ชาวนาเรียกร้องปรับหลักเกณฑ์รับจำนำข้าวสอดคล้องความเป็นจริง แม้รัฐบาลจะตั้งราคารับจำนำข้าวไว้สูงถึงตั
วันนี้ (22 ก.พ.2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีภาพข่าวคนติดโควิด-19 นอนรอการช่วยเหลืออยู่ริมถนนว่า ไม่มีภาพผู้ป่วยนอนรอการช่วยเหลือริมถนน ซึ่งได้มีการตรวจส
ชาวนาเรียกร้องปรับหลักเกณฑ์รับจำนำข้าวสอดคล้องความเป็นจริง แม้รัฐบาลจะตั้งราคารับจำนำข้าวไว้สูงถึงตันละ 15,000 บาท ที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อเท็จจริงแล้ว ข้าวของชาวนาส่วนใหญ่มีความชื้นสูงถึง 20-25 เปอร์เซ็นต์ และเป็นข้าวเปลือกเจ้า 5 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ขายข้าวไม่ได้ราคาอย่างที่คาดหวัง บางคนจึงเสนอรัฐบาลปรับหลักเกณฑ์ให้ข้าวความชื้นสูงกว่าที่กำหนด เพื่อช่วยเหลือชาวนาจากปัญหาน้ำท่วม ชาวนาเรียกร้องปรับด fun88หลักเกณฑ์รับจำนำข้าวสอดคล้องความเป็นจริง เหลืออีกเพียง 3 วัน โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/2555 จะเริ่มขึ้น ด้วยความฝันที่ชาวนาจะได้เงินจากโครงการนี้ที่ตันละ 15,000 บาท แต่สำหรับ นเรศ ลาพังยะวิทย์ ชาวนา อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรียอมรับว่าแม้ราคารับจำนำจะสูงถึง 15,000 บาท แต่หมายถึงต้องเป็นข้าวเปลือกที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ค้านกับสภาพความเป็นจริงที่ข้าวชาวนาส่วนใหญ่จะเกินกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลกำหนดราคาจำนำข้าวตามชนิดข้าวที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 20,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ตันละ 15,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า 5 เปอร์เซ็นต์ตันละ 14,800 บาท และข้าวเปลือกเจ้า 10 เปอร์เซ็นต์ ตันละ 14,600 บาท ขณะที่ข้าวของชาวนาส่วนใหญ่เป็นข้าวเปลือกเจ้า 5 เปอร์เซ็นต์ และความชื้นเฉลี่ย 20-25 เปอร์เซ็นต์ หากชาวนานำข้าวมีความชื้น 20 เปอร์เซ็นต์ ไปขายจะได้ราคาตันละ 13,690 บาท, ความชื้น 25 เปอร์เซ็นต์ ตันละ 12,961 บาท, ความชื้น 30 เปอร์เซ็นต์ตันละ 10,581 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกเจ้า 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะได้ถึงตันละ 15,000 บาทนั้นมีปลูกค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวพันธุ์ชัยนาท และจากเปอร์เซ็นต์ความชื้นจากสถานการณ์น้ำท่วมเวลานี้ ทำให้ชาวนาในตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด จึงต้องการให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะกำหนดความชื้นควรสูงกว่าร้อย 15 ในราคาที่ตันละ 15,000 บาท ไม่เพียงแต่ปัญหานี้มีชาวนาหลายรายนำข้าวที่เกี่ยวก่อนหน้านี้ มาฝากกับโรงสีในอำเภอศรีประจันต์เพื่อรอนำเข้าโครงการรับจำนำ ด้วยความหวังจะได้ราคาสูงตันละกว่า 10,000 บาท เทียบกับหากขายขณะนี้จะได้เพียงตันละ 8,000 - 9,000 บาทที่ความชื้นประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ แต่จากหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวเปลือกของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ไม่อนุญาตให้ชาวนาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนวันที่ 7 ตุลาคม สามารถนำเข้าโครงการฯได้ นั่นหมายความว่าชาวนาที่นำข้าวมาฝากไว้จะไม่สามารถนำข้าวเข้าโครงการรับจำนำได้ ชาวนาตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนดเพื่อป้องกันน้ำท่วม แม้ข้าวจะยังไม่สุกและมีความชื้นสูง ทำให้หลายคนกังวลว่าผลผลิตข้าวในปีนี้จะไม่เข้าหลักเกณฑ์ของโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่จะเปิดให้มีการจำนำข้าวในวันที่ 7 ตุลาคม จึงต้องการให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวโดยเฉพาะค่าความชื้นควรสูงกว่าร้อย 15 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม