ขณะที่ผู้บริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะ

แม้อาจมองว่า “กระเช้าไฟฟ้า” นำพาความสะดวกสบายให้นักท่องเที่ยว คนที่เดินเท้าไม่ไหว เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ฯลฯ ที่อยากขึ้นไปเที่ยวภูกระดึง รวมไปถึงการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ แต่ก็มีคำถามถึงผลกระทบต่อทรัพยา
วันนี้ (16 ก.ค.2567) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวัน
วันนี้ (29 ธ.ค.2564) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเดินทางไกลในช่วงปีใหม่ มีทั้งใช้บริการขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัวแบบการรวมกลุ่มเดินทางด้วยพาหนะคันเดียวกัน เช่น การเดินทางของเครือญาติ กลุ่มเพื่อนสนิท เพื่อกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ซึ่งการเดินทางแบบรวมกลุ่มด้วยยานพาหนะส่วนบุคคลนั้น มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการสัมผัสใกล้ชิดเป็นเวลานาน การพูดคุยกันภายในยานพาหนะ ละเลยการสวมหน้ากากป้องกัน มีการระบายอากาศที่ไม่ดีพอ รวมทั้งใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน ดังนั้น เมื่อต้องเดินทางแบบรวมกลุ่ม จำเป็นต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ ดังนี้ 1.ผู้ร่วมเดินทางต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการพูดคุยในขณะอยู่ร่วมกัน 2.หลีกเลี่ยงการกินอาหารร่วมมาเฟีย66กัน ขณะอยู่บนยานพาหนะ งดใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำ ช้อนส้อม 3.ในกรณีที่มีการแวะพักกินอาหาร ซื้อของฝาก เข้าห้องน้ำ ห้องส้วม ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือสถานที่สาธารณะ ให้เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากตลอดเวลา หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวหรืออุปกรณ์ที่มีการสัมผัสร่วม รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล 4.ในกรณีที่มีการเดินทางระยะไกล ควรหยุดแวะพักทุกชั่วโมง เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ นอกจากนี้ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด และเข้มงวดมาตรการ DMHTA เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรเตรียมความพร้อม ตั้งแต่ศึกษาข้อมูลมาตรการและแนวปฏิบัติ ตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคของจังหวัดปลายทาง เพื่อประเมินความพร้อมและการปฏิบัติ ตามมาตรการ ตรวจสอบสภาพยานพาหนะ ทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อในบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น บริเวณประตู เบาะที่นั่ง เป็นต้น ให้เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศในยานพาหนะ ก่อนออกเดินทาง ผู้เดินทางทั้งหมด ต้องสังเกตอาการเสี่ยงและประเมินตนเอง ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ หากพบว่ามีอาการหรือมีความเสี่ยง แนะนำให้ตรวจ ATK ก่อนเดินทาง และในกรณีที่ผู้เดินทางมีความเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดและติดเชื้อโรคโควิด-19 แบบกลุ่มก้อน หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ หรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อ ให้งดการเดินทางและเข้ารับการตรวจโดยวิธี RT-PCR และทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
วันนี้ (8 ก.ย.2564) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงผลประชุมพรรคกา
วันนี้ (29 ธ.ค.2564) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเดินทางไกลในช่วงปีให
กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 พ.ศ...
วันนี้ (29 ธ.ค.2564) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การเดินทางไกลในช่วงปีใหม่ มีทั้งใช้บริการขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัวแบบการรวมกลุ่มเดินทางด้วยพาหนะคันเดียวกัน เช่น การเดินทางของเครือญาติ กลุ่มเพื่อนสนิท เพื่อกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ซึ่งการเดินทางแบบรวมกลุ่มด้วยยานพาหนะส่วนบุคคลนั้น มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากการสัมผัสใกล้ชิดเป็นเวลานาน การพูดคุยกันภายในยานพาหนะ ละเลยการสวมหน้ากากป้องกัน มีการระบายอากาศที่ไม่ดีพอ รวมทั้งใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน ดังนั้น เมื่อต้องเดินทางแบบรวมกลุ่ม จำเป็นต้องปฏิบัติเข้มตามมาตรการ ดังนี้ 1.ผู้ร่วมเดินทางต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และหลีกเลี่ยงการพูดคุยในขณะอยู่ร่วมกัน 2.หลีกเลี่ยงการกินอาหารร่วมมาเฟีย66กัน ขณะอยู่บนยานพาหนะ งดใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำ ช้อนส้อม 3.ในกรณีที่มีการแวะพักกินอาหาร ซื้อของฝาก เข้าห้องน้ำ ห้องส้วม ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือสถานที่สาธารณะ ให้เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล สวมหน้ากากตลอดเวลา หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสพื้นผิวหรืออุปกรณ์ที่มีการสัมผัสร่วม รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล 4.ในกรณีที่มีการเดินทางระยะไกล ควรหยุดแวะพักทุกชั่วโมง เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ นอกจากนี้ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด และเข้มงวดมาตรการ DMHTA เพื่อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรเตรียมความพร้อม ตั้งแต่ศึกษาข้อมูลมาตรการและแนวปฏิบัติ ตามประกาศของคณะกรรมการควบคุมโรคของจังหวัดปลายทาง เพื่อประเมินความพร้อมและการปฏิบัติ ตามมาตรการ ตรวจสอบสภาพยานพาหนะ ทำความสะอาดหรือฆ่าเชื้อในบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น บริเวณประตู เบาะที่นั่ง เป็นต้น ให้เปิดประตูหน้าต่าง เพื่อระบายอากาศในยานพาหนะ ก่อนออกเดินทาง ผู้เดินทางทั้งหมด ต้องสังเกตอาการเสี่ยงและประเมินตนเอง ผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยเซฟไทย” หรือแอปพลิเคชันอื่น ๆ หากพบว่ามีอาการหรือมีความเสี่ยง แนะนำให้ตรวจ ATK ก่อนเดินทาง และในกรณีที่ผู้เดินทางมีความเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดและติดเชื้อโรคโควิด-19 แบบกลุ่มก้อน หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ หรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อ ให้งดการเดินทางและเข้ารับการตรวจโดยวิธี RT-PCR และทำการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน
วันนี้ (5 พ.ย.2567) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครอง