ครูเคนยาประท้วงต้านรัฐบาลผันงบฯ ให้กลาโหม ครูในประเทศเคนย่ามากกว่า 200,000 คน ประท้วงการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งผันเงินจำนวนมหาศาลไปให้กระทรวงกลาโหม ครูเคนยาประท้วงต้านรัฐบาลผันงบฯ ให้กลาโหม ครูจา

นโยบาย "มะเร็งรักษาทุกที่" หรือ Cancer Anywhere เป็นนโยบายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) โดยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าป่วยเป็นมะเร็ง สามารถเลือก (ร่วมกับแพทย์เจ้าของไข้) ว่าจะเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลใดก็ได้ ที่มีศักยภาพและรอคิวไม่นานโดยผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 เรียกว่า "ข้ามเขต-ข้ามจังหวัดได้" แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การรับบริการ "ข้ามเขต-ข้ามจังหวัดได้" กลับสร้างความยุ่งยาก โดยเฉพาะ "ใบส่งตัว" ที่เชื่อมกับ 30 บาทรักษาทุกที่ หากผู้ป่วยมะเร็งจะเข้ารับบริการโรงพยาบาลสังกัดโรงเรียนแพทย์ จะต้องไปขอใบส่งตัวจากคลินิกปฐมภูมิต้นสังกัดตามสิทธิ สอดคล้องกับช่วงปลายปี 2567 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการเบิกจ่ายกองทุนมะเร็งรักษาทุกที่ รายการให้เคมีบำบัด ฮอร์โมน หรือรังสีรักษา สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทั้งบริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในรวมบริการผู้ป่วยนอกสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งกรณีที่มีเหตุสมควร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 รวมบริการผู้ป่วยนอกสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งกรณีที่มีเหตุสมควร จนกลายเป็นประเด็นหลัก ทำให้โรงพยาบาลสังกัดโรงเรียนแพทย์ ต้องออกมาประกาศว่า การรักษามะเร็งรักษาทุกที่ จะต้องมีใบส่งตัวเท่านั้น หากไล่เลียงไทม์ไลน์ ปัญหาที่เกิดขึ้น สปสช.ไม่ได้นิ่งนอนใจตั้งแต่ช่วงปลายปี 2567 จนถึงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาความพยายามแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องใบส่งตัวการเบิกจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยังเป็นปัญหาทั้งโรงพยาบาล-ผู้ป่วย อ่านข่าว วายร้ายเงียบ "มะเร็ง" ไทยป่วยรายใหม่พุ่ง 1.4 แสนคน ทำให้มีการผ่อนผันการใช้เกณฑ์มะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่จากเดิมที่จะบังคับใช้ต่อไปอีก 3 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.2568 ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย ประธานคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีการรักษาโรคมะเร็ง (Cancer Anywhere) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ภาพ สปสช.) ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย ประธานคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีการรักษาโรคมะเร็ง (Cancer Anywhere) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ภาพ สปสช.) กระทั่งมีการตกผลึกในการประชุมเมื่อ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา นำโดย ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย ประธานคณะทำงานจัดทำข้อเสนอการจ่ายชดเชยค่าบริการสาธารณสุข กรณีการรักษาโรคมะเร็ง (Cancer Anywhere) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จากนั้น นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.ได้รับทราบข้อเสนอเบื้องต้นดังกล่าว และได้ลงนามคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์มะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 เม.ย.2568 ซึ่งจะมีผลทำให้กลับไปประกาศหลักเกณฑ์ ฉบับเดิมปี 2566-2567 อ่านข่าว 30 บาทรักษาทุกที่ทำคนไข้สับสน สปสช.ย้ำเร่งแก้ปัญหาใบส่งตัว ข้อมูลจากมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง อธิบายถึงมะเร็งรักษาที่ไหนก็ได้ที่พร้อมไว้ดังนี้ อ่านข่าว ถ้าเราเป็น “มะเร็ง” ต้องรักษายังไงบ้าง วันที่ 26 พ.ย.2567 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เคยให้สัมภาษณ์ว่า สปสช.ยังคงดำเนินการตามนโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ แต่กำหนดเงื่อนไขการเบิกจ่ายกองทุนมะเร็งรักษาทุกที่ เฉพาะรายการให้เคมีบำบัด ฮอร์โมน หรือรังสีรักษาสำหรbigwing slotับผู้ป่วยโรคมะเร็ง ทั้งบริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ทั้งนี้รวมบริการผู้ป่วยนอกสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งกรณีที่มีเหตุสมควร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2568 สาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงการเบิกจ่ายเนื่องจากพบว่า การจ่ายเงินจากกองทุน Cancer Anywhere พบว่าไม่ได้จ่ายเฉพาะการรักษามะเร็งอย่างเดียว แต่จ่ายเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเรื่อง investigation (สอบสวนโรค ) โรคอื่นที่ไม่สัมพันธ์กับการรักษามะเร็งในครั้งนั้นมากกว่า 50% ดังนั้นเพื่อให้การจัดการงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อนของการเบิกจ่ายงบในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงได้เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายใหม่ โดยแยกรายการเบิกจ่ายการรักษาโรคแทรก โรคร่วม หรือโรคอื่นๆ ที่ไม่สัมพันธ์กับโรคมะเร็ง ออกจากการจ่ายมะเร็งรักษาทุกที่ ซึ่งโรคเหล่านี้ เป็นค่าบริการที่อยู่ในงบเหมาจ่ายรายหัวที่ได้จัดสรรให้กับหน่วยบริการไว้อยู่แล้ว และจ่ายเฉพาะบริการที่เกี่ยวกับมะเร็ง ได้แก่ เคมีบำบัด ฮอร์โมน หรือรังสีรักษา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ชี้แจงเงื่อนไขการจ่ายที่จะมีการเปลี่ยนแปลงให้กับหน่วยบริการไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2567 พบว่ามีข้อเสนอแนะให้มีการปรับเงื่อนไขใหม่ เนื่องจากความกังวลว่าจะกระทบการให้บริการแก่ผู้ป่วยและทำให้ผู้ป่วยมีความยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ส่วนกรณีเงื่อนไขการจ่ายรูปแบบใหม่ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค.2568 สปสช.ได้หารือร่วมกับหน่วยบริการ เพื่อทบทวนเงื่อนไขการจ่ายเพื่อไม่ให้กระทบผู้ป่วยและการให้บริการของหน่วยบริการ จากนั้นวันที่ 6 ก.พ.2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ได้รับรายงานจากล่าสุด นพ.จเด็จว่า โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวรับรองสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากหน่วยบริการประจำ โดย สปสช.เป็นรับผิดชอบดูแลการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามนโยบาย เช่นเดิม หน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารังสีรักษา ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด โรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม สำหรับการส่งข้อมูลผู้ป่วยนั้น มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อ และดูข้อมูลผู้ป่วยอยู่แล้ว โดยทาง รพ.รับส่งต่อสามารถดูข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวนี้ได้ ขณะนี้สปสช.ลงนามคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์มะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 เม.ย.นี้แล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้กลับไปประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับเดิมปี 2566-2567 ได้ส่งหนังสือแจ้งเวียนหน่วยบริการทั่วประเทศรับทราบแล้ว จากข้อมูลพบว่าทั่วประเทศมีโรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็งด้วยรังสีรักษา จำนวน 41 แห่ง ที่พร้อมให้บริการและรองรับนโยบาย Cancer Anywhere โดยสามารถแบ่งออกเป็น 7 กลุ่ม ตามภูมิภาค อ่านข่าว ไขข้อสงสัย "วัคซีน HPV" เหมาะกับใคร ป้องกันโรคอะไรได้บ้าง

วันนี้ (8 ม.ค.2567) น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า อว.เตรียมจัดงาน "ถนนสายวิทยาศาสตร์ รับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567" ชวนเด็กๆ มาเป็น "เด็กช่างคิด

นโยบาย "มะเร็งรักษาทุกที่" หรือ Cancer Anywhere เป็นนโยบายในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30

นิยายชีวิต โดย : Ferry kisihandi
เรื่องและภาพโดย : Ferry kisihandi
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..