วันนี้ (27 พ.ค.2564) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเช

วันนี้ (31 ต.ค.2564) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงเตรียมความพร้อมรับมือการนัดชุมนุมทางการเมือง ของกลุ่มราษฎรและกลุ่มแนวร่วมฯ ที่แยกราชประสงค์ โดยคาดว่าจะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่
วันนี้ (24 เม.ย.2564) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้เราได้เชิญคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร มาประชุมวาระพิเศษ หลังจากพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานครเพิ่มข
วันนี้ (12 พ.ค.2564) กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีมีสื่อตั้งข้อสงสัยว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในเรือนจำได้อย่างไร และมีการปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์การรักษาผู้ติดเชื้อหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 มีการกระจายเป็นวงกว้างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเรือนจำและทัณฑสถานที่ต้องรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และนำผู้ต้องขังออกศาลอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำได้ อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการเชิงรุก คือ แยกกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างน้อย 21 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ครั้ง ก่อนผู้ต้องขังพ้นระยะแยกกักโรค ซึ่งการตรวจพบการติดเชื้อของผู้ต้องขังที่ผ่านมา ถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ สำหรับผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อจะได้รับการรักษาโดยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งในโรงพยาบาลสนามเรือนจำ และโรงพยาบาลแม่ข่าย ตามลักษณะอาการป่วยของแต่ละคน กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เรือนจำทัณฑสถานทุกสิงคโปร์ ลีก วิเคราะห์แห่งมีมาตรการอย่างเคร่งครัด เพราะมีการควบคุมบับเบิ้ล แอนด์ ซีล เช่น กรณีเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อก็สามารถดูแลรักษาจนหาย และไม่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในเรือนจำอีก กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจเชิงรุก เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง100% ซึ่งได้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่พบการติดเชื้อ ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงกลาง มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,040 คน และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,795 คน ซึ่งทุกคนอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากในบางคนมีอาการหนักจะได้มีการย้ายออก เพื่อรับการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก เชื่อว่ามาตรฐานการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ ไม่ขยายตัวไปสู่วงกว้าง เวลานี้ได้มีแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และการให้ยารักษาและการดูแลทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของสาธารณสุข รวมทั้งมีการวางแผนเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เชิงรุกในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ซึ่งในส่วนของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ตรวจคัดกรองเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ไปแล้วกว่า 17,000 ครั้ง ทำให้คัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้รวดเร็ว สามารถแยกผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงออกมากักตัวเพื่อสังเกตอาการได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาช่วยดูแลและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ข่าวที่เกี่ยวข้อง 7 นักโทษทางการเมืองติด COVID-19 ในเรือนจำ กางสถิติ! โควิด "เรือนจำ" ทั่วโลกเกิน 8 แสน ไทยพบติดเชื้อ 357 คน
Nikkei Asia อ้างบทวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป ประเมินว่า ไทยจะกลายเป็นศูนย์ กลางการพนันใหญ่ อันดับ 3 ของโ
วันนี้ (31 ธ.ค.2567) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้
เจ้าของโครงการคือ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ส่วนผู้ออกแบบ คือ สำนักงานวิศวกรรมทาง สำนักการโยธา สัญญ
วันนี้ (12 พ.ค.2564) กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีมีสื่อตั้งข้อสงสัยว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในเรือนจำได้อย่างไร และมีการปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์การรักษาผู้ติดเชื้อหรือไม่ กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 มีการกระจายเป็นวงกว้างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงเรือนจำและทัณฑสถานที่ต้องรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ และนำผู้ต้องขังออกศาลอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำได้ อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ด้วยมาตรการเชิงรุก คือ แยกกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างน้อย 21 วัน พร้อมตรวจหาเชื้อ COVID-19 จำนวน 2 ครั้ง ก่อนผู้ต้องขังพ้นระยะแยกกักโรค ซึ่งการตรวจพบการติดเชื้อของผู้ต้องขังที่ผ่านมา ถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ สำหรับผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อจะได้รับการรักษาโดยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งในโรงพยาบาลสนามเรือนจำ และโรงพยาบาลแม่ข่าย ตามลักษณะอาการป่วยของแต่ละคน กรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เรือนจำทัณฑสถานทุกสิงคโปร์ ลีก วิเคราะห์แห่งมีมาตรการอย่างเคร่งครัด เพราะมีการควบคุมบับเบิ้ล แอนด์ ซีล เช่น กรณีเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อก็สามารถดูแลรักษาจนหาย และไม่มียอดผู้ติดเชื้ออยู่ในเรือนจำอีก กรมราชทัณฑ์ได้ตรวจเชิงรุก เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง100% ซึ่งได้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่พบการติดเชื้อ ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงกลาง มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,040 คน และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มียอดผู้ติดเชื้อรวม 1,795 คน ซึ่งทุกคนอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ หากในบางคนมีอาการหนักจะได้มีการย้ายออก เพื่อรับการรักษายังโรงพยาบาลภายนอก เชื่อว่ามาตรฐานการดำเนินการของกรมราชทัณฑ์กับกระทรวงสาธารณสุข จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ได้ ไม่ขยายตัวไปสู่วงกว้าง เวลานี้ได้มีแดนกักโรคและโรงพยาบาลสนาม โดยมีแพทย์และพยาบาลดูแลอย่างใกล้ชิด และการให้ยารักษาและการดูแลทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานของสาธารณสุข รวมทั้งมีการวางแผนเพื่อฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ COVID-19 เชิงรุกในเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง ซึ่งในส่วนของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้ตรวจคัดกรองเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ไปแล้วกว่า 17,000 ครั้ง ทำให้คัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้รวดเร็ว สามารถแยกผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงออกมากักตัวเพื่อสังเกตอาการได้เป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบคุณกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาช่วยดูแลและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี ข่าวที่เกี่ยวข้อง 7 นักโทษทางการเมืองติด COVID-19 ในเรือนจำ กางสถิติ! โควิด "เรือนจำ" ทั่วโลกเกิน 8 แสน ไทยพบติดเชื้อ 357 คน
วันนี้ (12 พ.ค.2564) กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์ชี้แจง กรณีมีสื่อตั้งข้อสงสัยว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อ