ในวงการบินพาณิชย์ ห้องนักบินหรือค็อกพิท (Cockpit)

วันนี้ (1 มิ.ย.2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ได้หารือนอกรอบกับ 3 นายกสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบจ. อบต. เทศบาล ซึ่งทางสมาคมฯได้ขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่เล็งเห็นคว
วันนี้ (18 ต.ค.2566) เครื่องบิน A340-500 ของกองทัพอากาศ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน ประเทศอิสราเอล เพื่ออพยพคนไทยในอิสราเอล โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนก
16 พ.ค.นี้เด็กนักเรียนก็จะเปิดเทอมใหม่ มีทั้งที่เปลี่ยนโรงเรียน เลื่อนชั้นใหม่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การซื้ออุปกรณ์การเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋าที่ผู้ปกครองจะต้องจัดเตรียมไว้ให้บุตรหลานเพื่อใช้ในสถานศึกษา แน่นอนว่า เปิดเทอมแต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประชาชนต้องรัดเข็มขัดและใช้จ่ายอย่างมัธยัสถ์เท่าที่จำเป็น แต่จะให้ประหยัดมากอาจส่งผลที่ไม่ดีต่อเด็กๆ เช่นกัน ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหาของผู้ปกครองที่มีเงินไม่เพียงพอ คือ นำทรัพย์สินไป “จำนำ” มากที่สุด รองลงมา คือ “กู้เงินในระบบ” นางอุมากมล สุนทรรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึง ผลสำรวจถึงพฤติกรรมการใช้จ่าย และผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมปี 2568 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,250 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-6 พ.ค.68 พบว่า ในภาพรวมเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 ผู้ปกครองมีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 62,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อน กว่า 67% ของผู้ปกครอง ระบุว่า มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายของบุตรหลายในช่วงเปิดเทอม ขณะที่อีกประมาณ 33% ระบุว่า มีไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายโดยรวมสำหรับช่วงเปิดเทอมปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 26,039 บาท 45.6% ผู้ปกครองส่วนใหญ่ มองว่า ค่าใช้จ่ายโดยรวมในช่วงเปิดเทอมปี 68 เท่ากับเปิดเทอมปี 67ที่ผ่านมา รองลงมา 30.2% มองว่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และ4.5% มองว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่19.7% ระบุว่าค่าใช้จ่ายปีนี้น้อยลง นางอุมากมล สุนทรรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นางอุมากมล สุนทรรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนของบุตรหลาน มีส่วนทำให้ต้องก่อหนี้เพิ่มหรือไม่นั้น 41% ผู้ปกครองระบุว่าไม่มีส่วนให้ก่อหนี้เพิ่ม รองลงมา 38% ตอบว่ามีการก่อหนี้เพิ่ม แต่ไม่ถึง 10% ของยอดหนี้ทั้งหมด โดยมีเพียง 0.4% เท่านั้น ที่ตอบว่ามีการก่อหนี้เพิ่มมากว่า 60% ของยอดหนี้ทั้งหมด และเมื่อถามว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลานหรือไม่นั้น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ 56.6% ตอบว่าส่งผลกระทบมาก มีเพียง 8.8% เท่านั้น ที่ตอบว่าไม่ส่งผลกระทบ สำหรับความสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษานั้น 50.1 % ผู้ปกครองส่วนใหญ่ตอบว่า มีความสำคัญมาก รองลงมา 43.5% มีความสำคัญปานกลาง ขณะที่อีก 6.4% ตอบว่ามีความสำคัญน้อย ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 47.1% มองว่า กยศ. ช่วยลดภาระผู้ปกครองได้ในระดับปานกลาง รองลงมา กลุ่มตัวอย่าง 43.6% ตอบว่าช่วยได้มาก ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 3.5% ตอบว่าช่วยไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองยังมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงด้านการศึกษาของไทยในปัจจุบัน