กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังเพจ รู้เรื่องเมืองอำนาจเจริญ มีการแชร์ภาพ สภาพถนนที่มีลักษณะเหลื่อมก
ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า การกระทำที่ใช้สิทธิเสรีภาพเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข และใช้ถ้อยคำรุนแรงถึงขั้น “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” ส่อแนวโน้ม
กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ หลังเพจ รู้เรื่องเมืองอำนาจเจริญ มีการแชร์ภาพ สภาพถนนที่มีลักษณะเหลื่อมกัน พบว่าเป็นถนนที่บ้านโนนดู่ หมู่ที่ 5 และบ้านหนองแฝก หมู่ที่ 8 ต.สร้างนกทา อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ โดยจากการตรวจสอบพบลักษณะถนนไม่เชื่อมต่อกัน และเหลื่อมกัน โดยมีส่วนที่เหลื่อมกันอยู่ประมาณ 1.5 เมตร และส่วนที่เกินออกไปประมาณ 1 เมตร ภาพจากเพจ รู้เรื่องเมืองอำนาจเจริญ แชร์ภาพ สภาพถนนที่มีลักษณะเหลื่อมกัน ที่บ้านโนนดู่ และบ้านหนองแฝก จ.อำนาจเจริญ ภาพจากเพจ รู้เรื่องเมืองอำนาจเจริญ แชร์ภาพ สภาพถนนที่มีลักษณะเหลื่อมกัน ที่บ้านโนนดู่ และบ้านหนองแฝก จ.อำนาจเจริญ นายชลิต เฟื่องฟู นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสร้างนกทา ออกมาชี้แจงว่า เดิมถนนเส้นนี้ มีความกว้างเพียง 3 เมตร จึงไปพูดคุยปรึกษากับชาวบ้านว่า ควรจะสร้างให้กว้างกว่านี้ เพราะทำให้รถยนต์สามารถหลบหลีกกันได้ จึงได้ขอความร่วมมือกับเจ้าของที่ให้สละที่ดินบางส่วน เพื่อให้ถนนสามารถขยายได้ แต่พอก่อสร้าง ช่างได้สร้างรุกล้ำไปในที่ดินของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนเหลื่อม เร่งให้แก้ไขแล้ว พบใช้งบ 6.9 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนเหลื่อม เร่งให้แก้ไขแล้ว พบใช้งบ 6.9 ล้านบาท ด้านเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กสายนี้แล้ว โดยจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าโครงการดังกล่าว อยูmm88xtreme่ในความรับผิดชอบของ อบต.สร้างนกทา งบก่อสร้าง 6.9 ล้านบาท โดยจุดที่ถนนไม่ตรงกันอยู่ระยะทางช่วงประมาณ 1,700 เมตร เป็นการก่อสร้างที่มีบางส่วนรุกเขตพื้นที่ของประชาชน ความยาวประมาณ 35 เมตร และผู้รับจ้างยินยอมแก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญา โดยอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข จึงให้ประชาชนใช้สัญจรไปพลางก่อน อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ บอกว่า จะยังคงติดตามและเฝ้าระวัง การดำเนินโครงการดังกล่าวจนสิ้นสุดสัญญาหรือจนกว่าจะมีการส่งมอบงานจ้างต่อไป
วันนี้ (14 พ.ย.2565) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของไทยในสัปดาห์ที่ 45 มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยนอนรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 12.8 เปรี
