วันนี้ (14 ต.ค.2565) เมื่อเวลา 17.00 น.นางรุ่งรวี

วันนี้ (5 ก.ย.2567) นายยุทธพล อังกินันทน์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา และรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศลาออกกรรมการบริหารพรรคฯ รองหัวหน้าพรรคฯ และ สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา โดยม
วันนี้ (3 ต.ค.2566 ) พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้เร่งการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ไปยังสถานพยาบาลต่างทั่วประเทศ โดยเฉพาะโอเวลทามิเวียร์สำหรับเด็กเล็กขนาด
วันนี้ (3 ต.ค.2566 ) พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้เร่งการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ไปยังสถานพยาบาลต่างทั่วประเทศ โดยเฉพาะโอเวลทามิเวียร์สำหรับเด็กเล็กขนาด 30 มิลลิกรัม คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะทยอยส่งได้ทุกพื้นที่ ส่วนยาสำหรับเด็กโต ขนาด 45 มิลลิกรัม คาดว่าจะเร่งเคลียร์จำนวนยาทั้งหมด และส่งมอบยาได้ภายวันที่ 8 ต.ค.นี้ เช่นเดียวกับ ยาสำหรับผู้ใหญ่ขนาด 75 มิลลิกรัม ก็จะจัดส่งเช่นกัน โดยจะเหลือคงสต็อกไว้สำหรับฉุกเฉินเพียง 50 กล่องเท่านั้น พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า สถานการณ์ความต้องการยาโอเซลทามิเวียร์จะค่อยๆ คลี่คลาย หลังจากสปสช.มีมติให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ใช้ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ได้ โดยคณะอนุกรรมการ ฯบัญชียาหลัก จะมีการหารือกันในช่วงบ่ายวันนี้ (3 ต.ค) เบื้องต้นกรมการแพทย์ได้ปรับ คำแนะนำการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สำหรับบุคลากรทาหนังสือ สยาม กีฬา หนังสือ สยาม กีฬางการแพทย์และสาธารณสุข ว่าสามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์รักษาไข้หวัดใหญ่ได้เช่นเดียว ซึ่งทำมีความสะดวกในการใช้ยา และการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้กรมการแพทย์ ได้เผยแพร่ ในเว็บไซด์ ให้คำแนะนำการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ฉบับปรับปรุงวันที่ 2 ต.ค. 66 (ครั้งที่ 4 ) โดยคณะทำงานด้านการรักษาพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ใจความว่า แบ่งเป็นการรักษา การรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ออกเป็น 1 การรักษาแบบประคับประคอง (supportive treatment) 2 การรักษาเฉพาะโดยให้ยาต้านไวรัส ประกอบด้วย ยาต้านไวรัสอันดับแรก (first-line) คือ โอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) , ยาอันดับรอง (second-line) คือ ฟาวิพิราเวียร์ ( favipiravir ) ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้ยาอันดับแรกได้ เฉพาะในกรณีที่เป็นไข้หวัดใหญ่อาการไม่รุนแรงเท่านั้น การให้ยาต้านไวรัสเพื่อการรักษาไข้หวัดใหญ่ จะให้ ผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเริ่มยาได้เร็ว ภายใน 48 ชั่วโมงแรก อย่างไรก็ตามยังมีประโยชน์ในผู้ที่อาการรุนแรงหรือเสี่ยงสูง แม้จะเลย 48 ชั่วโมงไปแล้ว โดยเกณฑ์การจ่ายยาต้านไวรัส ประกอบด้วย 1. ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง (มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 95% ,สงสัยปอดอักเสบ , ซึม หรือมีอาการทางประสาท ,รับประทานอาหารได้น้อย )2. ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง (อ้วน.หญิงตั้งครรภ์ ,อายุน้อยกว่า 2 ปี และอายุมากกว่า 60 ปี.ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน,มะเร็ง,ไต ) ทั้งนี้ ข้อบ่งใช้ ยาโอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) ขนาดสูง 2 เท่าของปกติพบว่าไม่มีประสิทธิผลดีไปกว่าขนาดปกติ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ไข้หวัดใหญ่" ระบาดหนัก เช็กอาการ-กลุ่มไหนเสี่ยง ติดเชื้อ “ไข้หวัดใหญ่” พุ่งสะสม 216,600 คน สวนทางโควิดขาลง
วันนี้ (16 ก.พ.2565) ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมยัดถังขยะใน อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 13 ก.
