Home
|
puss 888

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2567 เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเ

puss 888

วันนี้ (2 พ.ค.2568) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ขอให้

วันนี้ (1 มิ.ย.2566) พนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีพิเศษ นัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำสำนวนคดีพิเศษที่เห็นสมควรสั่งฟ้อง นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริ

นายชลวิทย์ ทองเจริญชัยกิจ นักวิชาการ 6 สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) บอกกับไทยพีบีเอสออนไลนpuss 888์ พร้อมเฉลยว่า โครงกระดูกที่เห็นด้านหลังคือ "แม่จ๊ะเอ๋" 1 ในวาฬบรูด้า 61 ตัวในอ่าวไทยรูปตัว ก.ที่มีการสำรวจ และตั้งชื่อตามตำหนิและอัตลักษณ์ของวาฬแต่ละตัว แต่น่าเสียดายว่าวันนี้ "แม่จ๊ะเอ๋" วัย 10 ปี เหลือเพียงชิ้นส่วนโครงกระดูกที่ถูกนำมาจัดแสดงให้เด็กๆและประชาชนได้เรียนรู้ นายชลวิทย์ บอกว่า  ช่วงแรกทีมวิจัย ทช.สำรวจเจอวาฬบรูด้าที่มึตำหนิแผลเป็นรูปตัววี บริเวณครีบหลังค่อนข้างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงปี 53 แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นตัวผู้ หรือตัวเมีย เลยเรียกว่า "เจ้าจ๊ะเอ๋" กระทั่งในการสำรวจอีกครั้งกลับพบว่าวาฬตัวนี้มีลูก 2 ตัวว่ายอยู่ข้างกันๆในทะเลอ่าวไทย ซึ่งพฤติกรรมของวาฬตัวเมียที่จะทำหน้าที่ดูแลลูก จึงปรับเรียกว่าแม่จ๊ะเอ๋ ทั้งนี้ แม้ว่าในไทยมีการจัดแสดงวาฬบรูด้าเก่าแก่ที่สุดอยู่ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช อายุ 100 ปี แต่ชิ้นส่วนวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ถึง 11 เมตร และมีชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดที่ทีมวิจัย อพวช.ทำขึ้นโดยใช้เวลานานกว่า 1 ปีตั้งแต่แม่จ๊ะเอ๋ตายจนกระทั่งขึ้นโครงสำเร็จในเดือนพ.ย.64 ยังไม่เคยมีมาก่อน หากถามถึงความยากง่ายในการวิจัยโครงการกระดูกวาฬบรูด้า นักวิจัยบอกว่า ชิ้นส่วนที่มีอยู่ 126 ชิ้น ของแม่จ๊ะเอ๋ ไม่ได้นำมาจัดแสดงทั้งหมด เพราะบางชิ้น เช่น เชิงกรานมดลูกที่ฝังในกล้ามเนื้อ กระดูกโคนลิ้น กระดูกหน้าอก และที่เป็นครีบคู่หน้าจะจัดแสดงต่างหาก เนื่องจากกระดูกทุกชิ้นมีสภาพสมบูรณ์ จึงไม่ใช้การเจาะชิ้นกระดูกให้จนเกิดความเสียหาย แต่ป็นการเข้าโครงแล้วแขวนจัดแสดง ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. น.ส.ฐิติมา ภู่มาก นักวิชาการด้านสัตว์สตัฟท์ อพวช.เล่าถึงขั้นตอนการเก็บและทำโครงแม่จะเอ๋  ตั้งแต่วันแรก หลังได้รับประสานจาก ทช.และพาน้องๆจากมหาวิทยาลัยต่างที่มาฝึกงานที่อพวช.เพื่อไปทำงานกับสัตวแพทย์ ทช.ในการผ่าซากแม่จ๊ะเอ๋ วันแรกที่ได้ซากมา จะหั่นเป็นท่อน แยกเป็นส่วนหัว ซี่โครง กระดูกสันหลัง 2 คนแบกหามหัวท้าย และชิ้นที่หนักที่สุดคือส่วนหัวกระดูกต้องใช้ผู้ชาย 4 คนหาม ใส่รถบรรทุกกลับมาที่ อพวช.