เช่นปรับปรุงระบบการประเมินผลนักเรียนที่วัดผลในหลายมิติ ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ให้แต่ละโรงเรียนมีคุณภาพการเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน สนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ทัดเทียมระดับสากลปรับการเรียนการสอนให้ดึงดูดความสนใจของนักเรียน และเพิ่มบุคลากรทางการศึกษา นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 จะมีเงินสะพัด 62,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการสำรวจในปี 53 หรือประมาณ 16 ปี ที่มีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงเปิดเทอม ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจยังเดินหน้าได้อยู่และช่วยผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น โรงเรียน สถาบันการศึกษา ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การศึกษา ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่มีผลกระทบจาก Trade War ที่จะกระทบจากการซึมตัวของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงยังไม่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมและมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจดังกล่าว ไม่พบว่าผู้ปกครองลดหรือประหยัดการใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน ส่วนใหญ่ตอบว่า ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในปีนี้ ยังใกล้เคียงกับปีก่อน และผู้ปกครองไม่ได้ขาดแคลนเงินมากนัก ภาพรวมการใช้จ่ายด้านการศึกษายังไม่ได้หยุดชะงัก นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังมองว่า การศึกษาไทยน่าจะมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้น เพราะคนยังมีความเชื่อมั่นน้อยว่าสถาบันการศึกษาของไทย จะทำให้คุณภาพของนักเรียนโดดเด่นได้เหมือนกับโรงเรียนนานาชาติ ขณะที่ธนาคารออมสินได้ ออกมาตรการ สินเชื่อธนาคารประชาชนต้อนรับเปิดเทอมโดยเฉพาะ กลุ่มผู้ปกครองที่ต้องแเกมส์ แคน ดี้ ได้ เงิน จริงฝาก 20 ได้ 100บกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ทั้งค่าชุดเครื่องแบบนักเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน และอื่น ๆ ด้วยการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้เข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเตรียมความพร้อมแก่บุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่เพียง 0.60% ต่อเดือน วงเงินกู้ตามความจำเป็นสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 1 ปี (12 งวด) ผ่อนชำระประมาณ 894 บาทต่อเดือน (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) สำหรับผู้มีอาชีพ รายได้ และที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถยื่นขอสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ตั้งแต่ 8 พ.ค. – 31 ก.ค.นี้ ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ช่วงเปิดภาคเรียนเพิ้อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยเฉพาะให้ผู้ปกครองมาเลือกซื้อสินค้าและชุดนักเรียน กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายลดราคาสินค้า เช่น เครื่องแบบนักเรียน ซื้อ 3 จ่าย 2 เสื้ออนุบาลเริ่มต้น 69 บาท เสื้อประถม 89 บาท เสื้อมัธยมต้น 129–139 บาท รองเท้าและถุงเท้า ลดสูงสุด 33% กระเป๋านักเรียน ลดสูงสุด 50% เช่น กระเป๋าไซส์ M จาก 699 บาท เหลือ 349 บาท เครื่องเขียน ลดสูงสุด 50% เช่น ชุดเครื่องเขียนจาก 199 บาท เหลือ 79 บาท ดินสอสีจาก 85 บาท เหลือ 49 บาท นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ส่วนอุปกรณ์สำนักงาน ลดสูงสุด 58% เช่น คีย์บอร์ดจาก 499 บาท เหลือ 209 บาท สินค้าอุปโภคบริโภค ลดสูงสุด 50% เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซื้อ 1 แถม 1, น้ำยาล้างจานจาก 189 บาท เหลือ 99 บาท อาหารสด ลดสูงสุด 40% เช่น ข้าวเสาไห้จาก 165 บาท เหลือ 99 บาท สำหรับโครงการ เปิดเทอม เติมพลัง ถือเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายกว่า 50 ราย ครอบคลุม 22,924 สาขาทั่วประเทศ โดยจัดลดราคาสินค้าจำเป็นใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค บริการ และสินค้าออนไลน์ ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 31 พ.ค.ระยะเวลา 32 วัน คาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้กว่า 300 ล้านบาท “ไทยพีบีเอสออนไลน์” สอบถามไปยังผู้ปกครองนักเรียน ในพื้นที่จ.ชุมพร รายหนึ่ง กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของบุตรหลาน ในช่วงเปิดเทอมปีนี้ที่เลื่อนชั้นไปมัธยมที่หนึ่งและย้ายโรงเรียนใหม่ ต้องซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนใหม่ทั้งหมด โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-6,000 บาท/คน เช่น ชุดนักเรียน ประมาณ3,000 บาท รองเท้า ถุงเท้า 1,000 บาท/2คู่ ค่าหนังสือ/สมุด 1,000 บาท กระเป๋านักเรียน 300-500 บาท ส่วนชุดลูกเสื้อใช้ของพี่ ทำให้ช่วยประหยัดได้ระดับหนึ่ง “วิธีประหยัด คือจะซื้อชุดนักเรียนเผื่อไว้ให้ใช้จนถึงม.3 เลยที่เดียว ที่จะต้องซื้อบ่อยที่สุด คือ รองเท้าและถุงเท้านักเรียน ส่วนอุปกรณ์การเรียนอื่นๆซื้อน้อยมาก แต่ยอมรับว่าเศรษฐกิจในตอนนี้ทำให้ต้องรัดเข็มขัดพอสมควร อะไรที่ยังใช้ได้อยู่ก็จะไม่ซื้อใหม่ หรือใช้ของเดิมไปก่อน ” อ่านข่าว: ฤาจะถึงคราเสน่ห์ "เที่ยวไทย" สิ้นมนต์ขลัง ในสายตานักท่องเที่ยวจีน ลุ้น ครม.เคาะแจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี “นายก”สั่ง พณ. เร่งแก้สินค้าเกษตร หวั่นล้นตลาด ราคาดิ่ง
ซิโก้คุมทีมปรีโอลิมปิกเต็มตัว เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะรับหน้าที่คุมปรีโอลิมปิกเต็มตัว ส่วนทีมเยาวช
16 พ.ค.นี้เด็กนักเรียนก็จะเปิดเทอมใหม่ มีทั้งที่เปลี่ยนโรงเรียน เลื่อนชั้นใหม่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เล
วันนี้ (22 ม.ค.2566) บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ค่อนข้างคึกคัก หลายพื้นที่จัดงานมีพี่น้องชาวไทยเชื้อ
16 พ.ค.นี้เด็กนักเรียนก็จะเปิดเทอมใหม่ มีทั้งที่เปลี่ยนโรงเรียน เลื่อนชั้นใหม่ และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การซื้ออุปกรณ์การเรียน ไม่ว่าจะเป็นชุดนักเรียน รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋าที่ผู้ปกครองจะต้องจัดเตรียมไว้ให้บุตรหลานเพื่อใช้ในสถานศึกษา แน่นอนว่า เปิดเทอมแต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประชาชนต้องรัดเข็มขัดและใช้จ่ายอย่างมัธยัสถ์เท่าที่จำเป็น แต่จะให้ประหยัดมากอาจส่งผลที่ไม่ดีต่อเด็กๆ เช่นกัน ดังนั้น แนวทางการแก้ปัญหาของผู้ปกครองที่มีเงินไม่เพียงพอ คือ นำทรัพย์สินไป “จำนำ” มากที่สุด รองลงมา คือ “กู้เงินในระบบ” นางอุมากมล สุนทรรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึง ผลสำรวจถึงพฤติกรรมการใช้จ่าย และผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมปี 2568 จากกลุ่มตัวอย่าง 1,250 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1-6 พ.ค.68 พบว่า ในภาพรวมเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 ผู้ปกครองมีมูลค่าการใช้จ่ายรวม 62,614 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อน กว่า 67% ของผู้ปกครอง ระบุว่า มีเงินเพียงพอกับค่าใช้จ่ายของบุตรหลายในช่วงเปิดเทอม ขณะที่อีกประมาณ 33% ระบุว่า มีไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายโดยรวมสำหรับช่วงเปิดเทอมปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 26,039 บาท 45.6% ผู้ปกครองส่วนใหญ่ มองว่า ค่าใช้จ่ายโดยรวมในช่วงเปิดเทอมปี 68 เท่ากับเปิดเทอมปี 67ที่ผ่านมา รองลงมา 30.2% มองว่า มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และ4.5% มองว่าค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ขณะที่19.7% ระบุว่าค่าใช้จ่ายปีนี้น้อยลง นางอุมากมล สุนทรรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย นางอุมากมล สุนทรรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียนของบุตรหลาน มีส่วนทำให้ต้องก่อหนี้เพิ่มหรือไม่นั้น 41% ผู้ปกครองระบุว่าไม่มีส่วนให้ก่อหนี้เพิ่ม รองลงมา 38% ตอบว่ามีการก่อหนี้เพิ่ม แต่ไม่ถึง 10% ของยอดหนี้ทั้งหมด โดยมีเพียง 0.4% เท่านั้น ที่ตอบว่ามีการก่อหนี้เพิ่มมากว่า 60% ของยอดหนี้ทั้งหมด และเมื่อถามว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลานหรือไม่นั้น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ 56.6% ตอบว่าส่งผลกระทบมาก มีเพียง 8.8% เท่านั้น ที่ตอบว่าไม่ส่งผลกระทบ สำหรับความสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษานั้น 50.1 % ผู้ปกครองส่วนใหญ่ตอบว่า มีความสำคัญมาก รองลงมา 43.5% มีความสำคัญปานกลาง ขณะที่อีก 6.4% ตอบว่ามีความสำคัญน้อย ทั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 47.1% มองว่า กยศ. ช่วยลดภาระผู้ปกครองได้ในระดับปานกลาง รองลงมา กลุ่มตัวอย่าง 43.6% ตอบว่าช่วยได้มาก ขณะที่กลุ่มตัวอย่าง 3.5% ตอบว่าช่วยไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองยังมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลปรับปรุงด้านการศึกษาของไทยในปัจจุบัน เช่นปรับปรุงระบบการประเมินผลนักเรียนที่วัดผลในหลายมิติ ลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา ให้แต่ละโรงเรียนมีคุณภาพการเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน สนับสนุนทุนการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ทัดเทียมระดับสากลปรับการเรียนการสอนให้ดึงดูดความสนใจของนักเรียน และเพิ่มบุคลากรทางการศึกษา นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า ยอดการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมปีการศึกษา 2568 จะมีเงินสะพัด 62,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่มีการสำรวจในปี 53 หรือประมาณ 16 ปี ที่มีค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงเปิดเทอม ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจยังเดินหน้าได้อยู่และช่วยผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น โรงเรียน สถาบันการศึกษา ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การศึกษา ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่มีผลกระทบจาก Trade War ที่จะกระทบจากการซึมตัวของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงยังไม่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมและมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบ นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจดังกล่าว ไม่พบว่าผู้ปกครองลดหรือประหยัดการใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน ส่วนใหญ่ตอบว่า ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในปีนี้ ยังใกล้เคียงกับปีก่อน และผู้ปกครองไม่ได้ขาดแคลนเงินมากนัก ภาพรวมการใช้จ่ายด้านการศึกษายังไม่ได้หยุดชะงัก นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังมองว่า การศึกษาไทยน่าจะมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้น เพราะคนยังมีความเชื่อมั่นน้อยว่าสถาบันการศึกษาของไทย จะทำให้คุณภาพของนักเรียนโดดเด่นได้เหมือนกับโรงเรียนนานาชาติ ขณะที่ธนาคารออมสินได้ ออกมาตรการ สินเชื่อธนาคารประชาชนต้อนรับเปิดเทอมโดยเฉพาะ กลุ่มผู้ปกครองที่ต้องแเกมส์ แคน ดี้ ได้ เงิน จริงฝาก 20 ได้ 100บกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ทั้งค่าชุดเครื่องแบบนักเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน และอื่น ๆ ด้วยการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้เข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สำหรับผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเตรียมความพร้อมแก่บุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่เพียง 0.60% ต่อเดือน วงเงินกู้ตามความจำเป็นสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 1 ปี (12 งวด) ผ่อนชำระประมาณ 894 บาทต่อเดือน (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) สำหรับผู้มีอาชีพ รายได้ และที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถยื่นขอสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ตั้งแต่ 8 พ.ค. – 31 ก.ค.นี้ ด้านนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ช่วงเปิดภาคเรียนเพิ้อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ โดยเฉพาะให้ผู้ปกครองมาเลือกซื้อสินค้าและชุดนักเรียน กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายลดราคาสินค้า เช่น เครื่องแบบนักเรียน ซื้อ 3 จ่าย 2 เสื้ออนุบาลเริ่มต้น 69 บาท เสื้อประถม 89 บาท เสื้อมัธยมต้น 129–139 บาท รองเท้าและถุงเท้า ลดสูงสุด 33% กระเป๋านักเรียน ลดสูงสุด 50% เช่น กระเป๋าไซส์ M จาก 699 บาท เหลือ 349 บาท เครื่องเขียน ลดสูงสุด 50% เช่น ชุดเครื่องเขียนจาก 199 บาท เหลือ 79 บาท ดินสอสีจาก 85 บาท เหลือ 49 บาท นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ส่วนอุปกรณ์สำนักงาน ลดสูงสุด 58% เช่น คีย์บอร์ดจาก 499 บาท เหลือ 209 บาท สินค้าอุปโภคบริโภค ลดสูงสุด 50% เช่น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซื้อ 1 แถม 1, น้ำยาล้างจานจาก 189 บาท เหลือ 99 บาท อาหารสด ลดสูงสุด 40% เช่น ข้าวเสาไห้จาก 165 บาท เหลือ 99 บาท สำหรับโครงการ เปิดเทอม เติมพลัง ถือเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายกว่า 50 ราย ครอบคลุม 22,924 สาขาทั่วประเทศ โดยจัดลดราคาสินค้าจำเป็นใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค บริการ และสินค้าออนไลน์ ระหว่างวันที่ 30 เม.ย. – 31 พ.ค.ระยะเวลา 32 วัน คาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพได้กว่า 300 ล้านบาท “ไทยพีบีเอสออนไลน์” สอบถามไปยังผู้ปกครองนักเรียน ในพื้นที่จ.ชุมพร รายหนึ่ง กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของบุตรหลาน ในช่วงเปิดเทอมปีนี้ที่เลื่อนชั้นไปมัธยมที่หนึ่งและย้ายโรงเรียนใหม่ ต้องซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนใหม่ทั้งหมด โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000-6,000 บาท/คน เช่น ชุดนักเรียน ประมาณ3,000 บาท รองเท้า ถุงเท้า 1,000 บาท/2คู่ ค่าหนังสือ/สมุด 1,000 บาท กระเป๋านักเรียน 300-500 บาท ส่วนชุดลูกเสื้อใช้ของพี่ ทำให้ช่วยประหยัดได้ระดับหนึ่ง “วิธีประหยัด คือจะซื้อชุดนักเรียนเผื่อไว้ให้ใช้จนถึงม.3 เลยที่เดียว ที่จะต้องซื้อบ่อยที่สุด คือ รองเท้าและถุงเท้านักเรียน ส่วนอุปกรณ์การเรียนอื่นๆซื้อน้อยมาก แต่ยอมรับว่าเศรษฐกิจในตอนนี้ทำให้ต้องรัดเข็มขัดพอสมควร อะไรที่ยังใช้ได้อยู่ก็จะไม่ซื้อใหม่ หรือใช้ของเดิมไปก่อน ” อ่านข่าว: ฤาจะถึงคราเสน่ห์ "เที่ยวไทย" สิ้นมนต์ขลัง ในสายตานักท่องเที่ยวจีน ลุ้น ครม.เคาะแจกเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี “นายก”สั่ง พณ. เร่งแก้สินค้าเกษตร หวั่นล้นตลาด ราคาดิ่ง
วันนี้ (13 ธ.ค.2566) ความคืบหน้า นายสมรักษ์ คำสิงห์ หลังเด็กสาววัย 17 ปี แจ้งความกล่าวหาว่าถูกนายสมร