วันนี้ (24 มี.ค.2564) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ แต่งตั้งองคมนตรี ความว่า พระบาทสมเด็จพระ
นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครอง
วันนี้ (3 ต.ค.2566 ) พญ.มิ่งขวัญ สุพรรณพงศ์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า องค์การเภสัชกรรมได้เร่งการกระจายยาโอเซลทามิเวียร์ไปยังสถานพยาบาลต่างทั่วประเทศ โดยเฉพาะโอเวลทามิเวียร์สำหรับเด็กเล็กขนาด 30 มิลลิกรัม คาดว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะทยอยส่งได้ทุกพื้นที่ ส่วนยาสำหรับเด็กโต ขนาด 45 มิลลิกรัม คาดว่าจะเร่งเคลียร์จำนวนยาทั้งหมด และส่งมอบยาได้ภายวันที่ 8 ต.ค.นี้ เช่นเดียวกับ ยาสำหรับผู้ใหญ่ขนาด 75 มิลลิกรัม ก็จะจัดส่งเช่นกัน โดยจะเหลือคงสต็อกไว้สำหรับฉุกเฉินเพียง 50 กล่องเท่านั้น พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า สถานการณ์ความต้องการยาโอเซลทามิเวียร์จะค่อยๆ คลี่คลาย หลังจากสปสช.มีมติให้ ยาฟาวิพิราเวียร์ใช้ในการรักษาไข้หวัดใหญ่ได้ โดยคณะอนุกรรมการ ฯบัญชียาหลัก จะมีการหารือกันในช่วงบ่ายวันนี้ (3 ต.ค) เบื้องต้นกรมการแพทย์ได้ปรับ คำแนะนำการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ สำหรับบุคลากรทาหนังสือ สยาม กีฬา หนังสือ สยาม กีฬางการแพทย์และสาธารณสุข ว่าสามารถใช้ยาฟาวิพิราเวียร์รักษาไข้หวัดใหญ่ได้เช่นเดียว ซึ่งทำมีความสะดวกในการใช้ยา และการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้กรมการแพทย์ ได้เผยแพร่ ในเว็บไซด์ ให้คำแนะนำการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ฉบับปรับปรุงวันที่ 2 ต.ค. 66 (ครั้งที่ 4 ) โดยคณะทำงานด้านการรักษาพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ใจความว่า แบ่งเป็นการรักษา การรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ออกเป็น 1 การรักษาแบบประคับประคอง (supportive treatment) 2 การรักษาเฉพาะโดยให้ยาต้านไวรัส ประกอบด้วย ยาต้านไวรัสอันดับแรก (first-line) คือ โอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) , ยาอันดับรอง (second-line) คือ ฟาวิพิราเวียร์ ( favipiravir ) ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้ยาอันดับแรกได้ เฉพาะในกรณีที่เป็นไข้หวัดใหญ่อาการไม่รุนแรงเท่านั้น การให้ยาต้านไวรัสเพื่อการรักษาไข้หวัดใหญ่ จะให้ ผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเริ่มยาได้เร็ว ภายใน 48 ชั่วโมงแรก อย่างไรก็ตามยังมีประโยชน์ในผู้ที่อาการรุนแรงหรือเสี่ยงสูง แม้จะเลย 48 ชั่วโมงไปแล้ว โดยเกณฑ์การจ่ายยาต้านไวรัส ประกอบด้วย 1. ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาล หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง (มีระดับออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 95% ,สงสัยปอดอักเสบ , ซึม หรือมีอาการทางประสาท ,รับประทานอาหารได้น้อย )2. ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง (อ้วน.หญิงตั้งครรภ์ ,อายุน้อยกว่า 2 ปี และอายุมากกว่า 60 ปี.ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน,มะเร็ง,ไต ) ทั้งนี้ ข้อบ่งใช้ ยาโอเซลทามิเวียร์ (oseltamivir) ขนาดสูง 2 เท่าของปกติพบว่าไม่มีประสิทธิผลดีไปกว่าขนาดปกติ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "ไข้หวัดใหญ่" ระบาดหนัก เช็กอาการ-กลุ่มไหนเสี่ยง ติดเชื้อ “ไข้หวัดใหญ่” พุ่งสะสม 216,600 คน สวนทางโควิดขาลง
วันนี้ (5 ก.ย.2564) พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเ