Home
|
slotxo 199

วันนี้ (2 มิ.ย.2566) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม.

slotxo 199

วันนี้ (1 พ.ค.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ร่วมกับตำรวจ เข้าจับกุมรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ขณะเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะจากผู้ปกครอง 10,000 บาท เพื่อรับย้าย

รมช.พาณิชย์ยันไม่กดดัน ผอ.อคส.ลาออก “ภูมิ” รมช.พาณิชย์ยืนยันว่าไม่ได้กดดันให้ ผอ.อคส. ลาออก แต่เป็นเพราะเพื่อความเหมาะสมในการทำงานในโครงการรับจำนำข้าว ขณะเดียวกันเตรียมออกมาตรการเข้มงวดป้องกันการทุจริ

ย้อนอดีตดาราดัง “ชอยอินฮี” และผู้กำกับ “ชินซังโอก” คู่สามีภรรยาถูกลักพาตัวโดยผู้นำเกาหลีเหนือ วันนี้ (25 มิ.ย. 58) ถือเป็นวาระครบรอบ 65 ปีการอุบัติของสงครามเกาหลี ซึ่งหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่ “ชอยอินฮี” นักแสดงเกาหลีใต้ ที่ถูกลักพาตัวโดยทางการเกาหลีเหนือถึง 2 ครั้ง โดยจุดประสงค์เพื่อเป็นการพัฒนาวงการภาพยนตร์ของเกาหลีเหนือ ตามความต้องการของผู้นำโสมแดง ย้อนอดีตดาราดัง “ชอยอินฮี” และผู้กำกับ “ชินซังโอก” คู่สามีภรรยาถูกลักพาตัวโดยผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากได้รับการติดต่อให้มาร่วมงานในโปรเจ็คท์หนังใหญ่ที่ฮ่องกง ชอยอินฮี นางเอกค้างฟ้าของเกาหลีใต้ก็เดินทางมาติดต่องานเพียงลำพัง โดยไม่รู้เลยว่านี่คือครั้งสุดท้ายในรอบหลายปีที่จะได้กลับไปเยือนบ้านเกิดในเกาหลีใต้ เมื่อเธอถูกคนของทางการเกาหลีเหนือลักพาตัว ซึ่งการหายตัวไปของภรรยา ทำให้ ชินซังโอก ผู้กำกับในอีกฐานะคือสามี เดินทางมาตามหาตัวเธอถึงฮ่องกงก่อนถูกลักพาตัวไปเช่นกัน นี่คือชะตากรรมของ ชอยอินฮี นักแสดงคนดังของเกาหลีใต้ ที่กลับมารำลึกถึงชีวิตอันผกผันในหนังสืออัตชีวประวัติ The Extraordinary True Story of a Kidnapped Filmmaker ชอยอินฮี ถูกลักพาตัวโดยเกาหลีเหนือครั้งแรกในปี 1950 ในช่วงที่กองทัพโสมแดงเข้ามายึดกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยช่วงนั้นเธอต้องทำการแสดงสร้างความบันเทิงให้กับกองทัพเกาหลีเหนือในเวลากลางวัน และต้องเข้ารับการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเวลากลางคืน ก่อนที่เธอจะเป็นอิสระเมื่อกองทัพโสมแดงต้องล่าถอนเมื่อกองกำลังโสมขาวเข้ายึดที่มั่นได้สำเร็จ หลังจากกลายเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ ในอีก 28 ปีต่อมา ชอยอินฮีถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวอีกครั้ง ตามคำสั่งของ คิมยองอิล อดีตผู้นำโสมแดง ที่ต้องการให้เธอและชินซังโอก สามีช่วยพัฒนาวงการภาพยนตร์เกาหลีเหนือ โดยช่วงเวลาที่ถูกกักตัวถึง 8 ปี ชินซังโอก ได้ร่วมผลิตหนังกับคิมยองอิลถึง 