วันนี้ (20 พ.ย.2567) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำนักสงฆ์ ในพื้นที่ ต.สล
วันนี้ (4 เม.ย.2568) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ติดค้างภายใต้ซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าถึงจุ
วุฒิสมาชิกชี้ช่องโกง งบฯภัยพิบัติซ้ำซาก หลายพื้นที่ประสบอุทกภัยขณะนี้ล้วนเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เปิดโอกาสให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษได้ ทำให้วุฒิสภาตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเปิดช่องให้เกิดการทุจริต และกระทบต่อความช่วยเหลือผู้ประสบภัย วุฒิสมาชิกชี้ช่องโกง งบฯภัยพิบัติซ้ำซาก นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยน้ำท่วม จากงบฯ สำรองจ่ายตามอำนาจผู้ว่าราชการ วงเงิน 50 ล้านบาท และขยายวงเงินได้อีกจากงบฯ กลางรวม 100 ล้านบาทเต็มไปด้วยช่องว่างที่เปิดโอกาสให้ทุจริตการเบิกจ่ายได้ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซาก พบข้อมูลว่า มีผู้ว่าราชการจังหวัด เบิกค่าใช้จ่ายส่วนเดิมซ้ำทุกปี อาทิ ค่าซ่อมแซมถนน ขุดลอกคลองเพื่อเปิดเส้นทางน้ำ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ตรวจสอบย้อนหลังลำบาก ด้วยความเร่งรีบเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยถูกใช้เป็นเหตุผล ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ อาจเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้รับเหมาในเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่น ประกอบกับ เงินช่วยเหลือจากเอกชนและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาทุจริต ขอให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมตรวจสอบการใช้เงินเบิกจ่าย บรรเทาความเดือดจากภัยธรรมชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายจิตติพจน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรตั้งคณะทำงานตรวจสอบผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอมาทันที แทนการตรวจสอบย้อนหลังเช่นในปัจจุบัน เพื่อลดโอกาสการรั่วไหลของบประมาณดังกล่าว ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาเคยสรุปปัญหาและช่องว่างการใช้งบประมาณดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาล แต่ถูกเพิกเฉย โดยอ้างความจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือถึงมือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด พร้อมยอมรับว่า นักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นมักเกรงปัญหาการเมืองเปลี่ยนแปลง จึงไม่ดำเนินโครงการก่อสร้างป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยน้ำท่วม จากงบฯ สำรองจ่ายตามอำนาจผู้ว่าราชการ วงเงิน 50 ล้านบาท และขยายวงเงินได้อีกจากงบฯ กลางรวม 100 ล้านบาทเต็มไปด้วยช่องว่างที่เปิดโอกาสให้ทุจริตการเบิกจ่ายได้ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมซ้ำซาก พบข้อมูลว่า มีผู้ว่าราชการจังหวัด เบิกค่าใช้จ่ายส่วนเดิมซ้ำทุกปี อาทิ ค่าซ่อมแซมถนน ขุดลอกคลองเพื่อเปิดเส้นทางน้ำ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ตรวจสอบย้อนหลังลำบาก ด้วยความเร่งรีบเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยถูกใช้เป็นเหตุผล ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ อาจเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทผู้รับเหมาในเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่น ประกอบกับ เงินช่วยเหลือจากเอกชนและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน เพื่อแก้ปัญหาทุจริต ขอให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมตรวจสอบการใช้เงินเบิกจ่าย บรรเทาความเดือดจากภัยธรรมชาติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายจิตติพจน์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรตั้งคณะทำงานตรวจสอบผลจากการเบิกจ่ายงบประมาณตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอมาทันที แทนการตรวจสอบย้อนหลังเช่นในปัจจุบัน เพื่อลดโอกาสการรั่วไหลของบประมาณดังกล่าว ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาเคยสรุปปัญหาและช่องว่างการใช้งบประมาณดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาล แต่ถูกเพิกเฉย โดยอ้างความจำเป็นต้อทดลองเล่นสล็อต pg มาใหม่หวย 188betงให้ความช่วยเหลือถึงมือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด พร้อมยอมรับว่า นักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นมักเกรงปัญหาการเมืองเปลี่ยนแปลง จึงไม่ดำเนินโครงการก่อสร้างป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน
วุฒิสมาชิกชี้ช่องโกง งบฯภัยพิบัติซ้ำซาก หลายพื้นที่ประสบอุทกภัยขณะนี้ล้วนเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เปิดโอกาสให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษได้ ทำให้วุฒิสภาตั้งข้อสังเกตว่าเป็น