วันนี้ (11 พ.ค.2567) น.ส.เพชรปวีณ์  อดีตนางงาม เข้
4 สิงหาคม 2025 - 17:41
วันนี้ (13 ม.ค.2565) เวลา 07.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่จ
4 สิงหาคม 2025 - 17:41

วันนี้ ( 2 ก.ย.66) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ควบคุมตัว น.ส.สิริรัตน์ อายุ 23 ปี หลังพบว่า ลักลอบรับซื้อขายบัญชีเงินฝาก บัตร ATM ของผู้อื่น หรือ บัญชีม้า เพื่อนำไปขายต่อทางออนไลน์ โ

ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูง การมีระบบประกันสุขภาพที่เหมาะสมกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนในประเทศไทย ปี 2568 ประเทศไทยมีระบบประกันสุขภาพหลัก 4 ระบบ ได้แก่ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง), ประกันสั

ในยุคที่ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูง การมีระบบประกันสุขภาพที่เหมาะสมกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนในประเทศไทย ปี 2568 ประเทศไทยมีระบบประกันสุขภาพหลัก 4 ระบบ ได้แก่ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง), ประกันสังคม, สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ และประกันสุขภาพเอกชน แต่ละระบบมีลักษณะเฉพาะตัว ตั้งแต่การเข้าถึง การครอบคลุม ไปจนถึงค่าใช้จ่าย ซึ่งส่งผลต่อการวางแผนสุขภาพและการเงินในระยะยาว บัตรทอง หรือชื่อทางการว่า "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" เป็นระบบที่บริหารโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ครอบคลุมประชากรถึง 49.8 ล้านคน หรือ ร้อยละ 74 ของประชากรไทย เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2545 และพัฒนามาเป็น "30 บาทรักษาทุกที่" ในปี 2568 ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิทั่วประเทศโดยใช้เพียงบัตรประชาชน ระบบนี้ได้รับงบประมาณจากภาษีทั่วไป ผู้ใช้แทบไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว ช่วยลดภาระทางการเงินจาก ร้อยละ 27 ในปี 2545 เหลือเพียง ร้อยละ 12 ในปี 2566 "บัตรทอง" ครอบคลุมการรักษาทั่วไป การผ่าตัดใหญ่ กรณีฉุกเฉิน การคัดกรองมะเร็ง 6 รายการ และการทำฟันฟรี 3 ครั้ง/ปี นอกจากนี้ยังมีบริการดิจิทัล เช่น การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) การส่งยาถึงบ้าน และระบบ Health ID เพื่อเพิ่มความสะดวก ระบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ฟรีแลนซ์ หรือผู้ที่ไม่มีประกันอื่น เนื่องจากเข้าถึงง่ายและลดความเสี่ยงจากค่ารักษาพยาบาลมหาศาล อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในพื้นที่ห่างไกลอาจเจอปัญหาคุณภาพบริการที่ไม่สม่ำเสมอ หรือต้องรอคิวนานในโรงพยาบาลรัฐ รวมถึงการรักษาบางประเภท เช่น การผ่าตัดที่ไม่จำเป็น อาจไม่ได้รับความครอบคลุม ประฝาก ขั้น ต่ำ 10กันสังคม บริหารโดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ครอบคลุมพนักงานเอกชน 11.2 ล้านคน หรือ ร้อยละ 17 ของประชากร เริ่มตั้งแต่ปี 2533 ระบบนี้ใช้เงินสมทบจากนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐในรูปแบบไตรภาคี ผู้ประกันตนไม่ต้องจ่ายค่ารักษาเพิ่มเติมหากใช้บริการในโรงพยาบาลที่ลงทะเบียนไว้ สิทธิประโยชน์ครอบคลุมการรักษาทั่วไป กรณีฉุกเฉิน ทันตกรรม (วงเงิน 900 บาท/ปี) และการคลอดบุตร นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการพิเศษ เช่น เงินทดแทนการขาดรายได้ เงินชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีว่างงาน ประกันสังคมเหมาะกับพนักงานบริษัทที่ต้องการสวัสดิการครบวงจร โดยเฉพาะผู้ที่มีนายจ้างช่วยจ่ายเงินสมทบ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกันตนต้องเลือกโรงพยาบาลในเครือข่ายล่วงหน้าและเปลี่ยนได้เพียงปีละครั้ง คุณภาพโรงพยาบาลในเครือข่ายอาจแตกต่างกัน และวงเงินสำหรับทันตกรรมหรือการรักษาบางอย่างค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับระบบอื่น เช่น บัตรทองที่ให้สิทธิทำฟันฟรี 3 ครั้ง/ปี