8 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ Pulgasari หนังกอซซิลล่าที่ประสบความสำเร็จจากการฉายทั้งในเกาหลีเหนือและญี่ปุ่น ส่วน ชอยอินฮี ยังคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์มอสโคจกาเรื่อง salt เมื่อปี 1985 แม้ทั้งคู่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเกาหลีเหนือ แต่ทั้งสองก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหนี เมื่อทั้งสองได้รับอนุญาติจาก คิมยองอิล ให้ไปร่วslotxo 199มเทศกาลภาพยนตร์ที่ออสเตรีย คู่สามีภรรยาจึงใช้โอกาสดังกล่าวในการคิดแผนหลบหนี โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักข่าวชาวญี่ปุ่น ที่ช่วยหาแท็กซี่พาตัวทั้งสองไปส่งยังสถานทูตสหรัฐในกรุงเวียนนา ซึ่ง ชอยอินฮี รำลึกว่าทันทีที่เธอคนในสถานทูตชูป้าย welcome to the west เธอก็ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความยินดีต่ออิสรภาพที่รอคอยมานาน ชอยอินฮี ในวัย 88 ปี ซึ่งกำลังรักษาตัวด้วยโรคเกี่ยวกับไตในโรงพยาบาลกล่าวว่า วันนี้เธอให้อภัยการกระทำของผู้นำเกาหลีเหนือที่ทำการลักพาตัวเธอ เพราะเข้าใจแรงปรารถนาของคิมยองอิลในการพัฒนาวงการภาพยนตร์ในประเทศของเขา แต่เธอก็ยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการปกครองประเทศด้วยวิธีเผด็จการเช่นนั้น ซึ่งประสบการณ์ที่ต้องเปิดการแสดงรับใช้กองทัพทั้งสองฝ่ายในสมัยสงครามเกาหลีถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำพอๆ กัน และเธอหวังว่าความขัดแย้งที่แบ่งคนทั้งสองชาติเพราะอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันเช่นนั้น จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ดี ชอยอินฮี ยอมรับว่าในสมัยที่เกาหลีใต้ถูกปกครองภายโดยปาร์คชอนฮี มีการใช้มาตรการควบคุมสื่อภาพยนตร์อย่างสูง แต่เธอก็เข้าใจว่าเป็นแรงปราถนาของอดีตผู้นำที่ต้องการพัฒนาประเทศ ต่างจากนักการเมืองทุกวันนี้ที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก หลังจากได้รับการติดต่อให้มาร่วมงานในโปรเจ็คท์หนังใหญ่ที่ฮ่องกง ชอยอินฮี นางเอกค้างฟ้าของเกาหลีใต้ก็เดินทางมาติดต่องานเพียงลำพัง โดยไม่รู้เลยว่านี่คือครั้งสุดท้ายในรอบหลายปีที่จะได้กลับไปเยือนบ้านเกิดในเกาหลีใต้ เมื่อเธอถูกคนของทางการเกาหลีเหนือลักพาตัว ซึ่งการหายตัวไปของภรรยา ทำให้ ชินซังโอก ผู้กำกับในอีกฐานะคือสามี เดินทางมาตามหาตัวเธอถึงฮ่องกงก่อนถูกลักพาตัวไปเช่นกัน นี่คือชะตากรรมของ ชอยอินฮี นักแสดงคนดังของเกาหลีใต้ ที่กลับมารำลึกถึงชีวิตอันผกผันในหนังสืออัตชีวประวัติ The Extraordinary True Story of a Kidnapped Filmmaker ชอยอินฮี ถูกลักพาตัวโดยเกาหลีเหนือครั้งแรกในปี 1950 