ภาพถ่ายของ นาย บิงลิน วู หรือ “Wu Binglin” ที่ปรากฏในพิธีลงนามสัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่น
วันนี้ (22 ก.ค.2565) นายฉลวย กรรเจี่ยรจร อายุ 64 ปี ถูกตำรวจ สภ.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ล้อมจับไว้ได้ ขณะพยายามหลบหนี หลังใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปในบ้านเลขที่ 116/1 หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หน
ภาพถ่ายของ นาย บิงลิน วู หรือ “Wu Binglin” ที่ปรากฏในพิธีลงนามสัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) มูลค่า 2,136 ล้านบาท ระหว่างตัวแทนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กับกิจการร่วมค้าไอทีดี-ซีอาร์อีซี ก่อนการก่อสร้างจะเริ่มขึ้น ทำให้เกิดข้อกังขาในประเด็นความสัมพันธ์กลุ่มทุนจีน โดยเฉพาะบริษัท ไชน่า เรลเวย์ No.10 (ประเทศไทย) ว่า “บิงลิน วู” เข้าไปมีส่วนเกี่ยว ข้องมากน้อยเพียงใด แม้ยังไม่ปรากฏข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ No.10 (ประเทศไทย) ในฐานะผู้ก่ออาคาร สตง.ที่ถล่มมีความเชื่อมโยงกับ หลายบริษัทในประเทศไทยที่เขาเป็นประธานกรรมการหรือไม่ แต่ประเด็นนี้ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ได้ตัดทิ้งเสียเดียว หลังจากมีการตรวจสอบพบว่า นายชวนหลิง จาง “Chuanling Zhang” สัญชาติจีน กรรมการผู้ถือหุ้น 49 % ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ No.10 (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนรัฐวิสาหกิจจีนที่ถูกส่งเข้ามาบริหารงานจริง ไม่เพียงเท่านี้ แต่ในพิธีลงนามสัญญาก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ในปี 2560 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพฯ -หนองคาย (ระยะที่1 ช่วง กทม.-นครราชสีมา) สัญญาที่ 3-1 งานโยธาสำหรับช่วงแก่งคอย-กลางดงและช่วงปางอโศก -บันไดม้า นายบิงลิน วู “Wu Binglin” มีชื่อภาษาไทย “ชาญชัย รุ่งโรจน์ธนเจริญ” และได้ใช้ชื่อดังกล่าวในการทำธุรกิจหลายบริษัท แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ตรวจสอบกับสำนักงานทะเบียนราษฎร์ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เมื่อเร็วๆ นี้ กลับไม่พบรายชื่อดังกล่าวอยู่ในสารบบ ทำให้เกิดคำถามอีกเช่นกันว่า เหตุใด “บิงลิน วู” จึงสามารถใช้ชื่อ “ชาญชัย” ในการดำเนินกิจการต่าง ๆ ในประเทศไทยได้ง่ายดาย ประเดิม 11 ตำแหน่งก่อนเข้าสู่วงโคจรทำธุรกิจในไทย “บิงลิน วู” ( Wu Binglin ) นั่งในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารสหพันธ์แห่งเอเชียเพื่อส่งเสริมการรวมประเทศจีนอย่างสันติแห่งเอเชีย หรือสมาพันธ์ร่วมชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว ,นายกสมาคมจีนเตี้ยอันแห่งประเทศไทย, รองประธานสมาคมชาวแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย, รองประธานสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมไทย, ผู้อำนวยการหอการค้าไทย-จีน , ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจไทย-จีน ยุคใหม่, รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศสมาคมธุรกิจไทยรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ สมาคมธุรกิจไทยรุ่นใหม่, ประธานกรรมการบริหารบริษัท วีล มาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด, ประธานกรรมการบริษัทเอวาน่า อินเตอร์เนชั่นเนลจำกัด และประธานกรรมการบริษัทสันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต จำกัด สำหรับฐานการทำธุรกิจในประเทศไทยของนายชาญชัย หรือ “Wu Binglin” แบ่งเป็น 3 ช่วง เริ่มต้นตั้งแต่ ปี 2552- 2559 (ตามแผนภาพ) ของกลุ่มทุนเครือข่ายไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 รวมทุนจดทะเบียน 114.8 ล้านบาท มีจำนวน 6 บริษัท ประกอบด้วย บจก.