Home
|
pg ฟรี เครดิต 50 ไม่ ต้อง ฝาก

วันนี้ (29 มิ.ย.2565) สำนักข่าวต่างประเทศ เปิดเผยภ

pg ฟรี เครดิต 50 ไม่ ต้อง ฝาก

คดีคุกคามขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567 เวลา 18.20 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจถวายความปลอดภัยภารกิจ โดยมีการปล่อยรถประชาชนร่วมในเส้นท

วันนี้ (3 ม.ค.2568) เวลา 07.00 น. ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 42.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พบ

คดีคุกคามขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567 เวลา 18.20 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจถวายความปลอดภัยภารกิจ โดยมีการปล่อยรถประชาชนร่วมในเส้นทาง ระหว่างนั้นมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทราบชื่อคนขับภายหลังคือ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดี 112 มีpg ฟรี เครดิต 50 ไม่ ต้อง ฝากพฤติการณ์ บีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จฯ และขับรถยนต์ด้วยความเร็ว แต่เมื่อมาถึงบริเวณทางลงด่วนพหลโยธิน 1 (ทางลงด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ) เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รถปิดท้ายได้สกัดกั้นไม่ให้รถยนต์คันดังกล่าวลงไปร่วมกับขบวนเสด็จได้ จึงปรากฏคลิปโต้เถียงในเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan จนถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.2567) ตำรวจขอศาลออกหมายจับ น.ส.ทานตะวัน และเพื่อน ที่มีพฤติกรรมพยายามขัดขวางความปลอดภัยขบวนเสด็จ หลังพิจารณาคำร้องขอเลื่อนพบตำรวจอ้างติดภารกิจด้านการเรียน อ่าน : ผบก.น.1 เผยเตรียมขอศาลออกหมายจับ "ตะวัน-เพื่อน" 3 ข้อหา นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย อธิบายกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 มีช่องว่างที่สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป รวมทั้งผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ แต่เดิมนั้นหน่วยราชการที่ถวายความปลอดภัยให้องค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ จะถูกกำกับดูแลโดยนายกรัฐมนตรี แต่ภายหลังได้มีการจัดตั้ง "หน่วยราชการในพระองค์" ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.10 ซึ่งประกอบด้วย 3 หน่วยงาน คือ จึงทำให้มีการตรากฎหมายอีกหลายฉบับเกี่ยวกับหน่วยราชการในพระองค์ ประกอบด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นปีที่ 2 ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการถวายความปลอดภัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560" มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2557 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ "การถวายความปลอดภัย" หมายความว่า การรักษาความปลอดภัยสําหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และให้หมายความรวมถึงการรักษาความปลอดภัยสําหรับผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ "ความปลอดภัย" หมายความว่า การรักษาความปลอดภัยและการถวายพระเกียรติต่อพระองค์หรือบุคคลที่ต้องมีการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของพระราชฐาน ที่ประทับหรือที่พัก การรักษาความปลอดภัยในขณะที่เสด็จไปหรือไปยังที่ใด รวมตลอดถึงการรักษาความปลอดภัยของ ยานพาหนะ และสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง "ส่วนราชการในพระองค์" หมายความว่า ส่วนราชการในพระองค์ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์"หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ มาตรา 5 ให้ส่วนราชการในพระองค์มีหน้าที่วางแผนการถวายความปลอดภัย ตลอดจนการอํานวยการ ประสานงาน ควบคุม และปฏิบัติงานในการถวายความปลอดภัย โดยมีราชเลขานุการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ ในกรณีที่มีการกําหนดแผนการถวายความปลอดภัยตามวรรคหนึ่งและมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐแห่งใด ให้แผนการถวายความปลอดภัยนั้นมีผลตามกฎหมายที่หน่วยงานของรัฐแห่งนั้นมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามด้วย มาตรา 6 ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งมีหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยหรือร่วมมือในการถวายความปลอดภัย การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐในการดําเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ราชเลขานุการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์กําหนด มาตรา 7 เพื่อประโยชน์ในการถวายความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพและมีแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกัน ให้ราชเลขานุการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์มีอํานาจกําหนดระเบียบหรือออกประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยเพื่อใช้บังคับกับส่วนราชการในพระองค์และหน่วยงานของรัฐ มาตรา 8 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2557 ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการออกระเบียบ ประกาศ หรือกําหนดแนวปฏิบัติเป็นอย่างอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 9 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระราชโองการพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในพระองค์และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ กําหนดให้มีส่วนราชการในพระองค์เพื่อปฏิบัติภารกิจขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์ สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการถวายความปลอดภัยให้สอดคล้องกับการกําหนดหน้าที่ส่วนราชการในพระองค์และกําหนดหลักเกณฑ์ในการถวายความปลอดภัยให้สามารถดําเนินการถวายพระเกียรติในการปฏิบัติภารกิจได้ ตามพระราชประสงค์ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ นายคมสัน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาแม้จะมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจต่อสถาบันพระมหากษัตริย์กระทำการจาบจ้วง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอื่นเข้ามาประกอบการเอาผิด เช่น กรณีตะโกนส่งเสียงดัง หรือมีคำหยาบ ก็ใช้กฎหมายดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หรือกรณีของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่บีบแตรใส่ขบวนเสด็จเมื่อต้นเดือน ก.พ. ก็ผิดเพียงแค่กฎหมายจราจรเท่านั้น และไม่สามารถใช้กฎหมาย ม.112 ได้ เนื่องจากบทบัญญัติมีผลบังคับเฉพาะพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพียงเท่านั้น จึงถือเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นกับพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจะเห็นได้จากการปะทะกันระหว่างกลุ่ม ศปปส.กับกลุ่มทะลุวัง ที่บริเวณรถไฟฟ้าสถานีสยาม เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา นักวิชาการคนเดิม บอกว่า เนื่องจากไม่มีบทลงโทษที่รุนแรงมากพอที่จะหยุดยั้งการกระทำจาก กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถบังคับใช้ข้อกฎหมายโดยตรงได้ ก็จะก่อให้เกิดความไม่พอใจกับกลุ่มคนฝั่งตรงข้าม และนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมกันเอง ในขณะที่โลกโซเชียลเริ่มเห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 แต่เป็นในเชิงที่ขอให้มีการเพิ่มโทษ แต่นายคมสัน ระบุว่า ไม่ควรนำ ม.112 มาเกี่ยวข้อง เพราะสุดท้ายกฎหมาย ม.112 จะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและสร้างความแตกแยกไม่จบสิ้น ไม่ว่าจะลดโทษหรือเพิ่มโทษก็ตาม สำหรับทางแก้ไขที่จะสามารถถวายความปลอดภัยให้พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ได้คือ การกำหนดโทษใน พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 โดยตนเองได้ร่าง พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย ฉบับใหม่ขึ้นมา ใจความสำคัญอยู่ที่บทลงโทษตามมาตร 7/1, 7/2 และ 7/3 ได้แก่ ส่วนเกณฑ์ในการกำหนดโทษนั้น นายคมสัน ชี้ว่า ได้ใช้บทลงโทษตามกฎหมายอาญา แต่โทษนั้นรุนแรงขึ้นไปตามความสำคัญของบุคคล หากไม่ใช้โทษที่รุนแรง อาจทำให้สังคมเกิดความไม่พอใจ และขณะเดียวกัน ไม่สามารถป้องปรามผู้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ อ่านข่าวเพิ่ม : จับกระแสการเมือง : วันที่ 13 ก.พ.2567 "ธรรมนัส" สยบข่าวลือ พี่-น้อง 2 ป. "ป้อม-ป๊อด" ยังไม่ถูกเลื่อยขาเก้าอี้ ฟื้น ! หอการค้าชี้เศรษฐกิจขยายตัว คาดตลอดปี นทท.ทะลุ 40 ล้าน

วันนี้ (1 มิ.ย.2565) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ พร้อมด้วยนายรณรงค์ แก้วเพชร และนายรัชพล ศิริสาคร

วันนี้ (19 พ.ย.2566) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอาก

ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ว่าด้วยการปิดสวิทซ์ ส.ว. ต้องใช้ 84 เสียง หรือ 1 ใน 3 ของ ส.ว.ทั้งในว

คดีคุกคามขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567 เวลา 18.20 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจถวายความปลอดภัยภารกิจ โดยมีการปล่อยรถประชาชนร่วมในเส้นทาง ระหว่างนั้นมีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทราบชื่อคนขับภายหลังคือ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดี 112 มีpg ฟรี เครดิต 50 ไม่ ต้อง ฝากพฤติการณ์ บีบแตรรถยนต์ลากยาวระหว่างขบวนเสด็จฯ และขับรถยนต์ด้วยความเร็ว แต่เมื่อมาถึงบริเวณทางลงด่วนพหลโยธิน 1 (ทางลงด่วนอนุสาวรีย์ชัยฯ) เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่รถปิดท้ายได้สกัดกั้นไม่ให้รถยนต์คันดังกล่าวลงไปร่วมกับขบวนเสด็จได้ จึงปรากฏคลิปโต้เถียงในเฟซบุ๊ก Tawan Tantawan จนถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.2567) ตำรวจขอศาลออกหมายจับ น.ส.ทานตะวัน และเพื่อน ที่มีพฤติกรรมพยายามขัดขวางความปลอดภัยขบวนเสด็จ หลังพิจารณาคำร้องขอเลื่อนพบตำรวจอ้างติดภารกิจด้านการเรียน อ่าน : ผบก.น.1 เผยเตรียมขอศาลออกหมายจับ "ตะวัน-เพื่อน" 3 ข้อหา นายคมสัน โพธิ์คง นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย อธิบายกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 มีช่องว่างที่สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป รวมทั้งผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ แต่เดิมนั้นหน่วยราชการที่ถวายความปลอดภัยให้องค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ จะถูกกำกับดูแลโดยนายกรัฐมนตรี แต่ภายหลังได้มีการจัดตั้ง "หน่วยราชการในพระองค์" ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระวชิระเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.10 ซึ่งประกอบด้วย 3 หน่วยงาน คือ จึงทำให้มีการตรากฎหมายอีกหลายฉบับเกี่ยวกับหน่วยราชการในพระองค์ ประกอบด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นปีที่ 2 ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการถวายความปลอดภัย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560" มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2557 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ "การถวายความปลอดภัย" หมายความว่า การรักษาความปลอดภัยสําหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และให้หมายความรวมถึงการรักษาความปลอดภัยสําหรับผู้สําเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้แทนพระองค์ซึ่งเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป และบุคคลที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับเป็นพระราชอาคันตุกะ "ความปลอดภัย" หมายความว่า การรักษาความปลอดภัยและการถวายพระเกียรติต่อพระองค์หรือบุคคลที่ต้องมีการถวายความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของพระราชฐาน ที่ประทับหรือที่พัก การรักษาความปลอดภัยในขณะที่เสด็จไปหรือไปยังที่ใด รวมตลอดถึงการรักษาความปลอดภัยของ ยานพาหนะ และสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้อง "ส่วนราชการในพระองค์" หมายความว่า ส่วนราชการในพระองค์ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์"หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ มาตรา 5 ให้ส่วนราชการในพระองค์มีหน้าที่วางแผนการถวายความปลอดภัย ตลอดจนการอํานวยการ ประสานงาน ควบคุม และปฏิบัติงานในการถวายความปลอดภัย โดยมีราชเลขานุการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ ในกรณีที่มีการกําหนดแผนการถวายความปลอดภัยตามวรรคหนึ่งและมีส่วนเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐแห่งใด ให้แผนการถวายความปลอดภัยนั้นมีผลตามกฎหมายที่หน่วยงานของรัฐแห่งนั้นมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามด้วย มาตรา 6 ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งมีหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยหรือร่วมมือในการถวายความปลอดภัย การปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐในการดําเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ราชเลขานุการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์กําหนด