ขณะที่ผู้ประกอบการโรงสีตลาดกลางข้าวและโกดังกลางในจังหวัดบุรีรัมย์ยื่นความจำนงค์เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 22 แห่ง ล่าสุด การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจสอบเอาผิดผู้ประกอบการที่ทุจริตในโครงการ ทั้งเรื่องการปลอมปน และสวมสิทธิ์การรับจำนำข้าว เหลืออีกเพียง 3 วัน โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/2555 จะเริ่มขึ้น ด้วยความฝันที่ชาวนาจะได้เงินจากโครงการนี้ที่ตันละ 15,000 บาท แต่สำหรับ นเรศ ลาพังยะวิทย์ ชาวนา อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรียอมรับว่าแม้ราคารับจำนำจะสูงถึง 15,000 บาท แต่หมายถึงต้องเป็นข้าวเปลือกที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ ค้านกับสภาพความเป็นจริงที่ข้าวชาวนาส่วนใหญ่จะเกินกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ รัฐบาลกำหนดราคาจำนำข้าวตามชนิดข้าวที่ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 20,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ตันละ 15,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า 5 เปอร์เซ็นต์ตันละ 14,800 บาท และข้าวเปลือกเจ้า 10 เปอร์เซ็นต์ ตันละ 14,600 บาท ขณะที่ข้าวของชาวนาส่วนใหญ่เป็นข้าวเปลือกเจ้า 5 เปอร์เซ็นต์ และความชื้นเฉลี่ย 20-25 เปอร์เซ็นต์ หากชาวนานำข้าวมีความชื้น 20 เปอร์เซ็นต์ ไปขายจะได้ราคาตันละ 13,690 บาท, ความชื้น 25 เปอร์เซ็นต์ ตันละ 12,961 บาท, ความชื้น 30 เปอร์เซ็นต์ตันละ 10,581 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกเจ้า 100 เปอร์เซ็นต์ที่จะได้ถึงตันละ 15,000 บาทนั้นมีปลูกค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวพันธุ์ชัยนาท และจากเปอร์เซ็นต์ความชื้นจากสถานการณ์น้ำท่วมเวลานี้ ทำให้ชาวนาในตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด จึงต้องการให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะกำหนดความชื้นควรสูงกว่าร้อย 15 ในราคาที่ตันละ 15,000 บาท ไม่เพียงแต่ปัญหานี้มีชาวนาหลายรายนำข้าวที่เกี่ยวก่อนหน้านี้ มาฝากกับโรงสีในอำเภอศรีประจันต์เพื่อรอนำเข้าโครงการรับจำนำ ด้วยความหวังจะได้ราคาสูงตันละกว่า 10,000 บาท เทียบกับหากขายขณะนี้จะได้เพียงตันละ 8,000 - 9,000 บาทที่ความชื้นประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ แต่จากหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวเปลือกของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. ไม่อนุญาตให้ชาวนาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนวันที่ 7 ตุลาคม สามารถนำเข้าโครงการฯได้ นั่นหมายความว่าชาวนาที่นำข้าวมาฝากไว้จะไม่สามารถนำข้าวเข้าโครงการรับจำนำได้ ชาวนาตำบลโคกกรวด อำเภอเมืองนครราชสีมาเร่งเก็บเกี่ยวข้าวก่อนกำหนดเพื่อป้องกันน้ำท่วม แม้ข้าวจะยังไม่สุกและมีความชื้นสูง ทำให้หลายคนกังวลว่าผลผลิตข้าวในปีนี้จะไม่เข้าหลักเกณฑ์ของโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่จะเปิดให้มีการจำนำข้าวในวันที่ 7 ตุลาคม จึงต้องการให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์การรับจำนำข้าวโดยเฉพาะค่าความชื้นควรสูงกว่าร้อย 15 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม ขณะที่ผู้ประกอบการโรงสีตลาดกลางข้าวและโกดังกลางในจังหวัดบุรีรัมย์ยื่นความจำนงค์เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 22 แห่ง ล่าสุด การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจสอบเอาผิดผู้ประกอบการที่ทุจริตในโครงการ ทั้งเรื่องการปลอมปน และสวมสิทธิ์การรับจำนำข้าว
วันนี้ (22 ก.ค.2565) นายฉลวย กรรเจี่ยรจร อายุ 64 ปี ถูกตำรวจ สภ.เขาบางแกรก อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ล้อมจับไว้ได้ ขณะพยายามหลบหนี หลังใช้ปืนเอ็ม 16 กราดยิงเข้าไปในบ้านเลขที่ 116/1 หมู่ที่ 4 ต.ทุ่งโพ อ.หน