Home
|
หวย หน่อย

วันนี้ (10 ก.พ.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักฟุตบอ

หวย หน่อย

วันนี้ (30 ม.ค.2564) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่กรมบัญชีกลาง ได้มีการตรวจสอบพบว่ามีผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพคนชรา และเงินบำนาญไปพร้อมๆกันซึ่งซ้ำซ้อน

วันนี้ (20 ส.ค.2567) เฟซบุ๊กเพจ “พรรคไทยสร้างไทย” ระบุคณะกรรมการวินัยและจริยธรรม คณะกรรมการวินัยและจริยธรรม พรรคไทยสร้างไทย ลงดาบ สส.งูเห่าคนแรก ขับ "สุภาพร" พ้นพรรค ชี้พฤติกรรมขัดอุดมการณ์ของพรรคไทยส

วันนี้ (30 ม.ค.2564) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่กรมบัญชีกลาง ได้มีการตรวจสอบพบว่ามีผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพคนชรา และเงินบำนาญไปพร้อมๆกันซึ่งซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนกว่า 15,000 คนทั่วประเทศ ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2552 จึงมีหนังสือแจ้งไปยังกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อแจ้งให้ท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศตรวจสอบรายชื่อผู้สูงอายุในเขตอำนาจของตน เหวย หน่อยพื่อทวงคืนเงินทั้งหมดส่งกลับกรมบัญชีกลาง เพราะตามหลักกฎหมายถือว่า “เป็นลาภมิควรได้” จนกลายเป็นประเด็นปัญหาต่อผู้สูงอายุจำนวนมาก นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การมาเรียกเงินคืนจากผู้สูงอายุในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากตามหลักกฎหมายว่าด้วยเป็นลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 412 ระบุว่า “เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน” เท่านั้น และในมาตรา 419 ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “ในเรื่องลาภมิควรได้นั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ฝ่ายผู้เสียหายรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขึ้น” กรณีการจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุดังกล่าว เป็นการดำเนินการของรัฐบาลผู้เสียหาย คือ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2552 ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2552  หรือกว่า 11 ปี โดยกระทรวงการคลัง เริ่มมีการตรวจพบปัญหาความซ้ำซ้อนดังกล่าวมาตั้งแต่เดือน พ.ย.2562 และต่อมากรมบัญชีกลาง ก็ได้มีหนังสือแจ้งไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้แจ้งจังหวัด อำเภอและท้องถิ่นต่างๆ ในการทวงถามการขอเงินคืนไปยังผู้สูงอายุต่างๆที่รับเงินซ้ำซ้อนดังกล่าว ซึ่งอาจเกินระยะเวลา 10 ปีตามที่กฎหมายกำหนดไปแล้ว อ่านข่าวเพิ่ม โคราชผู้สูงอายุ 610 คน ถูกเรียกเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง นอกจากนั้นยังมีหลักฐานอีกว่านางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ก็ได้แถลงเองว่าเหตุผลที่เพิ่งมีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ทั้งที่การจ่ายเงินผู้สูงอายุเริ่มมาตั้งแต่ปี 2552 เพราะการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับกรมบัญชีกลาง เพิ่งการเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2563 อีกทั้งมีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 10850/2559 ระบุไว้ชัดเจนว่า “จำเลยได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญไว้ โดยสุจริตและนำไปใช้จ่ายหมดแล้วก่อนที่โจทก์จะเรียกคืน จำเลยจึงไม่ต้องคืนเงินดังกล่าวแก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 412” ดังนั้นการที่กรมบัญชีกลางเรียกคืนเงินดังกล่าว จึงใช้อำนาจกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้นเอง อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ผู้สูงอายุ 13 คนที่โคราช ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพย้อนหลัง คลังสั่งรื้อระเบียบการจ่ายเงินซ้ำซ้อน "เบี้ยสูงอายุ" หญิง 89 ปี ยันไม่เปิดรับบริจาค ขอผ่อน 20 เดือนคืนเบี้ยผู้สูงอายุ "อนุพงษ์" ยืนยันหาทางแก้จ่ายเงินซ้ำซ้อน "เงินบำนาญ-เบี้ยชรา"

ผบ.ตร.ยินดีญี่ปุ่นปล่อยตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเผยเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่อัยกา

วันนี้ (15 ส.ค.2565) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ พร้อมด้วยทนายความกองทัพธรรม ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจา

วันนี้ (22 พ.ค.2566) พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง เตรียมนำตัวนายศักดา อายุ 75 ปี ที่ใช้อาวุธปืนยิงน้อง

วันนี้ (30 ม.ค.2564) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่กรมบัญชีกลาง ได้มีการตรวจสอบพบว่ามีผู้สูงอายุรับเงินเบี้ยยังชีพคนชรา และเงินบำนาญไปพร้อมๆกันซึ่งซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนกว่า 15,000 คนทั่วประเทศ ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2552 จึงมีหนังสือแจ้งไปยังกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อแจ้งให้ท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศตรวจสอบรายชื่อผู้สูงอายุในเขตอำนาจของตน เหวย หน่อยพื่อทวงคืนเงินทั้งหมดส่งกลับกรมบัญชีกลาง เพราะตามหลักกฎหมายถือว่า “เป็นลาภมิควรได้” จนกลายเป็นประเด็นปัญหาต่อผู้สูงอายุจำนวนมาก นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การมาเรียกเงินคืนจากผู้สูงอายุในขณะนี้ ถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เนื่องจากตามหลักกฎหมายว่าด้วยเป็นลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 412 ระบุว่า “เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน” เท่านั้น และในมาตรา 419 ก็บัญญัติไว้ชัดเจนว่า “ในเรื่องลาภมิควรได้นั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ฝ่ายผู้เสียหายรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขึ้น” กรณีการจ่ายเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุดังกล่าว เป็นการดำเนินการของรัฐบาลผู้เสียหาย คือ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เริ่มมีระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2552 ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.2552  หรือกว่า 11 ปี โดยกระทรวงการคลัง เริ่มมีการตรวจพบปัญหาความซ้ำซ้อนดังกล่าวมาตั้งแต่เดือน พ.ย.2562 และต่อมากรมบัญชีกลาง ก็ได้มีหนังสือแจ้งไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นให้แจ้งจังหวัด อำเภอและท้องถิ่นต่างๆ ในการทวงถามการขอเงินคืนไปยังผู้สูงอายุต่างๆที่รับเงินซ้ำซ้อนดังกล่าว ซึ่งอาจเกินระยะเวลา 10 ปีตามที่กฎหมายกำหนดไปแล้ว อ่านข่าวเพิ่ม โคราชผู้สูงอายุ 610 คน ถูกเรียกเบี้ยยังชีพคืนย้อนหลัง นอกจากนั้นยังมีหลักฐานอีกว่านางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ก็ได้แถลงเองว่าเหตุผลที่เพิ่งมีการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ทั้งที่การจ่ายเงินผู้สูงอายุเริ่มมาตั้งแต่ปี 2552 เพราะการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับกรมบัญชีกลาง เพิ่งการเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์เมื่อปี 2563 อีกทั้งมีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ 10850/2559 ระบุไว้ชัดเจนว่า “จำเลยได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญไว้ โดยสุจริตและนำไปใช้จ่ายหมดแล้วก่อนที่โจทก์จะเรียกคืน จำเลยจึงไม่ต้องคืนเงินดังกล่าวแก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 412” ดังนั้นการที่กรมบัญชีกลางเรียกคืนเงินดังกล่าว จึงใช้อำนาจกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมายนั้นเอง อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ผู้สูงอายุ 13 คนที่โคราช ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพย้อนหลัง คลังสั่งรื้อระเบียบการจ่ายเงินซ้ำซ้อน "เบี้ยสูงอายุ" หญิง 89 ปี ยันไม่เปิดรับบริจาค ขอผ่อน 20 เดือนคืนเบี้ยผู้สูงอายุ "อนุพงษ์" ยืนยันหาทางแก้จ่ายเงินซ้ำซ้อน "เงินบำนาญ-เบี้ยชรา"

วันนี้ (24 ต.ค.2566) กรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัด “โครงการ C