ในช่วงที่กองทัพโสมแดงเข้ามายึดกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยช่วงนั้นเธอต้องทำการแสดงสร้างความบันเทิงให้กับกองทัพเกาหลีเหนือในเวลากลางวัน และต้องเข้ารับการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเวลากลางคืน ก่อนที่เธอจะเป็นอิสระเมื่อกองทัพโสมแดงต้องล่าถอนเมื่อกองกำลังโสมขาวเข้ายึดที่มั่นได้สำเร็จ หลังจากกลายเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ ในอีก 28 ปีต่อมา ชอยอินฮีถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวอีกครั้ง ตามคำสั่งของ คิมยองอิล อดีตผู้นำโสมแดง ที่ต้องการให้เธอและชินซังโอก สามีช่วยพัฒนาวงการภาพยนตร์เกาหลีเหนือ โดยช่วงเวลาที่ถูกกักตัวถึง 8 ปี ชินซังโอก ได้ร่วมผลิตหนังกับคิมยองอิลถึง 8 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ Pulgasari หนังกอซซิลล่าที่ประสบความสำเร็จจากการฉายทั้งในเกาหลีเหนือและญี่ปุ่น ส่วน ชอยอินฮี ยังคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์มอสโคจกาเรื่อง salt เมื่อปี 1985 แม้ทั้งคู่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเกาหลีเหนือ แต่ทั้งสองก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหนี เมื่อทั้งสองได้รับอนุญาติจาก คิมยองอิล ให้ไปร่วมเทศกาลภาพยนตร์ที่ออสเตรีย คู่สามีภรรยาจึงใช้โอกาสดังกล่าวในการคิดแผนหลบหนี โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักข่าวชาวญี่ปุ่น ที่ช่วยหาแท็กซี่พาตัวทั้งสองไปส่งยังสถานทูตสหรัฐในกรุงเวียนนา ซึ่ง ชอยอินฮี รำลึกว่าทันทีที่เธอคนในสถานทูตชูป้าย welcome to the west เธอก็ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความยินดีต่ออิสรภาพที่รอคอยมานาน ชอยอินฮี ในวัย 88 ปี ซึ่งกำลังรักษาตัวด้วยโรคเกี่ยวกับไตในโรงพยาบาลกล่าวว่า วันนี้เธอให้อภัยการกระทำของผู้นำเกาหลีเหนือที่ทำการลักพาตัวเธอ เพราะเข้าใจแรงปรารถนาของคิมยองอิลในการพัฒนาวงการภาพยนตร์ในประเทศของเขา แต่เธอก็ยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการปกครองประเทศด้วยวิธีเผด็จการเช่นนั้น ซึ่งประสบการณ์ที่ต้องเปิดการแสดงรับใช้กองทัพทั้งสองฝ่ายในสมัยสงครามเกาหลีถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำพอๆ กัน และเธอหวังว่าความขัดแย้งที่แบ่งคนทั้งสองชาติเพราะอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันเช่นนั้น จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ดี ชอยอินฮี ยอมรับว่าในสมัยที่เกาหลีใต้ถูกปกครองภายโดยปาร์คชอนฮี มีการใช้มาตรการควบคุมสื่อภาพยนตร์อย่างสูง แต่เธอก็เข้าใจว่าเป็นแรงปราถนาของอดีตผู้นำที่ต้องการพัฒนาประเทศ ต่างจากนักการเมืองทุกวันนี้ที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก

