วันนี้ (11 เม.ย.2567) วันสุดท้ายในการทำงานของหลายคน ก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 เริ่มเห็นความ

วันนี้ (4 พ.ค.2568) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า รับรายงานกรณีน้ำท่วมแม่สาย ซึ่งเป็นน้ำที่ทะลักจากเมียนมาลงสู่แม่สายบริเวณใกล้วัดพรหมวิหาร ขณะนี้ได้สั่งการให้นายอนุทิน

ระดับ สส.และอดีต สส. เคยเป็นพันธมิตรและอยู่พรรคเดียวกัน อย่าง “หมอสงค์” นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรี นายไพจิต ศรีวรขาน สส.อาวุโส ที่เคยคั่วรัฐมนตรีมาแล้ว และ “ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต “สหายแสง” ตั้งแต่ พรรคความหวังใหม่ ต่อด้วยพรรคไทยรักไทย และพลังประชาชน ครั้งนี้กระจายไปคนละทิศละทาง หมอสงค์ วัย 88 ปี ลงชิงนายก อบจ.เสียเอง ในนามอิสระ ขณะที่นายศุภชัยที่โบกมือลาไปอยู่ค่ายสีน้ำเงิน ตั้งแต่พรรคพลังประชาชนถูกยุบ จนได้เป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ และรองประธานสภาผู้แทนฯ ครั้งนี้ต้องออกแรงหนักตามลำพัง เพื่อรักษาเก้าอี้นายก อบจ.ของลูกสาว ศุภพานี โพธิ์สุ “แชมป์เก่า” ครั้งที่แล้ว ไม่จางจากนักการเมืองระดับท้องถิ่น อดีตรองประธานสภา อบจ.สมัยที่แล้ว และเป็นขุนพลคนสำคัญของ “แชมป์เก่า” ครั้งนี้เปลี่ยนข้างไปหนุนนายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายกฯ ค่ายสีแดง ขณะที่อดีตนายก อบจ.ชุดก่อนโน้น ที่เคยแพ้ให้กับ “ลูกสาวสหายแสง” กลับหันมาหนุน “แชมป์เก่า” หลังจากมีชื่อภรรยาของตน ไปเป็นหนึ่งในทีมบริหารของศุภพานี แต่ที่หนักกว่านั้น “แชมป์เก่า” ค่ายสีน้ำเงิน ครั้งนี้ต้องตกเป็นเป้าถล่มหนักจากพรรคเพื่อไทย ราวกับหวังถอนแค้นเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก เพราะถึงขณะนี้ มี 3 นางพญาแล้ว ที่ลงมาช่วยหาเสียงให้นายอนุชิต ตั้งแต่ “รัฐมนตรีน้ำ” น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีพลังหญิง และมักจะติดตามนายกฯลงพื้นที่เสมอๆ ครั้งนี้ไปช่วยลุยพื้นที่ ตั้งแต่ก่อนจะเปิดรับสมัครนายก อบจ.เสียอีก รัฐมนตรีพลังหญเว็บ พนัน ออนไลน์ แจก เครดิต ฟรีufabet ฝาก 50 รับ 150ิงอีกคน คือ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ที่ได้รับมอบหมายจากพรรคเพื่อไทย ให้คุมศึกเลือกตั้งอบจ.ใน 3-4 จังหวัดอีสานตอนบน รวมทั้ง จ.นครพนม โดยมีบุคคลสำคัญในพรรคอย่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม คอยให้การสนับสนุนเต็มที่ ว่ากันว่า ครั้งหน้าอาจหวังถึงขั้นเลื่อนชั้นจากรัฐมนตรีช่วย ไปเป็นรัฐมนตรีกว่าการก็เป็นได้ ล่าสุด ถึงคิวนางพญาคนที่ 3 นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เลือกนครพนมเป็นจังหวัดแรก ของการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ลูกพรรค ในสนามเลือกตั้งระดับท้องถิ่น วันเดียว 3 เวทีรวด และพยายามเอาชนะใจชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยการพูดภาษาอีสาน เรียกเสียงฮือฮา “ถอดแบบ” จากนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพ่อ ตอนหาเสียงช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ที่เชียงราย ทั้ง “อู้กำเมือง” และภาษาชาติพันธุ์ ทำตัวกลมกลืนแบบเนียน ๆ ลำพังเจอ 3 นางพญาเหยียบเมือง “สหายแสง” ก็บ่นอุบ ยอมรับว่า เป็นศึกใหญ่สำหรับตนและลูกสาวมากพออยู่แล้ว แต่ยังมีคิว “พ่อใหญ่” นายทักษิณ ที่วางคิวปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 18 มกราคม วันเสาร์หน้า ทำเอาพลิกตำรารับมือไม่ทัน และสะท้อนว่า พรรคค่ายสีแดงเอาจริง หวังปักธงเต็มเหนี่ยวสำหรับ จ.นครพนม มองซ้ายมองขวาก็หา “ตัวช่วย” ระดับผู้ใหญ่หรือหัวหน้าพรรคมาเจอ เพราะเผลอประกาศวางตัวเป็นกลางไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว หากพลิกกลับมาเอาชนะได้ “คนบ้านใหญ่” ระดับประเทศ คงต้องสรรหารางวัลที่คู่ควรยกให้ “สหายแสง” อย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะขนาด 3 นางพญากับอีก 1 “พ่อใหญ่” ยังเอาไม่ลง วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส อ่านข่าว : ห่วงกระสุนหมด! บิ๊กเอกชน เสนอรัฐฟื้น “คนละครึ่ง” กระตุ้นกำลังซื้อ ตร.เร่งหาข้อมูลผู้มีพระคุณ สั่งการ "จ่าเอ็ม" ยิงอดีต สส.กัมพูชา เรียกร้อง CPF รับผิดชอบปลาหมอคางดำระบาด

ระดับ สส.และอดีต สส. เคยเป็นพันธมิตรและอยู่พรรคเดียวกัน อย่าง “หมอสงค์” นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีตรัฐมนตรี นายไพจิต ศรีวรขาน สส.อาวุโส ที่เคยคั่วรัฐมนตรีมาแล้ว และ “ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต “สหา