วันนี้ (3 ก.ย.2567) ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชา

ผู้ใช้ Tiktok บัญชี @jaybro238 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 2.30 นาที เป็นบรรยากาศงานมงคลสมรส ซึ่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาววิดีโอคอลเข้ามาภายในงานผ่านหน้าจอโปรเจ็กเตอร์ ท่ามกลางแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งภายในงานดำเ
วันนี้ (7 มิ.ย.2568) เวลา 11.39 น.พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 806/2568 เรื่อง ควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยที่ปรากฏว่าในห้วงเว
วันนี้ (7 มิ.ย.2568) เวลา 11.39 น.พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 806/2568 เรื่อง ควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยที่ปรากฏว่าในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพลเรือนและกําลังติดอาวุธของฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ข้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง และแสดงท่าทีที่พยายามให้เกิดความเข้าใจว่าพื้นที่ตนรุกล้ำเข้ามานั้นเป็นของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงเคารพธงชาติ การติดอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ทั้งที่ชัดเจนว่าดินแดนที่รุกล้ำเข้ามานั้นเป็นของราชอาณาจักรไทยโดยสมบูรณ์ กองทัพบกได้สั่งการให้กําลังพลเข้าระงับเหตุ โดยการเจรจาชี้แจงเหตุผลให้ทราบและผลักดันให้บุคคลดังกล่าวออกไปเสียให้พ้นจากราชอาณาจักรไทยตามหลักสันติวิธี และด้วยความอดทน อดกลั่นต่อการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม แต่พลเรือนและกําลังติดอาวุธของฝ่ายกัมพูชาก็ยังพยายามที่จะรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักร และแสดงท่าทียั่วยุโดยไม่หยุดยั้งและอย่างเปิดเผย เกิดความตึงเครียดขึ้นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และต่อประชาชนของทั้งสองประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน จนกระทั่งมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่กองทัพบกต้องใช้มาตรการเข้มข้น ในการผลักดันผู้รุกรานให้พ้นไปเสียจากราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะที่บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ผลประโยชน์ของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนที่ไม่อาจยอมรับได้ แม้รัฐบาลไทยและกองทัพบก จะได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับยับยั่งความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกที่มีตามที่ตกลงกันไว้กับกัมพูชา แต่ความพยายามดังกล่าวกลับไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝ่ายกัมพูชา ทั้งยังปรากฏด้วยว่ากัมพูชาได้เสริมกําลังพลและอาวุธและยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอีกเป็นจํานวนมาก มีการจัดทําที่มั่นสําหรับวางกําลังทางทหาร อันแสดงให้เห็นถึงความไม่ร่วมมือกับประเทศไทยที่มุ่งหมายจะระงับความตึงเครียดดังกล่าวโดยสันติ และเป็นพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องบนสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงวันที่ 24 ก.พ.2519 (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia, 24 February 1976) ความตึงเครียดและการเสริมกําลังพลและอาวุธยุทธโธปกรณ์ แสดงให้เห็นความตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะใช้กำลัง เช่นนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจยอมรับได้และเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อธิปไตย และความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย และกระทบต่อความเป็นอยู่โดยปกติสุขของพี่น้องชาวไทยและกัมพูชาที่อยู่อาศัยร่วมกันอย่างสันติตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาช้านาน อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังคงยึดมั่นหลัการอยู่ด้วยกันอย่างสันติ และแสวงหาหนทางระงับยับยังความตึงเครียดด้วยการเจรจากันด้วยเหตุผล ภายใต้หลักการที่ต้องดูแลพี่น้อง ประชาชนชาวไทยและกัมพูชาไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรจากความตึงเครียดนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สภาความมั่นคงแห่งชาติ ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2568 จึงได้มอบหมายให้กองทัพบกดําเนินการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ กับมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามที่กองทัพบกกําหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้ด้าเนินการเป็นไปตามที่ได้รับมอบหมายจากสภาความมั่นคงแห่งชาติดังกล่าว กองทัพบก จึงกําหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดังต่อไปนี้ กองทัพภาคที่ 1 โดยผู้บัญชาการกองกําลังบูรพา และกองทัพภาคที่ 2 โดยผู้บัญชาการกองกําลังสุรนารี มีอำนาจกําหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่จําเป็นและเหมาะสมในการผ่านแดนบริเวณจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยคํานึงถึงความจําเป็นในการทํามาค้าขายและความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีความจําเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย ให้มีอำนาจกําหนดให้เปิดหรือปิดจุดผ่านแดนแห่งใดแห่งหนึ่ง หรือทุกแห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้เงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาใดตามที่เหมาะสมก็ได้ อ่านข่าว : "อันวาร์" สายตรงไทย-กัมพูชา ขอลดตึงเครียดชายแดนเจรจาสันติวิธี ภูมิธรรมลั่น! ไทยไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตยแม้แต่ก้าวเดียว ทคา สิ โน ฝาก ขั้น ต่ำ 100ี่ประชุมเหล่าทัพ แสดงเจตนารมณ์หนุน "กองทัพบก" ปกป้องอธิปไตย
วันนี้ (22 มิ.ย.2567) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงประเด็นที่มีการเผยแพร่ในโลกอ
วันนี้ (16 ส.ค.2565) น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หรือมาดามเดียร์ โพสต์เฟซบุ๊ก เดี
วันนี้ (16 เม.ย.2565) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื
วันนี้ (7 มิ.ย.2568) เวลา 11.39 น.พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 806/2568 เรื่อง ควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยที่ปรากฏว่าในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยพลเรือนและกําลังติดอาวุธของฝ่ายกัมพูชาได้รุกล้ำแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ข้ามเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง และแสดงท่าทีที่พยายามให้เกิดความเข้าใจว่าพื้นที่ตนรุกล้ำเข้ามานั้นเป็นของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงเคารพธงชาติ การติดอาวุธเข้ามาในพื้นที่ ทั้งที่ชัดเจนว่าดินแดนที่รุกล้ำเข้ามานั้นเป็นของราชอาณาจักรไทยโดยสมบูรณ์ กองทัพบกได้สั่งการให้กําลังพลเข้าระงับเหตุ โดยการเจรจาชี้แจงเหตุผลให้ทราบและผลักดันให้บุคคลดังกล่าวออกไปเสียให้พ้นจากราชอาณาจักรไทยตามหลักสันติวิธี และด้วยความอดทน อดกลั่นต่อการยั่วยุของฝ่ายตรงข้าม แต่พลเรือนและกําลังติดอาวุธของฝ่ายกัมพูชาก็ยังพยายามที่จะรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักร และแสดงท่าทียั่วยุโดยไม่หยุดยั้งและอย่างเปิดเผย เกิดความตึงเครียดขึ้นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และต่อประชาชนของทั้งสองประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน จนกระทั่งมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่กองทัพบกต้องใช้มาตรการเข้มข้น ในการผลักดันผู้รุกรานให้พ้นไปเสียจากราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะที่บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ ผลประโยชน์ของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนที่ไม่อาจยอมรับได้ แม้รัฐบาลไทยและกองทัพบก จะได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับยับยั่งความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกที่มีตามที่ตกลงกันไว้กับกัมพูชา แต่ความพยายามดังกล่าวกลับไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝ่ายกัมพูชา ทั้งยังปรากฏด้วยว่ากัมพูชาได้เสริมกําลังพลและอาวุธและยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอีกเป็นจํานวนมาก มีการจัดทําที่มั่นสําหรับวางกําลังทางทหาร อันแสดงให้เห็นถึงความไม่ร่วมมือกับประเทศไทยที่มุ่งหมายจะระงับความตึงเครียดดังกล่าวโดยสันติ และเป็นพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องบนสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงวันที่ 24 ก.พ.2519 (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia, 24 February 1976) ความตึงเครียดและการเสริมกําลังพลและอาวุธยุทธโธปกรณ์ แสดงให้เห็นความตั้งใจอย่างชัดเจนที่จะใช้กำลัง เช่นนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจยอมรับได้และเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อธิปไตย และความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย และกระทบต่อความเป็นอยู่โดยปกติสุขของพี่น้องชาวไทยและกัมพูชาที่อยู่อาศัยร่วมกันอย่างสันติตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาช้านาน อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังคงยึดมั่นหลัการอยู่ด้วยกันอย่างสันติ และแสวงหาหนทางระงับยับยังความตึงเครียดด้วยการเจรจากันด้วยเหตุผล ภายใต้หลักการที่ต้องดูแลพี่น้อง ประชาชนชาวไทยและกัมพูชาไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรจากความตึงเครียดนั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น สภาความมั่นคงแห่งชาติ ในการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2568 จึงได้มอบหมายให้กองทัพบกดําเนินการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ กับมอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามที่กองทัพบกกําหนดโดยเคร่งครัด เพื่อให้ด้าเนินการเป็นไปตามที่ได้รับมอบหมายจากสภาความมั่นคงแห่งชาติดังกล่าว กองทัพบก จึงกําหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ดังต่อไปนี้ กองทัพภาคที่ 1 โดยผู้บัญชาการกองกําลังบูรพา และกองทัพภาคที่ 2 โดยผู้บัญชาการกองกําลังสุรนารี มีอำนาจกําหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่จําเป็นและเหมาะสมในการผ่านแดนบริเวณจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยคํานึงถึงความจําเป็นในการทํามาค้าขายและความเป็นอยู่ของประชาชนของทั้งสองประเทศที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีความจําเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย ให้มีอำนาจกําหนดให้เปิดหรือปิดจุดผ่านแดนแห่งใดแห่งหนึ่ง หรือทุกแห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ภายใต้เงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาใดตามที่เหมาะสมก็ได้ อ่านข่าว : "อันวาร์" สายตรงไทย-กัมพูชา ขอลดตึงเครียดชายแดนเจรจาสันติวิธี ภูมิธรรมลั่น! ไทยไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตยแม้แต่ก้าวเดียว ทคา สิ โน ฝาก ขั้น ต่ำ 100ี่ประชุมเหล่าทัพ แสดงเจตนารมณ์หนุน "กองทัพบก" ปกป้องอธิปไตย
วางฉากเขียว จัดไฟ เตรียมกล้องพร้อมเลนส์ โชว์ภาพถ่ายขึ้นหน้าจอโปรเจ็กเตอร์ เหมือนอยู่ในสตูดิโอ แต่นี่