จากนั้นเลาะเนื้อออก และต้มทีละชิ้นส่วน โดยจะหั่นกระดูกออกทีละชิ้นทยอยต้มไป ใช้เวลาหลายเดือนค่อยๆทยอยทำเรื่อยๆ ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. เธอบอกว่า ตอนที่ทำงานเสื้อผ้ากลิ่นติดตัวมาก เพราะไขมันวาฬ ไม่ใช่น้ำมัน แต่เป็นแวกซ์ที่ฝังเข้าไปติดเสื้อผ้า กลิ่นฝังในผิว ติดทนนานมาก อาบน้ำหลายรอบกว่าจะหาย เสื้อผ้ากว่าจะซักหาย โดยใช้ทีมงานมากเกือบ 50 คน ตั้งแต่วันแรกที่ไปเลาะซาก และทำโครงแม่จ๊ะเอ๋ ใช้เวลาเกือบ  1 ปีจนได้เป็นโครงการกระดูกที่เห็น ฐิติมา ยอมรับว่า ถึงแม้จะได้สัมผัสทุกชิ้นส่วนเป็นการนำความรู้เผยแพร่ และส่งต่อความรู้ต่อคนรุ่นต่อไปแต่ยอมรับว่าตัวเอง ก็ยังไม่เคยเห็นวาฬบรูด้าตัวเป็นๆ เคยเห็นแต่โครงกระดูกที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และที่แสมสาร จ.ชลบุรี นายชลวิทย์ บอกว่า ข้อค้นพบของงานวิจัยที่ทำหน้าที่นิติเวช สืบจากกระดูกของแม่จ๊ะเอ๋ คือทีมสัตวแพทย์มีการผ่าพิสูจน์มา พบว่าแม่จ๊ะเอ๋ มีการบาดเจ็บบริเวณกระโหลกศรีษะ ซึ่งเป็นเหตุผลให้บริเวณจะงอยปากบนหลุดและหักหายไป ขณะเดียวกันยังพบอีกว่าซี่โครงซี่ที่ 2 ข้างขวา ก็มีการหักบ่งชี้ว่าแม่จ๊ะเอ๋ มีการบาดเจ็บมาก่อน นอกจากนี้ในชิ้นที่ 10 ของซี่โครงส่วนอก พบรอยขีดอยู่บ่งชี้ว่าเคยบาดเจ็บในอดีตมาก่อน จนทำให้เงี่ยงจุดนี้เกิดอาการหัก แต่แผลสมาน และรักษตัวเองได้และทิ้งไว้เพียงแผลเป็นเท่านั้น ส่วนสาเหตุการตายจริง ๆ อาจจะเกินจากการอ่อนแอ อ่อนแรงควบคู่ไปกับการตกเลือด ขณะนั้นแพทย์ได้ชันสูตร พบว่าแม่จ๊ะเอ๋ มีก้อนเลือดบริเวณช่องอก และช่องท้อง การผ่ากระเพาะอาหารก็ไม่พบเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ ที่ลำไส้ก็ไม่มีมูลหลงเหลืออยู่เลย หมายความว่าอาจจะอ่อนแรงและไม่สามารถกินอาหารได้อย่างปกติ นายชลวิทย์ บอกว่า วาฬบรูด้า เพิ่งขึ้นบัญชีสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 16 ในแต่ละปีมีสัตว์ทะเลหายากตายลง ทั้งจากเจ็บป่วย เช่น แม่จ๊ะเอ๋ แต่บางตัวก็ตายจากเครื่องมือประมง ดังนั้นวิธีการที่จะลดความสูญเสียคือต้องกลับมาให้ความสำคัญ หรือใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับสิ่ง ที่ฐิติมา อยากฝากก็คือต้องการให้โครงวาฬแม่จ๊ะเอ๋ เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวนี้ไปยังเด็กรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้สิ่งมีชีวิตที่อยูในทะเล ในป่า ได้ปลูกฝังเรียนรู้ เรื่องเล่าจากโครงกระดูกให้อยู่ร่วมกันได้ สำหรับโครงกระดูกแม่จ๊เอ๋ จะจัดแสดงในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ปี 64 ที่เมืองทองธานีถึงวันที่ 19 พ.ย.นี้ จากนั้นจะมีการเคลื่อนย้ายไปดูแลที่อพวช. อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ครั้งแรก! "วาฬบรูด้าแม่จ๊ะเอ๋" โชว์งานวิทยาศาสตร์ 9-19 พ.ย.