สันติภาพ อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต , บจก. สันติภาพ การขนส่งไทย-จีน , บจก.ยูไนเต็ด สตาร์กรุ๊ป , บจก.วีล มาร์ท (ประเทศไทย), บจก.สันติภาพ พร้อพเพอร์ตี้ และ บจก.ไฮหาน ในทั้ง 6 บริษัทมีประเด็นที่น่าสนใจ คือ ผู้ถือหุ้นใหญ่ (มีรายชื่อนอมินีชาวไทย 3 คน คือ นายโสภณ มีชัย ,นายประจวบ ศิริเขตร และ นายมานัส ศรีอนันท์) อยู่บริษัทในเครือของนายบิงลิน วู หรือนายชาญชัย กลุ่มทุนสัญชาติจีน ที่ชื่อว่า บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจีเนียริ่งกรุเว็บ เกม สล็อต 918kissบา คา ร่า ออนไลน์ ฟรี เครดิต ฝาก ขั้น ต่ํา 100slotxo โหลด แอ ป๊ป จำกัด และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ประเทศไทย อีกทอดหนึ่ง ส่วนฐานธุรกิจช่วงที่ 2 ระหว่างปี 2560 พบข้อมูลกลุ่มทุนเครือข่ายไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ทุนจดทะเบียน 39 ล้านบาท มี 4 บริษัท ประกอบด้วย บจก.บี เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) บจก.โชคนิมิต บิสซิเนส แอนด์ เซอร์วิส บจก.เอสทีพี อิมปอร์ต-เอ็กปอร์ต (ประเทศไทย) และ บจก.เอวานา อินเตอร์เนชั่นแนล (ตามแผนภาพ) และฐานธุรกิจช่วงที่ 3 ระหว่างปี 2564-2567 กลุ่มทุนเครือข่ายไชน่า เรล เวย์ นัมเบอร์ 10 ทุนจดทะเบียน 7 ล้านบาท คือ บจก.เอที แคปปิตอล โซลูชั่น ,บริษัทสแตร์ ลาเบล อินเตอร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) บริษัท สยาม ไบโอเมดิคอล ไซเอนซ์ ,บจก.ไซเบอร์ เทเลคอม และ บจก.โมเยนเน่ (ประเทศไทย) หากพิจารณาความเชื่อมโยงของเครือข่ายดังกล่าว ทั้ง 3 ช่วงจะเห็นว่า ช่วงแรกพบว่า มีชื่อของนายบิงลิน วู “Wu Binglin” นายอิทธิพัฒน์ วรดำรงเกียรติ และชาวจีน 2 คน คือ Mr.Zhan Ronghan และ Mr.Chang Chea kun ส่วนช่วงที่ 2 มีชื่อของ Mr.Yan Tao สัญชาติจีน และนายปิยะเดช วงศ์จันทร์ศิลป์ อยู่ใน 4 บริษัทดังกล่าว และชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ 4 บริษัท ช่วงที่ 3 คือ นายสามารถ มีชัย น.ส.วนิชชาเหล่าสำเนียง และ Mr.Chwi Choengtwe สัญชาติจีน, น.ส.สิริกัญญา เหว่าสำเนียง, นายอธิพันธ์ มีชัย และสาวจีนอีก 2 คน คือ Mrs.Cueney Huang และ Miss Chunhua Lou ข้อมูลจากทั้งหมด 15 บริษัท มี 9 บริษัท ใช้ที่ตั้งเดียวกัน และอยู่ในอาคารเดียวกัน พบรายชื่อผู้ถือหุ้นร่วมกันหลายราย ทั้งนายโสภณ นายมานัส และ Wu Bingin มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า ทั้งหมด อาจเป็นเครือข่ายทุนจีนแฝงตัว โดยใช้วิธีการจดทะเบียนบริษัทให้ถูกต้องตามกฎหมายไทย แต่การกำกับดูแลธุรกิจเป็นของชาวจีน นอกจากนี้ มีประเด็นที่น่าสังเกตว่า โครงสร้างฐานธุรกิจทั้ง 3 ช่วง ภายใต้เครือข่ายกลุ่มทุนของ ChainaRailway No. 10 จะมีตัวละครสำคัญที่เคยปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 3 ราย คือ นายโสภณ ,นายมานัส และนายประจวบ ในบริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) ซึ่งอยู่ภายใต้ China Railway No.10 Engineering Group Co,Ltd โดยทั้งหมดถูกดีเอสไอ ตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นนอมินี ตาม พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการตั้งข้อหา 3 นอมินีชาวไทย แต่การสอบสวนเพื่อหา ความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจร่วมกันระหว่าง บริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ นายชวน หลินจาง และนายชาญชัย หรือ Wu Binglin และ วู หลงเฉวียน (ลูกชาย) เพื่อหาจุดเชื่อม หรือ “ข้อต่อ” เค้าลางที่พบนอกเหนือจากการร่วมเฟรมกับอดีต รมช.คมนาคม เมื่อครั้งกระทรวงคมนาคม ได้มีการทำสัญญาก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ( ทั้งหมด 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ปากช่อง และ นครราชสีมา ระยะทางรวม 250.77 กิโลเมตร อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2560 ) โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ ปี 2572 โดยประกอบด้วย 15 สัญญา (งานโยธา 14 สัญญา และงานระบบ 1 สัญญา) ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 1 สัญญา อยู่ระหว่างก่อสร้าง 10 สัญญา และรอการลงนาม 3 สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ มีการนำขบวนรถรุ่น Fuxing Hao (ฟู่ซิงห้าว) CR300AF ที่ผลิตโดยบริษัทไชน่า เรลเวย์ คอนสตรัคชัน คอร์ปอเรชัน (CRCC) มาใช้วิ่งให้บริการด้วย ส่วนความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ของ นายบิงลิน วู “ Wu Binglin” หรือชาญชัย ที่พบคือ ข้อมูลจากภาพถ่ายการลงนามข้อตกลง ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระ หว่าง นายซ่ง เจี้ยนหรง ประธานบริษัท Shanxi Hengtai Jianye Group และนายบิงลิน วู หรือ ชาญชัย ประธานบริษัทสันติภาพ อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ตจำกัด โดยระบุว่าบริษัท Shanxi Hengtai Jianye Group จะลงทุน 100 ล้านหยวน เพื่อสร้างฐานการผลิตเชิงพาณิชย์ 2 แห่ง ซึ่งมีผลผลิตต่อปี 1 ล้านลูกบาศก์เมตร ในประเทศไทย และบริษัทสันติภาพ ฯ จะลงทุน 25 ล้านหยวน เพื่อจัดหาที่ดินและเงินทุนดำเนินการสำหรับฐานการผลิตคอนกรีตเชิงพาณิชย์ หมายเหตุ: สำหรับรายชื่อบุคคลที่ปรากฏมี 4 คน คือ นายชวนหลิน จาง นายโสภณ นายมานัส และนายประจวบ ดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหา และทุกคนได้รับการประกันตัวไปแล้ว แต่ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา ให้สันนิษฐานว่า ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนคนอื่น ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอยังอยู่ระหว่างการสืบสวนและขยายผล ยังไม่ได้มีการตั้งข้อกล่าวหาและกล่าวโทษผู้ใดเพิ่มเติมจึงยังเป็นผู้บริสุทธิ์เช่นเดียวกัน อ่านข่าว: "ตึกสตง.ถล่ม-ศรัทธาพัง" คำถามที่ไร้คำตอบ 1 เดือน ใครรับผิด ? มือเจาะพื้นที่เลือกตั้งซ่อม “กล้าธรรม” สร้างซุ้มใหม่(ใหญ่)การเมือง ศึกหนักรัฐบาล “ตัดงบ3.5 หมื่นล้าน” ผิดรธน.144 รีเซ็ตครม.ยกชุด
วันนี้ (6 ก.ค.2565) จากกรณีเกษตรกรโพสต์ภาพ และข้อความในการลดต้นทุนปลูกข้าว โดยนำน้ำยาล้างห้องน้ำมาใช้แทนสารกำจัดศัตรูพืช เรื่องดังกล่าวเพจดัง "หมอแล็บแพนด้า" ของ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย