วันนี้ (3 ต.ค.2567) กรณีที่มีผู้พบศพนายไพฑูรย์ อายุ 36 ปี ถูกฆาตกรรม ทิ้งศพไว้ในคลองธรรม ชาติ บริเวณ

รมว.ยุติธรรมวางมาตรการแก้ปัญหายาเสพติดในเรือนจำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมประชุมผู้บัญชาการเรือนจำและเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์ เพื่อวางมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือนจำและนักโทษล้นห้องขัง พร้อมทั้งเปิดป

รมว.ยุติธรรมวางมาตรการแก้ปัญหายาเสพติดในเรือนจำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมประชุมผู้บัญชาการเรือนจำและเจ้าหน้ากรมราชทัณฑ์ เพื่อวางมาตรการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือนจำและนักโทษล้นห้องขัง พร้อมทั้งเปิดปฏิบัติการเชิงรุกตรวจค้นในเรือนจำทั่วประเทศ รมว.ยุติธรรมวางมาตรการแก้ปัญหายาเสฝาก 10 รับ 100 ทํา 200 ถอน ได้ 100พติดในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตรวจค้นเรือนจำทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศตามปฏิบัติการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันที่ 4 และวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพบของกลางกว่า 3,000 ชิ้น โดยแบ่งเป็นโทรศัพท์มือถือ 188 เครื่อง ซิมการ์ด 163 อัน ยาบ้า 937 เม็ด อุปกรณ์การพนัน และอุปกรณ์ที่ถูกดัดแปลงเป็นอาวุธจำนวนมาก ที่ประชุม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นย้ำมาตรการนำผู้เสพที่ต้องโทษในเรือนจำ เข้ารับการบำบัดและคืนสู่สังคม เพื่อแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำการตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติดในทุกอำเภอ ที่ตั้งเป้าบำบัดผู้เสพทั้งระบบบังคับบำบัดและระบบสมัครใจให้ได้ 4 แสนคน ภายใน 1 ปี ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทุก 3 เดือน จะมีการประเมิน และตั้งรางวัล การปฏิบัติงานของผู้บัญชาการเรือนจำทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศ ในการแก้ปัญหายาเสพติดในเรือนจำ ปัญหานักโทษล้นคุก และดูแลสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เน้นย้ำให้ผู้บัญชาการเรือนจำตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกนาย ต้องไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด และล่าสุดกำลังพิจารณาแยกการคุมขังนักโทษครอบครองยาเสพติด ออกจากนักโทษค้ายาเสพติด เพื่อป้องกันการผันตัวไปเป็นผู้ค้ายา เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ตรวจค้นเรือนจำทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศตามปฏิบัติการบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ในวันที่ 4 และวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพบของกลางกว่า 3,000 ชิ้น โดยแบ่งเป็นโทรศัพท์มือถือ 188 เครื่อง ซิมการ์ด 163 อัน ยาบ้า 937 เม็ด อุปกรณ์การพนัน และอุปกรณ์ที่ถูกดัดแปลงเป็นอาวุธจำนวนมาก ที่ประชุม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นย้ำมาตรการนำผู้เสพที่ต้องโทษในเรือนจำ เข้ารับการบำบัดและคืนสู่สังคม เพื่อแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำการตั้งศูนย์บำบัดยาเสพติดในทุกอำเภอ ที่ตั้งเป้าบำบัดผู้เสพทั้งระบบบังคับบำบัดและระบบสมัครใจให้ได้ 4 แสนคน ภายใน 1 ปี ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทุก 3 เดือน จะมีการประเมิน และตั้งรางวัล การปฏิบัติงานของผู้บัญชาการเรือนจำทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศ ในการแก้ปัญหายาเสพติดในเรือนจำ ปัญหานักโทษล้นคุก และดูแลสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เน้นย้ำให้ผู้บัญชาการเรือนจำตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทุกนาย ต้องไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด และล่าสุดกำลังพิจารณาแยกการคุมขังนักโทษครอบครองยาเสพติด ออกจากนักโทษค้ายาเสพติด เพื่อป้องกันการผันตัวไปเป็นผู้ค้ายา เมื่อพ้นโทษออกมาแล้ว

วันนี้ (2 พ.ค.2568) เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ทดสอบการส่งการแจ้งเตือนภัยด้วยระบบ Cell Broadcast ในระดับเล็ก ซึ่งเป็นระดับในอาคาร โดยได้ส่งสัญญาณไปใน 5 พื้นที่ คือ ศาลากลางจังหวัดเชียงรา