มาตรา 7 เพื่อประโยชน์ในการถวายความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพและมีแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกัน ให้ราชเลขานุการในพระองค์ของพระมหากษัตริย์มีอํานาจกําหนดระเบียบหรือออกประกาศเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติหน้าที่ในการถวายความปลอดภัยเพื่อใช้บังคับกับส่วนราชการในพระองค์และหน่วยงานของรัฐ มาตรา 8 บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ.2557 ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการออกระเบียบ ประกาศ หรือกําหนดแนวปฏิบัติเป็นอย่างอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 9 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระราชโองการพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในพระองค์และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ กําหนดให้มีส่วนราชการในพระองค์เพื่อปฏิบัติภารกิจขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์ สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการถวายความปลอดภัยให้สอดคล้องกับการกําหนดหน้าที่ส่วนราชการในพระองค์และกําหนดหลักเกณฑ์ในการถวายความปลอดภัยให้สามารถดําเนินการถวายพระเกียรติในการปฏิบัติภารกิจได้ ตามพระราชประสงค์ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ นายคมสัน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาแม้จะมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจต่อสถาบันพระมหากษัตริย์กระทำการจาบจ้วง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายอื่นเข้ามาประกอบการเอาผิด เช่น กรณีตะโกนส่งเสียงดัง หรือมีคำหยาบ ก็ใช้กฎหมายดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หรือกรณีของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่บีบแตรใส่ขบวนเสด็จเมื่อต้นเดือน ก.พ. ก็ผิดเพียงแค่กฎหมายจราจรเท่านั้น และไม่สามารถใช้กฎหมาย ม.112 ได้ เนื่องจากบทบัญญัติมีผลบังคับเฉพาะพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพียงเท่านั้น จึงถือเป็นช่องว่างที่เกิดขึ้นกับพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่น อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาจะเห็นได้จากการปะทะกันระหว่างกลุ่ม ศปปส.กับกลุ่มทะลุวัง ที่บริเวณรถไฟฟ้าสถานีสยาม เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา นักวิชาการคนเดิม บอกว่า เนื่องจากไม่มีบทลงโทษที่รุนแรงมากพอที่จะหยุดยั้งการกระทำจาก กลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถบังคับใช้ข้อกฎหมายโดยตรงได้ ก็จะก่อให้เกิดความไม่พอใจกับกลุ่มคนฝั่งตรงข้าม และนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมกันเอง ในขณะที่โลกโซเชียลเริ่มเห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 แต่เป็นในเชิงที่ขอให้มีการเพิ่มโทษ แต่นายคมสัน ระบุว่า ไม่ควรนำ ม.112 มาเกี่ยวข้อง เพราะสุดท้ายกฎหมาย ม.112 จะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองและสร้างความแตกแยกไม่จบสิ้น ไม่ว่าจะลดโทษหรือเพิ่มโทษก็ตาม สำหรับทางแก้ไขที่จะสามารถถวายความปลอดภัยให้พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ได้คือ การกำหนดโทษใน พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย พ.ศ.2560 โดยตนเองได้ร่าง พ.ร.บ.การถวายความปลอดภัย ฉบับใหม่ขึ้นมา ใจความสำคัญอยู่ที่บทลงโทษตามมาตร 7/1, 7/2 และ 7/3 ได้แก่ ส่วนเกณฑ์ในการกำหนดโทษนั้น นายคมสัน ชี้ว่า ได้ใช้บทลงโทษตามกฎหมายอาญา แต่โทษนั้นรุนแรงขึ้นไปตามความสำคัญของบุคคล หากไม่ใช้โทษที่รุนแรง อาจทำให้สังคมเกิดความไม่พอใจ และขณะเดียวกัน ไม่สามารถป้องปรามผู้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ อ่านข่าวเพิ่ม : จับกระแสการเมือง : วันที่ 13 ก.พ.2567 "ธรรมนัส" สยบข่าวลือ พี่-น้อง 2 ป. "ป้อม-ป๊อด" ยังไม่ถูกเลื่อยขาเก้าอี้ ฟื้น ! หอการค้าชี้เศรษฐกิจขยายตัว คาดตลอดปี นทท.ทะลุ 40 ล้าน

นักวิชาการคาดฝนตกหนักต่อเนื่องถึง 18 ก.ย. ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องขณะนี้ทำให้เขื่อนส่วนใหญ่เกือบทุกภาคขอ