กว่าจะเป็น “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ” หรือ รพ.สต. ในทุกวันนี้ มีชื่อเดิม “ สถานีอนามัย” เพื่อใช้ดูแลร
การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใคร ๆ ก็พูดได้ แต่จะลงมือทำจริง รณรงค์ สืบหาข้อมูล และชักชวนให้คนทั้งประเทศสนใจ ปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมได้มากน้อยแค่ไหน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง "มารีญา พูลเลิศลาภ" ผู้ที่มีบทบาทส
วันนี้ (28 ต.ค.2565) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้สอบข้อเท็จจริง กรณีพรรคพลังประชารัฐ รับเงินบริจาคเมื่อปี 2564 จากนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ วงเงิน 3 ล้านบาท ว่า เป็นการกระทำที่เข้าข่ายขัดต่อกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 44 มาตรา 72 และมาตรา 74 หรือไม่ ซึ่งหากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่ข่าว วัน นี้ ฟุตบอลาวก็ขอให้ กกต. พิจารณายื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชารัฐตามมาตรา 92 (3) ของรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยมาตรา 44 สาระสำคัญกำหนดไว้ว่าห้ามพรรคการเมืองไปรับประโยชน์ จากกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนการทำลายความมั่นคงการทำลายเศรษฐกิจของชาติ และการทำลายระบบราชการของชาติ และยังกำหนดไว้ในการห้ามรับเงินจากบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย ส่วนมาตรา 72 สาระสำคัญกำหนดว่าห้ามพรรคการเมืองไปรับเงินสนับสนุนหรือรู้ว่าเงินที่มาสนับสนุนนั้นมีที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ต่างเกี่ยวพันกับตัวบุคคล ที่มีการแปลงหรือโอนสัญชาติมาเป็นสัญชาติไทย แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้บริจาคนั้นยังถือ 2 สัญชาติอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่ตำรวจไปบุกจับผับดังที่เปิดโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งมีการพบยาเสพติด เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดต่อศีลทำอันดีและจารีตประเพณีและความมั่นคงของประเทศด้วย ขณะเดียวกันยังได้อ้างอิงเหตุการณ์ที่ตำรวจบุกจับสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านยานนาวา และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนายทุนชาวจีน ที่มีการพาดพิงถึงบุคคลยื่นบริจาคเงินให้กับพรรคพลังประชารัฐ ประกอบกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐยอมรับข้อเท็จจริงในการรับบริจาคเงิน จากบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสงสัยว่า นายชัยณัฐร์ ที่เคยมีสัญชาติจีน และได้รับสัญชาติไทยในปี 2557 และมีบัตรประชาชนเป็นคนไทย แต่นายชัยณัฐร์ เป็นนักธุรกิจที่ประกอบกิจการและมีบริษัทในเครือและหลาย 10 บริษัท ซึ่งเป็นที่สงสัยว่าการแปลงสัญชาติไทย ได้มีการสละสัญชาติจีนด้วยหรือไม่ หรือเป็นการถือ 2 สัญชาติ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง นอกจากนี้ ขอให้ตรวจสอบว่า 10 บริษัทของผู้บริจาคนั้นมีนอมินีเข้ามาถือหุ้นเกินไปกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ เนื่องจากมีข้อห้ามในกฎหมายพรรคการเมืองกำหนดไว้ หากมีชาวต่างชาติถือหุ้นเกินกว่าที่กำหนดไว้ก็จะกลายเป็นบริษัทต่างด้าว และชี้ว่าไม่เพียงแค่ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น แต่จะต้องตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นด้วยที่มีการบริจาคในลักษณะเดียวกัน
วันนี้ (28 ต.ค.2565) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้สอบข้อเท็จจริง กรณีพรรคพลังประชารัฐ รับเงินบริจาคเมื่อปี 2564 จากนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ วงเ