ผู้ใช้จึงอาจต้องพิจารณาประกันเสริมสำหรับการรักษาเฉพาะทาง สวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ (CSMBS) บริหารโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ครอบคลุมข้าราชการและครอบครัว 6,000,000 คน หรือ ร้อยละ 9 ของประชากร เริ่มตั้งแต่ปี 2523 ระบบนี้ได้รับงบประมาณจากภาษีทั่วไปสูงสุดในบรรดาทั้ง 4 ระบบ ผู้ใช้ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาในโรงพยาบาลรัฐ และอาจมีค่าใช้จ่ายบางส่วนในโรงพยาบาลเอกชน สิทธิประโยชน์ครอบคลุมการรักษาทุกประเภท รวมถึงยานอกบัญชียาหลัก และสามารถใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนได้ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อโรงพยาบาลรัฐให้บริการไม่เพียงพอ สิทธิยังขยายถึงครอบครัว เช่น คู่สมรส พ่อแม่ และบุตรอายุต่ำกว่า 20 ปี ระบบนี้ให้คุณภาพการรักษาสูงและเข้าถึงโรงพยาบาลชั้นนำได้ง่าย เหมาะสำหรับข้าราชการและครอบครัวที่ต้องการการดูแลระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม งบประมาณที่สูงกว่าระบบอื่นถึง 4 เท่า สร้างความเหลื่อมล้ำในระบบสาธารณสุข การบริหารที่ใช้ระบบ Fee-for-Service อาจขาดประสิทธิภาพ และผู้ใช้บางรายอาจต้องสำรองจ่ายในกรณีรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ประกันสุขภาพเอกชน บริหารโดยบริษัทประกัน ตอบโจทย์ผู้ที่มีกำลังซื้อและต้องการความสะดวกสบาย เบี้ยประกันเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-100,000 บาท/ปี ขึ้นอยู่กับแผนและความครอบคลุม ผู้ใช้สามารถเลือกโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำทั่วประเทศ ครอบคลุมการรักษาเฉพาะทาง เช่น การรักษามะเร็งหรือการผ่าตัดซับซ้อน พร้อมบริการเสริม เช่น ห้องพักส่วนตัวหรือการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ระบบนี้เหมาะกับผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง ชาวต่างชาติ หรือผู้ที่ต้องการรอคิวสั้นและบริการรวดเร็ว ข้อดีของประกันเอกชนคือความยืดหยุ่นในการปรับแต่งแผนตามความต้องการและคุณภาพบริการที่สูง อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันที่แพงขึ้นตามอายุอาจเป็นภาระในระยะยาว โรคประจำตัวที่มีมาก่อนทำประกันอาจไม่ได้รับความครอบคลุม และบางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบ การวางแผนการเงินระยะยาวจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เลือกใช้ระบบนี้ ด้านสุขภาพ ด้านการวางแผนการเงิน ด้านความยั่งยืน สำหรับผู้มีรายได้น้อย บัตรทองเป็นตัวเลือกหลัก ควรลงทะเบียนหน่วยบริการใกล้บ้านและมีกองทุนฉุกเฉินสำรอง พนักงานเอกชนควรใช้ประกันสังคมเป็นฐาน และพิจารณาประกันเอกชนวงเงินต่ำเพื่อเพิ่มความคุ้มครอง ข้าราชการควรใช้สวัสดิการที่มีอยู่ให้เต็มที่ แต่ระวังค่าใช้จ่ายนอกระบบ ผู้มีรายได้สูงหรือชาวต่างชาติควรเลือกประกันเอกชนที่ครอบคลุมโรงพยาบาลชั้นนำ และตรวจสอบเงื่อนไขเกี่ยวกับโรคเรื้อรัง แต่ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มใด การออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพประจำปี และวางแผนการเงินระยะยาว จะช่วยให้รับมือค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในวัยเกษียณได้อย่างมั่นใจ ที่มา : สปสช., กระทรวงการคลัง, สำนักงานประกันสังคม อ่านข่าวอื่น : ศุลกากรมุมไบช็อก! ชายอินเดียซุก 47 งูพิษจากไทยในสัมภาระ ฝ่ายต่อต้านบุกยึดฐานทหารเมียนมา มีผู้อพยพเข้าไทย 500 คน

เหตุคานสะพานกลับรถตกลงบนถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และ บาดเจ็บ 2 คน บนถนนพระรามที่ 2 ถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุด ที่เกิดขึ้นบนถนนพระราม 2 หรือ ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม 2 หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35

วันนี้ (28 ส.ค.2567) เวลา 05.09 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) "บิว" ภูริพล บุญสอน นักกีฬากรีฑาทีมชาติไทย เ