วันนี้ (25 พ.ย.2565) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ

วันนี้ (13 เม.ย.2567) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลการสอบข้อเท็จจริง ตามที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 10
วันนี้ (30 ธ.ค.2565) ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 29 ธ.ค.2565 เกิดอุบัติเหตุ 349 ครั้ง ผู้บาด
วันนี้ (5 เม.ย.2566) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม อ้างว่า เป็นตัวเเทนได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ให้นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ ร.ต.อ.ภานุรุจ ลิ้มสังกาศ ลูกชาย กับพวก 4 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันลักของโจร, ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารรตรวจ ฉลาก 16าชการอันเป็นเท็จ นายอัจฉริยะ อ้างอดีต ผกก.โจ้ ได้เปิดเผยกับตนว่า เมื่อปี 2564 พล.ต.ต.เอกรักษ์ ซึ่งเป็น รอง ผบช.ภ.6. ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดีนี้และเป็นคนไปรับตัว อดีต ผกก.โจ้ รับปากจะหาทนายและจัดการทุกอย่างให้ แต่พออดีต ผกก.โจ้เข้าเรือนจำไป พล.ต.ต.เอกรักษ์ กับลูกชายก็ร่วมกันปลอมเอกสารเพื่อลักรถทั้งหมดไปขายต่อเพราะเห็นว่าด้วยอัตราโทษอดีต ผกก.โจ้ ไม่น่าจะได้ออกมาจากเรือนจำโดยง่ายซึ่งมีรถยนต์ทั้งหมด 13 คัน มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท นายอัจฉริยะ ยังอ้างข้อมูลว่า กรณีนี้ยังมีทนายความของอดีต ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องโดยได้หลอกให้น้องสาวของอดีต ผกก.โจ้ เซ็นเอกสารรับรองทำสัญญาซื้อขาย ซึ่งภายหลังน้องสาวได้เข้าไปสอบถาม อดีต ผกก.โจ้ ในเรือนจำจึงทราบว่าไม่มีเจตนาขายรถจึงไปขอเอกสารคืน แต่ทนายความแจ้งว่าได้ส่งเอกสารให้ ร.ต.อ.ภานุรุจ ลิ้มสังกาศ รอง สว. สอบสวน สน.ทองหล่อ หรือ เบิร์ด ลูกชายของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ นายอัจฉริยะ ยังได้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการเซ็นโอนขายรถยนต์ และเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนชื่อผู้ครอบครองรถของ อดีต ผกก.โจ้ ซึ่งเป็นชื่อของลูกชาย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ซึ่งอ้างว่า ทั้งหมดเป็นเอกสารที่มีการปลอมแปลงขึ้นมา พร้อมเปิดเผยรูปภาพจากเฟซบุ๊กของลูกชาย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ที่มีการโพสต์ขายรถของ อดีต ผกก.โจ้ โดยมีการนำป้ายทะเบียนอื่นมาสวมอีกด้วย ทั้งนี้ หลังนายอัจฉริยะ เข้าแจ้งความทีมข่าวได้สอบถาม ไปยัง พล.ต.ต.เอกรักษ์ ได้รับการชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกลับนายอัจฉริยะด้วย
วันนี้ (11 มี.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 1 เดือนครึ่งเท่านั้น สำหรับการแข่งขั
หลังจาก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ริเริ่มแนวคิดคัดสรรนักเรียน ที่มีผลการเรียนใน
วันนี้ (5 เม.ย.2566) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบัง
วันนี้ (5 เม.ย.2566) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม อ้างว่า เป็นตัวเเทนได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ให้นำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดี พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ ร.ต.อ.ภานุรุจ ลิ้มสังกาศ ลูกชาย กับพวก 4 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันลักของโจร, ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารรตรวจ ฉลาก 16าชการอันเป็นเท็จ นายอัจฉริยะ อ้างอดีต ผกก.โจ้ ได้เปิดเผยกับตนว่า เมื่อปี 2564 พล.ต.ต.เอกรักษ์ ซึ่งเป็น รอง ผบช.ภ.6. ซึ่งรับผิดชอบดูแลคดีนี้และเป็นคนไปรับตัว อดีต ผกก.โจ้ รับปากจะหาทนายและจัดการทุกอย่างให้ แต่พออดีต ผกก.โจ้เข้าเรือนจำไป พล.ต.ต.เอกรักษ์ กับลูกชายก็ร่วมกันปลอมเอกสารเพื่อลักรถทั้งหมดไปขายต่อเพราะเห็นว่าด้วยอัตราโทษอดีต ผกก.โจ้ ไม่น่าจะได้ออกมาจากเรือนจำโดยง่ายซึ่งมีรถยนต์ทั้งหมด 13 คัน มูลค่ากว่า 25 ล้านบาท นายอัจฉริยะ ยังอ้างข้อมูลว่า กรณีนี้ยังมีทนายความของอดีต ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องโดยได้หลอกให้น้องสาวของอดีต ผกก.โจ้ เซ็นเอกสารรับรองทำสัญญาซื้อขาย ซึ่งภายหลังน้องสาวได้เข้าไปสอบถาม อดีต ผกก.โจ้ ในเรือนจำจึงทราบว่าไม่มีเจตนาขายรถจึงไปขอเอกสารคืน แต่ทนายความแจ้งว่าได้ส่งเอกสารให้ ร.ต.อ.ภานุรุจ ลิ้มสังกาศ รอง สว. สอบสวน สน.ทองหล่อ หรือ เบิร์ด ลูกชายของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ นายอัจฉริยะ ยังได้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการเซ็นโอนขายรถยนต์ และเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนชื่อผู้ครอบครองรถของ อดีต ผกก.โจ้ ซึ่งเป็นชื่อของลูกชาย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ซึ่งอ้างว่า ทั้งหมดเป็นเอกสารที่มีการปลอมแปลงขึ้นมา พร้อมเปิดเผยรูปภาพจากเฟซบุ๊กของลูกชาย พล.ต.ต.เอกรักษ์ ที่มีการโพสต์ขายรถของ อดีต ผกก.โจ้ โดยมีการนำป้ายทะเบียนอื่นมาสวมอีกด้วย ทั้งนี้ หลังนายอัจฉริยะ เข้าแจ้งความทีมข่าวได้สอบถาม ไปยัง พล.ต.ต.เอกรักษ์ ได้รับการชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นความจริง พร้อมเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกลับนายอัจฉริยะด้วย
วันนี้ (21 มี.ค.2565) น.ส.กัญญลักษณ์ ปิติชัยมงคล ในฐานะแอดมินกลุ่มคดีแตงโมต้องได้รับความยุติธรรม นำเ