหนึ่ง ระหว่างสมเด็จพระราชินีคามิลลา กับเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี ที่คนภายนอกอาจมองว่าเป็นความสัมพันธ์แบบแม่เลี้ยงใจร้าย แต่เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี เคยพระราชทานสัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ในลักษณะคล้ายๆ ว่าพระองค์รักสมาชิกในครอบครัวทุกพระองค์ แม้ว่าจะมีความแตกต่างกัน แต่พวกเราต่างมีไมตรีจิตรให้กันและกัน อ่านข่าวเพิ่ม : "ควีน" สู่ "คิง" ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์แห่งราชวงศ์อังกฤษ
พระราชพิธีเสกสมรสที่งดงามราวกับเทพนิยาย ของเจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน มาร์เคิล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2018 ทำให้ราชวงศ์อังกฤษได้รับความสนใจจากคนทั้งโลกอีกครั้ง เนื่องจากเจ้าชายหนุ่มรูปงาม ได้ครองคู่กับดาราสาว