นายชลวิทย์ ทองเจริญชัยกิจ นักวิชาการ 6 สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาส

วันนี้ (28 มี.ค.2568) เวลาประมาณ  13.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร​ นายกรัฐม

วันนี้ (21 ม.ค.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หน่วยงานที่ติดตามสถานการณ์ของเชื้อดื้อยาใน 204 ปร

นายชลวิทย์ ทองเจริญชัยกิจ นักวิชาการ 6 สำนักวิชาการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) บอกกับไทยพีบีเอสออนไลนpuss 888์ พร้อมเฉลยว่า โครงกระดูกที่เห็นด้านหลังคือ "แม่จ๊ะเอ๋" 1 ในวาฬบรูด้า 61 ตัวในอ่าวไทยรูปตัว ก.ที่มีการสำรวจ และตั้งชื่อตามตำหนิและอัตลักษณ์ของวาฬแต่ละตัว แต่น่าเสียดายว่าวันนี้ "แม่จ๊ะเอ๋" วัย 10 ปี เหลือเพียงชิ้นส่วนโครงกระดูกที่ถูกนำมาจัดแสดงให้เด็กๆและประชาชนได้เรียนรู้ นายชลวิทย์ บอกว่า  ช่วงแรกทีมวิจัย ทช.สำรวจเจอวาฬบรูด้าที่มึตำหนิแผลเป็นรูปตัววี บริเวณครีบหลังค่อนข้างชัดเจนมาตั้งแต่ช่วงปี 53 แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นตัวผู้ หรือตัวเมีย เลยเรียกว่า "เจ้าจ๊ะเอ๋" กระทั่งในการสำรวจอีกครั้งกลับพบว่าวาฬตัวนี้มีลูก 2 ตัวว่ายอยู่ข้างกันๆในทะเลอ่าวไทย ซึ่งพฤติกรรมของวาฬตัวเมียที่จะทำหน้าที่ดูแลลูก จึงปรับเรียกว่าแม่จ๊ะเอ๋ ทั้งนี้ แม้ว่าในไทยมีการจัดแสดงวาฬบรูด้าเก่าแก่ที่สุดอยู่ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช อายุ 100 ปี แต่ชิ้นส่วนวาฬบรูด้าขนาดใหญ่ถึง 11 เมตร และมีชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดที่ทีมวิจัย อพวช.ทำขึ้นโดยใช้เวลานานกว่า 1 ปีตั้งแต่แม่จ๊ะเอ๋ตายจนกระทั่งขึ้นโครงสำเร็จในเดือนพ.ย.64 ยังไม่เคยมีมาก่อน หากถามถึงความยากง่ายในการวิจัยโครงการกระดูกวาฬบรูด้า นักวิจัยบอกว่า ชิ้นส่วนที่มีอยู่ 126 ชิ้น ของแม่จ๊ะเอ๋ ไม่ได้นำมาจัดแสดงทั้งหมด เพราะบางชิ้น เช่น เชิงกรานมดลูกที่ฝังในกล้ามเนื้อ กระดูกโคนลิ้น กระดูกหน้าอก และที่เป็นครีบคู่หน้าจะจัดแสดงต่างหาก เนื่องจากกระดูกทุกชิ้นมีสภาพสมบูรณ์ จึงไม่ใช้การเจาะชิ้นกระดูกให้จนเกิดความเสียหาย แต่ป็นการเข้าโครงแล้วแขวนจัดแสดง ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. น.ส.ฐิติมา ภู่มาก นักวิชาการด้านสัตว์สตัฟท์ อพวช.เล่าถึงขั้นตอนการเก็บและทำโครงแม่จะเอ๋  ตั้งแต่วันแรก หลังได้รับประสานจาก ทช.และพาน้องๆจากมหาวิทยาลัยต่างที่มาฝึกงานที่อพวช.เพื่อไปทำงานกับสัตวแพทย์ ทช.ในการผ่าซากแม่จ๊ะเอ๋ วันแรกที่ได้ซากมา จะหั่นเป็นท่อน แยกเป็นส่วนหัว ซี่โครง กระดูกสันหลัง 2 คนแบกหามหัวท้าย และชิ้นที่หนักที่สุดคือส่วนหัวกระดูกต้องใช้ผู้ชาย 4 คนหาม ใส่รถบรรทุกกลับมาที่ อพวช.จากนั้นเลาะเนื้อออก และต้มทีละชิ้นส่วน โดยจะหั่นกระดูกออกทีละชิ้นทยอยต้มไป ใช้เวลาหลายเดือนค่อยๆทยอยทำเรื่อยๆ ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. ภาพ:พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา อพวช. เธอบอกว่า ตอนที่ทำงานเสื้อผ้ากลิ่นติดตัวมาก เพราะไขมันวาฬ ไม่ใช่น้ำมัน แต่เป็นแวกซ์ที่ฝังเข้าไปติดเสื้อผ้า กลิ่นฝังในผิว ติดทนนานมาก อาบน้ำหลายรอบกว่าจะหาย เสื้อผ้ากว่าจะซักหาย โดยใช้ทีมงานมากเกือบ 50 คน ตั้งแต่วันแรกที่ไปเลาะซาก และทำโครงแม่จ๊ะเอ๋ ใช้เวลาเกือบ  1 ปีจนได้เป็นโครงการกระดูกที่เห็น ฐิติมา ยอมรับว่า ถึงแม้จะได้สัมผัสทุกชิ้นส่วนเป็นการนำความรู้เผยแพร่ และส่งต่อความรู้ต่อคนรุ่นต่อไปแต่ยอมรับว่าตัวเอง ก็ยังไม่เคยเห็นวาฬบรูด้าตัวเป็นๆ เคยเห็นแต่โครงกระดูกที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา และที่แสมสาร จ.ชลบุรี นายชลวิทย์ บอกว่า ข้อค้นพบของงานวิจัยที่ทำหน้าที่นิติเวช สืบจากกระดูกของแม่จ๊ะเอ๋ คือทีมสัตวแพทย์มีการผ่าพิสูจน์มา พบว่าแม่จ๊ะเอ๋ มีการบาดเจ็บบริเวณกระโหลกศรีษะ ซึ่งเป็นเหตุผลให้บริเวณจะงอยปากบนหลุดและหักหายไป ขณะเดียวกันยังพบอีกว่าซี่โครงซี่ที่ 2 ข้างขวา ก็มีการหักบ่งชี้ว่าแม่จ๊ะเอ๋ มีการบาดเจ็บมาก่อน นอกจากนี้ในชิ้นที่ 10 ของซี่โครงส่วนอก พบรอยขีดอยู่บ่งชี้ว่าเคยบาดเจ็บในอดีตมาก่อน จนทำให้เงี่ยงจุดนี้เกิดอาการหัก แต่แผลสมาน และรักษตัวเองได้และทิ้งไว้เพียงแผลเป็นเท่านั้น ส่วนสาเหตุการตายจริง ๆ อาจจะเกินจากการอ่อนแอ อ่อนแรงควบคู่ไปกับการตกเลือด ขณะนั้นแพทย์ได้ชันสูตร พบว่าแม่จ๊ะเอ๋ มีก้อนเลือดบริเวณช่องอก และช่องท้อง การผ่ากระเพาะอาหารก็ไม่พบเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ ที่ลำไส้ก็ไม่มีมูลหลงเหลืออยู่เลย หมายความว่าอาจจะอ่อนแรงและไม่สามารถกินอาหารได้อย่างปกติ นายชลวิทย์ บอกว่า วาฬบรูด้า เพิ่งขึ้นบัญชีสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 16 ในแต่ละปีมีสัตว์ทะเลหายากตายลง ทั้งจากเจ็บป่วย เช่น แม่จ๊ะเอ๋ แต่บางตัวก็ตายจากเครื่องมือประมง ดังนั้นวิธีการที่จะลดความสูญเสียคือต้องกลับมาให้ความสำคัญ หรือใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น เช่นเดียวกับสิ่ง ที่ฐิติมา อยากฝากก็คือต้องการให้โครงวาฬแม่จ๊ะเอ๋ เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวของของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวนี้ไปยังเด็กรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้สิ่งมีชีวิตที่อยูในทะเล ในป่า ได้ปลูกฝังเรียนรู้ เรื่องเล่าจากโครงกระดูกให้อยู่ร่วมกันได้ สำหรับโครงกระดูกแม่จ๊เอ๋ จะจัดแสดงในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ปี 64 ที่เมืองทองธานีถึงวันที่ 19 พ.ย.นี้ จากนั้นจะมีการเคลื่อนย้ายไปดูแลที่อพวช. อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ครั้งแรก! "วาฬบรูด้าแม่จ๊ะเอ๋" โชว์งานวิทยาศาสตร์ 9-19 พ.ย.

วันนี้ (9 มิ.ย.2566) นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 เปิดเผยค