วันนี้ (19 ม.ค.2564) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองน

วันนี้ (6 ธ.ค.2565) รัฐสภาอินโดนีเซีย ผ่านร่างกฎหมายอาญา ซึ่งจะมีผลลงโทษผู้มีเพศสัมพันธ์นอกสมรส จำคุกสูงสุด 1 ปี และคู่รักที่อยู่กินกันก่อนแต่งงาน มีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน กฎหมายฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ท
แต่คำร้องให้สั่งให้นายเศรษฐา หยุดทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ 5-4 เห็นควรไม่ต้องหยุดทำหน้าที่ ส่วนคำร้องนายพิชิต ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีนั้น เมื่อเจ้าตัวลาออกจากตำแหน่ง เป็นเหตุให้
แต่คำร้องให้สั่งให้นายเศรษฐา หยุดทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ 5-4 เห็นควรไม่ต้องหยุดทำหน้าที่ ส่วนคำร้องนายพิชิต ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีนั้น เมื่อเจ้าตัวลาออกจากตำแหน่ง เป็นเหตุให้พ้นจากรัฐมนตรี จึงไม่มีเหตุต้องวินิจฉัยต่อไป มีมติไม่รับคำร้อง อย่างไรก็ตาม แม้นายเศรษฐาไม่ต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะรอดพ้นจากข้อกล่าวหา หากการพิจารณาตามมาตรา 82 วรรค 2 หากเป็นไปตามคำร้อง ก็ต้องรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี เพราะคำร้องของ 40 สว. ถูกคนวงในและคอการเมืองพันธุ์แท้ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ต้นว่าเป็นประเด็นเรื่องการเมือง เพราะจู่ ๆ ก็มีการรวมตัวยื่นคำร้องดังกล่าว ไปยังประธานวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย อย่างเร่งด่วน และประธานวุฒิก็พิจารณาส่งต่อไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็ว จนคอการเมืองบางส่วน ไม่ทราบเรื่องยื่นคำร้องนี้ด้วยซ้ำ ทำให้ถูกวิเคราะห์และเชื่อมโยงไปถึง “ดีลลับ” ระหว่าง 2 กลุ่ม ผู้มีอำนาจที่มีการเจรจาตกลงกันมาตลอด ตั้งแต่ยังไม่มีการเลือกตั้งด้วยซ้ำ และน้ำหนักที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ “ดีลลับ” ไม่ลงตัว หรือทำอะไรเกินกว่าที่ตกลงกัน ซึ่งศัพท์ทางการเมืองเรียกว่า “เกินเบอร์” เค้าลางนี้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนปรับ ครม.เศรษฐา 1/2 เมื่อนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เสนอผลักดันกฎหมายคัดกรองนายพล หวังสกัดการทำรัฐประหาร เสนอยกเลิกศาลจังหวัดทหารบก และให้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเองได้ ให้ที่ประชุมสภากลาโหม เป็นการเปิด “เกมรุก” ต่อกลุ่มอำนาจเดิม นำไslot1234live22 slot1234live22ปสู่กระแสเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหมจากนายสุทิน เป็นนายเศรษฐา เข้าไปนั่งควบกับตำแหน่งนายกฯ และมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ขยับขึ้นไปนั่งรัฐมนตรีช่วยกลาโหม กระทั่งมีสุ้มเสียงจาก สส.พรรคเพื่อไทย และอ้างถึงมวลชนเสื้อแดง ออกโรงต่อต้านเหมือนเมื่อครั้งมีชื่อ “บิ๊กเล็ก” ตอนฟอร์มครม.เศรษฐา 1/1 ด้วยเหตุผล ไม่ต้องการให้คนที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เพราะ พล.อ.ณัฐพล ถูกมวลชนเสื้อแดงมองว่า เป็นนายทหารในสายกลุ่มอำนาจเดิม เมื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีในกระทรวงกลาโหม ในทางการเมืองถูกตีความว่า ความต้องการของกลุ่มอำนาจเดิมไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่ทาง “นายใหญ่” กลับทำตัวโดดเด่น ไม่สนใจว่าจะตกเป็นเป้าถูกวิจารณ์โจมตี ทั้งเรื่อง 2 มาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม หรือการเดินทางไปไหนมาไหนแบบชิลล์ ๆ รวมถึงการพบปะเจรจากับตัวแทนกองกลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในเมียนมา จึงเป็นพฤติการณ์ที่ถูกมองว่า ล้ำเส้น-เกินเบอร์ จนมีปฏิบัติการลับของ 40 สว.เกิดขึ้น หรือไม่? ยังไม่นับอาจเป็นเสียงสัญญาณเตือนไปถึงรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย และอาจส่งผลถึงนัดสำคัญที่อัยการสูงสุดนัดชี้ขาดคดี มาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร วันที่ 29 พ.ค. อีกต่างหาก การรับคำร้องของ 40 สว. แต่ไม่ต้องหยุดการทำหน้าที่นายกฯ จึงอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นใหม่อีกรอบเท่านั้น ของการเมืองไทย สำหรับการเดินทางที่ยังไม่มีที่สิ้นสุด วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
ข้อหาเก็บเอกสารลับของรัฐบาลหลังพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทำให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตกที่นั่
วันนี้ (22 มี.ค.2566) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือร้
วันนี้ (17 เม.ย.2566) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จัน
แต่คำร้องให้สั่งให้นายเศรษฐา หยุดทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ 5-4 เห็นควรไม่ต้องหยุดทำหน้าที่ ส่วนคำร้องนายพิชิต ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีนั้น เมื่อเจ้าตัวลาออกจากตำแหน่ง เป็นเหตุให้พ้นจากรัฐมนตรี จึงไม่มีเหตุต้องวินิจฉัยต่อไป มีมติไม่รับคำร้อง อย่างไรก็ตาม แม้นายเศรษฐาไม่ต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ไม่ได้หมายความว่า จะรอดพ้นจากข้อกล่าวหา หากการพิจารณาตามมาตรา 82 วรรค 2 หากเป็นไปตามคำร้อง ก็ต้องรอลุ้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี เพราะคำร้องของ 40 สว. ถูกคนวงในและคอการเมืองพันธุ์แท้ตั้งข้อสังเกตตั้งแต่ต้นว่าเป็นประเด็นเรื่องการเมือง เพราะจู่ ๆ ก็มีการรวมตัวยื่นคำร้องดังกล่าว ไปยังประธานวุฒิสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย อย่างเร่งด่วน และประธานวุฒิก็พิจารณาส่งต่อไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็ว จนคอการเมืองบางส่วน ไม่ทราบเรื่องยื่นคำร้องนี้ด้วยซ้ำ ทำให้ถูกวิเคราะห์และเชื่อมโยงไปถึง “ดีลลับ” ระหว่าง 2 กลุ่ม ผู้มีอำนาจที่มีการเจรจาตกลงกันมาตลอด ตั้งแต่ยังไม่มีการเลือกตั้งด้วยซ้ำ และน้ำหนักที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ “ดีลลับ” ไม่ลงตัว หรือทำอะไรเกินกว่าที่ตกลงกัน ซึ่งศัพท์ทางการเมืองเรียกว่า “เกินเบอร์” เค้าลางนี้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนปรับ ครม.เศรษฐา 1/2 เมื่อนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เสนอผลักดันกฎหมายคัดกรองนายพล หวังสกัดการทำรัฐประหาร เสนอยกเลิกศาลจังหวัดทหารบก และให้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีอาญาเองได้ ให้ที่ประชุมสภากลาโหม เป็นการเปิด “เกมรุก” ต่อกลุ่มอำนาจเดิม นำไslot1234live22 slot1234live22ปสู่กระแสเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีกลาโหมจากนายสุทิน เป็นนายเศรษฐา เข้าไปนั่งควบกับตำแหน่งนายกฯ และมีชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ ขยับขึ้นไปนั่งรัฐมนตรีช่วยกลาโหม กระทั่งมีสุ้มเสียงจาก สส.พรรคเพื่อไทย และอ้างถึงมวลชนเสื้อแดง ออกโรงต่อต้านเหมือนเมื่อครั้งมีชื่อ “บิ๊กเล็ก” ตอนฟอร์มครม.เศรษฐา 1/1 ด้วยเหตุผล ไม่ต้องการให้คนที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เพราะ พล.อ.ณัฐพล ถูกมวลชนเสื้อแดงมองว่า เป็นนายทหารในสายกลุ่มอำนาจเดิม เมื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีในกระทรวงกลาโหม ในทางการเมืองถูกตีความว่า ความต้องการของกลุ่มอำนาจเดิมไม่ได้รับการสนองตอบจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่ทาง “นายใหญ่” กลับทำตัวโดดเด่น ไม่สนใจว่าจะตกเป็นเป้าถูกวิจารณ์โจมตี ทั้งเรื่อง 2 มาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม หรือการเดินทางไปไหนมาไหนแบบชิลล์ ๆ รวมถึงการพบปะเจรจากับตัวแทนกองกลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อยในเมียนมา จึงเป็นพฤติการณ์ที่ถูกมองว่า ล้ำเส้น-เกินเบอร์ จนมีปฏิบัติการลับของ 40 สว.เกิดขึ้น หรือไม่? ยังไม่นับอาจเป็นเสียงสัญญาณเตือนไปถึงรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย และอาจส่งผลถึงนัดสำคัญที่อัยการสูงสุดนัดชี้ขาดคดี มาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร วันที่ 29 พ.ค. อีกต่างหาก การรับคำร้องของ 40 สว. แต่ไม่ต้องหยุดการทำหน้าที่นายกฯ จึงอาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นใหม่อีกรอบเท่านั้น ของการเมืองไทย สำหรับการเดินทางที่ยังไม่มีที่สิ้นสุด วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา
บินลัดฟ้า ไปประชุมยูเอ็น ครั้งแรก “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ขนคณะ 50 ชีวิต ตามไปนิวยอร์กด้วย แต่ไ