9 ต.ค.2566 เหตุโจมตีที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ของอิสราเอล เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ 7 ต

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2564 ประเทศญี่ปุ่น จัดพิธีเปิดการแข่งขัน กีฬาพาราลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 อย่างน่

ย้อนอดีตดาราดัง “ชอยอินฮี” และผู้กำกับ “ชินซังโอก” คู่สามีภรรยาถูกลักพาตัวโดยผู้นำเกาหลีเหนือ วันนี้

ย้อนอดีตดาราดัง “ชอยอินฮี” และผู้กำกับ “ชินซังโอก” คู่สามีภรรยาถูกลักพาตัวโดยผู้นำเกาหลีเหนือ วันนี้ (25 มิ.ย. 58) ถือเป็นวาระครบรอบ 65 ปีการอุบัติของสงครามเกาหลี ซึ่งหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดได้แก่ “ชอยอินฮี” นักแสดงเกาหลีใต้ ที่ถูกลักพาตัวโดยทางการเกาหลีเหนือถึง 2 ครั้ง โดยจุดประสงค์เพื่อเป็นการพัฒนาวงการภาพยนตร์ของเกาหลีเหนือ ตามความต้องการของผู้นำโสมแดง ย้อนอดีตดาราดัง “ชอยอินฮี” และผู้กำกับ “ชินซังโอก” คู่สามีภรรยาถูกลักพาตัวโดยผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากได้รับการติดต่อให้มาร่วมงานในโปรเจ็คท์หนังใหญ่ที่ฮ่องกง ชอยอินฮี นางเอกค้างฟ้าของเกาหลีใต้ก็เดินทางมาติดต่องานเพียงลำพัง โดยไม่รู้เลยว่านี่คือครั้งสุดท้ายในรอบหลายปีที่จะได้กลับไปเยือนบ้านเกิดในเกาหลีใต้ เมื่อเธอถูกคนของทางการเกาหลีเหนือลักพาตัว ซึ่งการหายตัวไปของภรรยา ทำให้ ชินซังโอก ผู้กำกับในอีกฐานะคือสามี เดินทางมาตามหาตัวเธอถึงฮ่องกงก่อนถูกลักพาตัวไปเช่นกัน นี่คือชะตากรรมของ ชอยอินฮี นักแสดงคนดังของเกาหลีใต้ ที่กลับมารำลึกถึงชีวิตอันผกผันในหนังสืออัตชีวประวัติ The Extraordinary True Story of a Kidnapped Filmmaker ชอยอินฮี ถูกลักพาตัวโดยเกาหลีเหนือครั้งแรกในปี 1950 ในช่วงที่กองทัพโสมแดงเข้ามายึดกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยช่วงนั้นเธอต้องทำการแสดงสร้างความบันเทิงให้กับกองทัพเกาหลีเหนือในเวลากลางวัน และต้องเข้ารับการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเวลากลางคืน ก่อนที่เธอจะเป็นอิสระเมื่อกองทัพโสมแดงต้องล่าถอนเมื่อกองกำลังโสมขาวเข้ายึดที่มั่นได้สำเร็จ หลังจากกลายเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ ในอีก 28 ปีต่อมา ชอยอินฮีถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวอีกครั้ง ตามคำสั่งของ คิมยองอิล อดีตผู้นำโสมแดง ที่ต้องการให้เธอและชินซังโอก สามีช่วยพัฒนาวงการภาพยนตร์เกาหลีเหนือ โดยช่วงเวลาที่ถูกกักตัวถึง 8 ปี ชินซังโอก ได้ร่วมผลิตหนังกับคิมยองอิลถึง 8 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ Pulgasari หนังกอซซิลล่าที่ประสบความสำเร็จจากการฉายทั้งในเกาหลีเหนือและญี่ปุ่น ส่วน ชอยอินฮี ยังคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์มอสโคจกาเรื่อง salt เมื่อปี 1985 แม้ทั้งคู่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเกาหลีเหนือ แต่ทั้งสองก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหนี เมื่อทั้งสองได้รับอนุญาติจาก คิมยองอิล ให้ไปร่วslotxo 199มเทศกาลภาพยนตร์ที่ออสเตรีย คู่สามีภรรยาจึงใช้โอกาสดังกล่าวในการคิดแผนหลบหนี โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักข่าวชาวญี่ปุ่น ที่ช่วยหาแท็กซี่พาตัวทั้งสองไปส่งยังสถานทูตสหรัฐในกรุงเวียนนา ซึ่ง ชอยอินฮี รำลึกว่าทันทีที่เธอคนในสถานทูตชูป้าย welcome to the west เธอก็ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความยินดีต่ออิสรภาพที่รอคอยมานาน ชอยอินฮี ในวัย 88 ปี ซึ่งกำลังรักษาตัวด้วยโรคเกี่ยวกับไตในโรงพยาบาลกล่าวว่า วันนี้เธอให้อภัยการกระทำของผู้นำเกาหลีเหนือที่ทำการลักพาตัวเธอ เพราะเข้าใจแรงปรารถนาของคิมยองอิลในการพัฒนาวงการภาพยนตร์ในประเทศของเขา แต่เธอก็ยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการปกครองประเทศด้วยวิธีเผด็จการเช่นนั้น ซึ่งประสบการณ์ที่ต้องเปิดการแสดงรับใช้กองทัพทั้งสองฝ่ายในสมัยสงครามเกาหลีถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำพอๆ กัน และเธอหวังว่าความขัดแย้งที่แบ่งคนทั้งสองชาติเพราะอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันเช่นนั้น จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ดี ชอยอินฮี ยอมรับว่าในสมัยที่เกาหลีใต้ถูกปกครองภายโดยปาร์คชอนฮี มีการใช้มาตรการควบคุมสื่อภาพยนตร์อย่างสูง แต่เธอก็เข้าใจว่าเป็นแรงปราถนาของอดีตผู้นำที่ต้องการพัฒนาประเทศ ต่างจากนักการเมืองทุกวันนี้ที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก หลังจากได้รับการติดต่อให้มาร่วมงานในโปรเจ็คท์หนังใหญ่ที่ฮ่องกง ชอยอินฮี นางเอกค้างฟ้าของเกาหลีใต้ก็เดินทางมาติดต่องานเพียงลำพัง โดยไม่รู้เลยว่านี่คือครั้งสุดท้ายในรอบหลายปีที่จะได้กลับไปเยือนบ้านเกิดในเกาหลีใต้ เมื่อเธอถูกคนของทางการเกาหลีเหนือลักพาตัว ซึ่งการหายตัวไปของภรรยา ทำให้ ชินซังโอก ผู้กำกับในอีกฐานะคือสามี เดินทางมาตามหาตัวเธอถึงฮ่องกงก่อนถูกลักพาตัวไปเช่นกัน นี่คือชะตากรรมของ ชอยอินฮี นักแสดงคนดังของเกาหลีใต้ ที่กลับมารำลึกถึงชีวิตอันผกผันในหนังสืออัตชีวประวัติ The Extraordinary True Story of a Kidnapped Filmmaker ชอยอินฮี ถูกลักพาตัวโดยเกาหลีเหนือครั้งแรกในปี 1950 ในช่วงที่กองทัพโสมแดงเข้ามายึดกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ โดยช่วงนั้นเธอต้องทำการแสดงสร้างความบันเทิงให้กับกองทัพเกาหลีเหนือในเวลากลางวัน และต้องเข้ารับการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเวลากลางคืน ก่อนที่เธอจะเป็นอิสระเมื่อกองทัพโสมแดงต้องล่าถอนเมื่อกองกำลังโสมขาวเข้ายึดที่มั่นได้สำเร็จ หลังจากกลายเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ ในอีก 28 ปีต่อมา ชอยอินฮีถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวอีกครั้ง ตามคำสั่งของ คิมยองอิล อดีตผู้นำโสมแดง ที่ต้องการให้เธอและชินซังโอก สามีช่วยพัฒนาวงการภาพยนตร์เกาหลีเหนือ โดยช่วงเวลาที่ถูกกักตัวถึง 8 ปี ชินซังโอก ได้ร่วมผลิตหนังกับคิมยองอิลถึง 8 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ Pulgasari หนังกอซซิลล่าที่ประสบความสำเร็จจากการฉายทั้งในเกาหลีเหนือและญี่ปุ่น ส่วน ชอยอินฮี ยังคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์มอสโคจกาเรื่อง salt เมื่อปี 1985 แม้ทั้งคู่จะใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในเกาหลีเหนือ แต่ทั้งสองก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะหนี เมื่อทั้งสองได้รับอนุญาติจาก คิมยองอิล ให้ไปร่วมเทศกาลภาพยนตร์ที่ออสเตรีย คู่สามีภรรยาจึงใช้โอกาสดังกล่าวในการคิดแผนหลบหนี โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนนักข่าวชาวญี่ปุ่น ที่ช่วยหาแท็กซี่พาตัวทั้งสองไปส่งยังสถานทูตสหรัฐในกรุงเวียนนา ซึ่ง ชอยอินฮี รำลึกว่าทันทีที่เธอคนในสถานทูตชูป้าย welcome to the west เธอก็ต้องหลั่งน้ำตาด้วยความยินดีต่ออิสรภาพที่รอคอยมานาน ชอยอินฮี ในวัย 88 ปี ซึ่งกำลังรักษาตัวด้วยโรคเกี่ยวกับไตในโรงพยาบาลกล่าวว่า วันนี้เธอให้อภัยการกระทำของผู้นำเกาหลีเหนือที่ทำการลักพาตัวเธอ เพราะเข้าใจแรงปรารถนาของคิมยองอิลในการพัฒนาวงการภาพยนตร์ในประเทศของเขา แต่เธอก็ยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการปกครองประเทศด้วยวิธีเผด็จการเช่นนั้น ซึ่งประสบการณ์ที่ต้องเปิดการแสดงรับใช้กองทัพทั้งสองฝ่ายในสมัยสงครามเกาหลีถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าจดจำพอๆ กัน และเธอหวังว่าความขัดแย้งที่แบ่งคนทั้งสองชาติเพราะอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันเช่นนั้น จะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต อย่างไรก็ดี ชอยอินฮี ยอมรับว่าในสมัยที่เกาหลีใต้ถูกปกครองภายโดยปาร์คชอนฮี มีการใช้มาตรการควบคุมสื่อภาพยนตร์อย่างสูง แต่เธอก็เข้าใจว่าเป็นแรงปราถนาของอดีตผู้นำที่ต้องการพัฒนาประเทศ ต่างจากนักการเมืองทุกวันนี้ที่เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก

วันนี้ (3 ต.ค.2566) นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุ