วันนี้ (13 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ทเว็บ เข้า บา คา ร่า
วันนี้ (13 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเป็นวงกว้างและหลากหลายอาชีพ ไม่เว้นแต่บุคลากรการแพทย์ ซึ่งทำให้โรงพยาบาลรัฐหลายแห่งทั้งในกรุงเทพมหานคร
วันนี้( 1 ธ.ค. 2566 )นพ. ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เพื่อสนองนโยบาย Quick win เรื่องสถานชีวาภิบาล จัดสถานที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยระยะท้าย หรือการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Ward/Hospital at Homeเว็บ เข้า บา คา ร่า) จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประจำปี 2564 ประเทศไทยมีวัดทั้งสิ้นจำนวน 43,562 วัด มีพระภิกษุสามเณร ประมาณ 241,368 รูป พบว่าพระอาพาธระยะท้าย เป็นจำนวน 9,655 รูป จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินโครงการ “กุฏิชีวาภิบาล” เพื่อให้การดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีพระคิลานุปัฏฐากที่ผ่านการอบรมถวายความรู้ตามหลักสูตร “การดูแลพระอาพาธระยะท้ายของพระคิลานุปัฏฐาก” ที่เน้นการดูแลสุขภาพพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้พระคิลานุปัฏฐาก มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ที่วัด ซึ่งนอกจากจะสามารถให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ภายในวัดแล้ว ท่านยังสามารถให้ความรู้ให้การช่วยเหลือแก่ญาติโยมประชาชนในชุมชน ให้มีสุขภาพที่ดี ทำ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "คิลานุปัฏฐาก" โครงการพระ อสม. ดูแลสงฆ์ชราอาพาธประจำวัด นพ.อภิชัย สิรกุลจิรา ผอ.รพ. สงฆ์ กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมีพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งพระสงฆ์เองมีวัตรปฏิบัติต่างจากฆราวาสทั่วไป ต้องปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย เมื่ออาพาธติดเตียงหรือเจ็บป่วยระยะท้าย ท่านก็มีความประสงค์จะขอกลับวัด แต่สถานที่ที่จะรับรองความเจ็บป่วยมีจำนวนน้อยหรือบางวัดก็ไม่มี รพ.สงฆ์ จึงได้จัดทำโครงการ “กุฏิชีวาภิบาล” เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย โดยนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Virtual Hospital) มาสนับสนุนการให้บริการ และพัฒนาศักยภาพพระคิลานุปัฏฐากที่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมอนามัยจำนวน 70 ชั่วโมง มารับการอบรมถวายความรู้เพิ่มเติมภาคทฤษฎีอีก 5 วัน และภาคปฏิบัติในโรงพยาบาลอีก 15 วัน เรื่องของการดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย และยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธที่เอื้อต่อพระธรรมวินัยให้กับบุคลากรในพื้นที่เขตสุขภาพทั่วประเทศ ทั้ง 13 เขตสุขภาพ ทั้งนี้ได้กำหนดจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบ จำนวน 4 แห่งในเบื้องต้น ได้แก่ 1.วัดท่าประชุม จังหวัดขอนแก่น (เขตสุขภาพที่ 7) 2.วัดทับคล้อ จังหวัดพิจิตร (เขตสุขภาพที่ 3) 3.วัดบุญนารอบ จังหวัดนครศรีธรรมราช (เขตสุขภาพที่ 11) และ 4.วัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี (เขตสุขภาพที่ 4) โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2570 จะดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลให้ครบทุกเขตสุขภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งคณะพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
วันนี้ (5 เม.ย.2568) นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมญาติของผู้สูญห
เว็บ เข้า บา คา ร่า -Sugar Daddy Siap Bikin Baper!
วันนี้ (13 พ.ค.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ทเว็บ เข้า บา คา ร่า
วันนี้ (13 เม.ย.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ COVID-19 ในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเป็นวงกว้างและหลากหลายอาชีพ ไม่เว้นแต่บุคลากรการแพทย์ ซึ่งทำให้โรงพยาบาลรัฐหลายแห่งทั้งในกรุงเทพมหานคร
วันนี้( 1 ธ.ค. 2566 )นพ. ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เพื่อสนองนโยบาย Quick win เรื่องสถานชีวาภิบาล จัดสถานที่ดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยระยะท้าย หรือการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน (Home Ward/Hospital at Homeเว็บ เข้า บา คา ร่า) จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประจำปี 2564 ประเทศไทยมีวัดทั้งสิ้นจำนวน 43,562 วัด มีพระภิกษุสามเณร ประมาณ 241,368 รูป พบว่าพระอาพาธระยะท้าย เป็นจำนวน 9,655 รูป จึงได้กำหนดให้มีการดำเนินโครงการ “กุฏิชีวาภิบาล” เพื่อให้การดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีพระคิลานุปัฏฐากที่ผ่านการอบรมถวายความรู้ตามหลักสูตร “การดูแลพระอาพาธระยะท้ายของพระคิลานุปัฏฐาก” ที่เน้นการดูแลสุขภาพพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้พระคิลานุปัฏฐาก มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ที่วัด ซึ่งนอกจากจะสามารถให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ภายในวัดแล้ว ท่านยังสามารถให้ความรู้ให้การช่วยเหลือแก่ญาติโยมประชาชนในชุมชน ให้มีสุขภาพที่ดี ทำ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "คิลานุปัฏฐาก" โครงการพระ อสม. ดูแลสงฆ์ชราอาพาธประจำวัด นพ.อภิชัย สิรกุลจิรา ผอ.รพ. สงฆ์ กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พบว่าประเทศไทยมีพระสงฆ์อาพาธระยะท้ายเป็นจำนวนมาก ซึ่งพระสงฆ์เองมีวัตรปฏิบัติต่างจากฆราวาสทั่วไป ต้องปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย เมื่ออาพาธติดเตียงหรือเจ็บป่วยระยะท้าย ท่านก็มีความประสงค์จะขอกลับวัด แต่สถานที่ที่จะรับรองความเจ็บป่วยมีจำนวนน้อยหรือบางวัดก็ไม่มี รพ.สงฆ์ จึงได้จัดทำโครงการ “กุฏิชีวาภิบาล” เพื่อเป็นสถานที่ดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย โดยนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ (Virtual Hospital) มาสนับสนุนการให้บริการ และพัฒนาศักยภาพพระคิลานุปัฏฐากที่ได้ผ่านการอบรมหลักสูตรของกรมอนามัยจำนวน 70 ชั่วโมง มารับการอบรมถวายความรู้เพิ่มเติมภาคทฤษฎีอีก 5 วัน และภาคปฏิบัติในโรงพยาบาลอีก 15 วัน เรื่องของการดูแลพระสงฆ์อาพาธระยะท้าย และยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การอุปัฏฐากพระสงฆ์อาพาธที่เอื้อต่อพระธรรมวินัยให้กับบุคลากรในพื้นที่เขตสุขภาพทั่วประเทศ ทั้ง 13 เขตสุขภาพ ทั้งนี้ได้กำหนดจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลต้นแบบ จำนวน 4 แห่งในเบื้องต้น ได้แก่ 1.วัดท่าประชุม จังหวัดขอนแก่น (เขตสุขภาพที่ 7) 2.วัดทับคล้อ จังหวัดพิจิตร (เขตสุขภาพที่ 3) 3.วัดบุญนารอบ จังหวัดนครศรีธรรมราช (เขตสุขภาพที่ 11) และ 4.วัดสังฆทาน จังหวัดนนทบุรี (เขตสุขภาพที่ 4) โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2570 จะดำเนินการจัดตั้งกุฏิชีวาภิบาลให้ครบทุกเขตสุขภาพ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งคณะพระสังฆาธิการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
วันนี้ (5 เม.ย.2568) นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมญาติของผู้สูญห