วันนี้ (13 ก.พ.2567) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ
ภาพเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองนักเรียน นำลูกชายส่งโรงพยาบาลด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังอาเจียนเป็นเลือด จนต้องพักรักษาที่โรงพยาบาล โดยขณะนี้แพทย์ได้ให้น้ำเกลือก่อนจะล้างสารพิษออกจากร่างกาย แม่ของเด็ก เล่าว่า
ภาพเหตุการณ์ที่ผู้ปกครองนักเรียน นำลูกชายส่งโรงพยาบาลด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หลังอาเจียนเป็นเลือด จนต้องพักรักษาที่โรงพยาบาล โดยขณะนี้แพทย์ได้ให้น้ำเกลือก่อนจะล้างสารพิษออกจากร่างกาย แม่ของเด็ก เล่าว่า เห็นพฤติกรรมลูกชายซื้อน้ำใบกระท่อมมาดื่มเป็นประจำ แต่ไม่รู้ว่าซื้อมาจากไหน จึงได้ลงโทษลูก เธอบอกว่า หลังลูกดื่มน้ำใบกระท่อมเป็นประจำ ก็มีอาการสั่น ซึม และพัฒนาการทางสมองล่าช้า จากเคยเล่นjoker loginกีฬาเป็นประจำ ก็เล่นไม่ได้ เพราะเหนื่อยง่าย ขณะที่แพทย์โรงพยาบาลด่านขุนทด ให้ข้อมูลว่า เด็กที่เข้ารักษาตัวจากผลข้างเคียงของการดื่มน้ำใบกระท่อม ถือเป็นรายที่ 2 ที่เข้ารับการรักษา ก่อนหน้านี้เป็นเยาวชนชายอายุ 17 ปี แต่มีอาการรุนแรงมากกว่านี้ สำหรับผลข้างเคียงที่เกิดจากการดื่มน้ำใบกระท่อม จะมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ สมองเบลอ ไม่มีสมาธิ และอาการรุนแรงสุดก็คือ อาเจียนเป็นเลือด วิธีรักษาคือล้างสารพิษของใบกระท่อมออกจากร่างกาย สำหรับสารเสพติดที่พบในใบกระท่อม คือ ไมทราไจนีน (Mitragynine) เป็นสารจำพวกอัลคาลอยด์ ออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง (CNS depressant) เช่นเดียวกับยาเสพติดกลุ่มเดียวกัน เช่น psilocybin LSD และยาบ้า ก่อนหน้านี้ นพ.จักราวุธ เผือกคง ผอ.สถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ ถึงการใช้ "ใบกระท่อม" ว่า อาการข้างเคียงหลังการใช้อาจจะมีอาการมึน งง เมา และเวียนหัว หากใช้ในปริมาณมากจะเกิดอาการ "เมา" คือ รู้สึกกล้ามเนื้อสั่น ตัวสั่น และหากใช้มากเกินไปจะมีอาการคลื่นไส้ เวียนหัว ความดันลดลง หน้ามืด ซึ่งหากมีอาการแบบนี้ให้หยุดใช้ทันที แล้วดื่มน้ำเปล่าตามมาก ๆ และดื่มน้ำหวานเสริมเข้าไป ใบกระท่อมหากใช้ในระยะเวลานานและมากขึ้นจะทำให้ติดได้ หากไม่ได้ใช้จะมีอาการหงุดหงิด ปวดเมื่อย กระวนกระวาย ซึ่งร่างกายแต่ละคนจะมีอาการทนต่อสารในใบกระท่อมได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับร่างกายและความเคยชิน หากใช้ได้พอดี ใช้เฉพาะเวลามีอาการ จะดีและไม่ติด อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เคี้ยว "ใบกระท่อม" ไม่ดีด-แค่เมา
หลังจากราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้นายทหารรับราชการ ประจำปี 2566 ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม จำนวน 761 รายชื่อ หนึ่งในนั้นคือตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" หรือ ผบ.ท