Home
|
ทาง เข้า เว็บ 88

วันนี้ (29 มี.ค.2566) สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที

ทาง เข้า เว็บ 88

จากกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขได้ผลักดัน นโยบายผลักดันให้โรงพยาบาลใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบันบางรายการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้งนี้ในสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการตั้งข้อสังเกตถึงการใช้

จากกรณีเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า เรื่องเล่าจากแพทย์หญิงไทยถูกชายต่างชาติชาวสวิสทำร้ายบนผืนดินไทย พร้อมนำข้อความจากลูกสาวตนเองที่เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลเอกชนในพ

วันนี้ (14 พ.ค.2564) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ออกแถลงการณ์คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 11/2564 เรื่อง ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงในการรับบริการฉีดวัคซีน จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์เรื่องการป้องกันระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ทำการประเมินตนเอง และแสดงความจำนงต่อการรับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งสำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีช่องทางการดำเนินงานได้แก่ 1) ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม. เคาะประตูบ้าน 2) ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ QR code BURIRAM IC หรือ 3) แสดงความจำนงผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนโควิด-19 ในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน ซึ่งเป็นระบบที่ทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการเพื่อปรับให้เหมาะสมกับการลงทะเบียนและการให้บริการวัคซีนของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการให้ อสม. เคาะประตูบ้านเพื่อสอบถามข้อมูลความต้องการที่เป็นจริง แล้วเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำเข้าในฐานข้อมูลระบบ BURIRAM IC เพื่อจัดกลุ่มให้บริการตามนโยบาย ลดติดเชื้อ ลดตายในกลุ่มเสี่ยงให้เหมาะสมกับการป้องกันการระบาดและการเสียชีวิตให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลังดำเนินการ ได้มีประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มีข้อมูลผู้ลงทะเบียนในระบบ BURIRAM IC แล้วทั้งสิ้น 355,287 ราย โดยแสดงความจำนงต้องการรับฉีดวัคซีนเบื้องต้น ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 จำนวน 214,970 ราย ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลนำเข้าระบบ MOPH IC ของกระทรวงสาธารณสุข ในการวางแผนการฉีดวัคซีนของจังหวัดบุรีรัมย์ในลำดับถัดไป ขอให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประเมินตนเอง และแสดงความจำนงต่อการรับวัคซีนโควิด-19 ตามช่องทางที่กำหนดไว้ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ต่อไป ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.2564 คณะกรรมการโรคติดต่อฯ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 13/2564 เรื่อง การป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พ.ศ.2564 ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ในประเทศไทย และหลายจังหวัด ยังคงมีอัตราป่วยและอัตราป่วยตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 22 (7) มาตรา 34 (2) และมาตรา 45 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ข้อ 6 (1) ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 7 (1) ของกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ในคราวประชุม ครั้งที่ 21/2564 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 จึงให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 แล้ว ให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 13/2564 เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 ดังมีข้อความต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยใน จ.บุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสี่ยง COVID-19 จ.บุรีรัมย์ ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายคำสั่งนี้ ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม.เคาะประตูบ้าน หรือผ่านระบบออนไลน์ QR code BURIRAM IC ในฐานข้อมูลกลางจังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) 2.ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เจ้าหน้าที่สาธารสุขตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลในหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคคิดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป 3.หากผู้ใดฝ่าฝทาง เข้า เว็บ 88ืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่ง พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,00 บาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สั่ง ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายธัชกร หัตถาธนากูลผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นมีประชาชนจำนวนหนึ่ง สะท้อนความคิดเห็น ผ่านสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก เช่น หากไม่แจ้งความจำนงจะมีความผิดหรือไม่, ข้อความในประกาศเนื้อหาไม่ชัดเจน, หากฉีดแล้วเกิดอะไรขึ้นใครรับผิดชอบ เป็นต้น ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงผ่านเพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กรณีมีการแสวิพากษ์วิจารณ์ ประกาศคณะกรรมการควบคุมโรค มีประชาชนมีความกังวลว่า ถ้าหากไม่ได้ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 จะมีความผิดหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเจตนาที่ออกประกาศฉบับดังกล่าว คือต้องการส่งเสริมให้ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หรือที่บุคลที่อาศัยอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์เข้าไปบันทึกข้อมูลในระบบ บุรีรัมย์ ไอซี (BURIRAM IC) ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลบริหารวัคซีนของจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้คนบุรีรัมย์ได้เข้าถึงวัคซีนในการควบคุมโรคครั้งนี้ อยากให้ประชาชนชาวบุรีรัมย์ เข้าใจว่า สถานการณ์ปัจจุบันโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายมีการแพร่ระบาดยืดเยื้อ ยาวนาน หากยังปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ เลือกจะฉีด หรือไม่ฉีดตามใจตัวเอง จะส่งผลให้ไม่สามารถจัดการควบคุมโรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนในอนาคตเมื่อมีคนส่วนมากฉีดแล้ว และยังเหลือคนส่วนน้อยที่ยังไม่ได้รับการสร้างภูมิคุ้มกัน และมีอาชีพเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง กลุ่มนี้เรียกว่า กลุ่มเสี่ยง มีความเสี่ยงในการที่จะแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้ในอนาคต จึงอยากให้คนกลุ่มนี้ รีบตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโดยเร็วที่สุดหรือไม่ ในอนาคตผู้ที่ไม่ได้รับการสร้างภูมิคุ้มกัน ก็จะมีมาตรการต่างๆดำเนินการต่อไปในอนาคต เช่นไม่สามารถไปร่วมทำกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ ได้ หรือมีข้อจำกัดในการเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวอีกว่า อยากให้ชาวบุรีรัมย์เข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น ต้องการให้การควบคุมโรคสิ้นสุดโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ชาวบุรีรัมย์กลับมาใช้ชีวิต ประกอบอาชีพ ตามวิถีปกติสุขให้เร็วที่สุด

วันนี้ (25 ก.พ.2567) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกา

วันนี้ (1 ธ.ค.2565) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยกับไทยพีบีเอสถึงกรณีที่

วันนี้ (14 พ.ค.2564) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ออกแถลงการณ์คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีร

วันนี้ (14 พ.ค.2564) คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ออกแถลงการณ์คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 11/2564 เรื่อง ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงในการรับบริการฉีดวัคซีน จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์เรื่องการป้องกันระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อขอความร่วมมือให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยในจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ทำการประเมินตนเอง และแสดงความจำนงต่อการรับวัคซีนโควิด-19 ซึ่งสำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีช่องทางการดำเนินงานได้แก่ 1) ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม. เคาะประตูบ้าน 2) ดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ QR code BURIRAM IC หรือ 3) แสดงความจำนงผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนโควิด-19 ในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน ซึ่งเป็นระบบที่ทางจังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการเพื่อปรับให้เหมาะสมกับการลงทะเบียนและการให้บริการวัคซีนของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการให้ อสม. เคาะประตูบ้านเพื่อสอบถามข้อมูลความต้องการที่เป็นจริง แล้วเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะนำเข้าในฐานข้อมูลระบบ BURIRAM IC เพื่อจัดกลุ่มให้บริการตามนโยบาย ลดติดเชื้อ ลดตายในกลุ่มเสี่ยงให้เหมาะสมกับการป้องกันการระบาดและการเสียชีวิตให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งหลังดำเนินการ ได้มีประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มีข้อมูลผู้ลงทะเบียนในระบบ BURIRAM IC แล้วทั้งสิ้น 355,287 ราย โดยแสดงความจำนงต้องการรับฉีดวัคซีนเบื้องต้น ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 จำนวน 214,970 ราย ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นข้อมูลนำเข้าระบบ MOPH IC ของกระทรวงสาธารณสุข ในการวางแผนการฉีดวัคซีนของจังหวัดบุรีรัมย์ในลำดับถัดไป ขอให้ประชาชนทุกคนในจังหวัดบุรีรัมย์ได้ประเมินตนเอง และแสดงความจำนงต่อการรับวัคซีนโควิด-19 ตามช่องทางที่กำหนดไว้ภายในวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ตามประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 ต่อไป ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.2564 คณะกรรมการโรคติดต่อฯ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ฉบับที่ 13/2564 เรื่อง การป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พ.ศ.2564 ระบุว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ในประเทศไทย และหลายจังหวัด ยังคงมีอัตราป่วยและอัตราป่วยตายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เพื่อให้การควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 22 (7) มาตรา 34 (2) และมาตรา 45 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 ข้อ 6 (1) ลงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 7 (1) ของกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ในคราวประชุม ครั้งที่ 21/2564 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 จึงให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 (ฉบับที่ 4) ลงวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2564 แล้ว ให้ออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 13/2564 เรื่อง การป้องกันการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564 ดังมีข้อความต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ ให้ประชาชนทุกคน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือบุคคลที่มาปฏิบัติงานในจังหวัดบุรีรัมย์ และหรือพักอาศัยใน จ.บุรีรัมย์ ทำการประเมินตนเองตามแบบประเมินความเสี่ยง COVID-19 จ.บุรีรัมย์ ที่กำหนดตามเอกสารแนบท้ายคำสั่งนี้ ต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ในชุมชน/หมู่บ้าน ที่ท่านพักอาศัยอยู่ โดยกระบวนการ อสม.เคาะประตูบ้าน หรือผ่านระบบออนไลน์ QR code BURIRAM IC ในฐานข้อมูลกลางจังหวัดบุรีรัมย์ สำหรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือผ่านศูนย์ประสานงานรับบริการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ของโรงพยาบาล/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน เกี่ยวกับความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2564 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่จัดกลุ่มการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) 2.ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เจ้าหน้าที่สาธารสุขตรวจพบหรืออาจตรวจพบว่าบุคคลในหรือบุคคลดังกล่าวในข้อ 1 เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ให้เจ้าพนักงานนั้นมีอำนาจสั่งให้ผู้ที่มีความเสี่ยง อาจมีความเสี่ยงที่จะติดโรคนั้น ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ซึ่งเจ้าพนักงานนั้นกำหนด เพื่อป้องกันมิให้โรคคิดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่หรืออาจแพร่ออกไป 3.หากผู้ใดฝ่าฝทาง เข้า เว็บ 88ืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 1 มีโทษตามนัยมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามข้อ 2 มีโทษตามนัยมาตรา 51 แห่ง พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,00 บาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สั่ง ณ วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นายธัชกร หัตถาธนากูลผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นมีประชาชนจำนวนหนึ่ง สะท้อนความคิดเห็น ผ่านสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก เช่น หากไม่แจ้งความจำนงจะมีความผิดหรือไม่, ข้อความในประกาศเนื้อหาไม่ชัดเจน, หากฉีดแล้วเกิดอะไรขึ้นใครรับผิดชอบ เป็นต้น ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงผ่านเพจสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กรณีมีการแสวิพากษ์วิจารณ์ ประกาศคณะกรรมการควบคุมโรค มีประชาชนมีความกังวลว่า ถ้าหากไม่ได้ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 จะมีความผิดหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเจตนาที่ออกประกาศฉบับดังกล่าว คือต้องการส่งเสริมให้ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป หรือที่บุคลที่อาศัยอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์เข้าไปบันทึกข้อมูลในระบบ บุรีรัมย์ ไอซี (BURIRAM IC) ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลบริหารวัคซีนของจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้คนบุรีรัมย์ได้เข้าถึงวัคซีนในการควบคุมโรคครั้งนี้ อยากให้ประชาชนชาวบุรีรัมย์ เข้าใจว่า สถานการณ์ปัจจุบันโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายมีการแพร่ระบาดยืดเยื้อ ยาวนาน หากยังปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ เลือกจะฉีด หรือไม่ฉีดตามใจตัวเอง จะส่งผลให้ไม่สามารถจัดการควบคุมโรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนในอนาคตเมื่อมีคนส่วนมากฉีดแล้ว และยังเหลือคนส่วนน้อยที่ยังไม่ได้รับการสร้างภูมิคุ้มกัน และมีอาชีพเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยง กลุ่มนี้เรียกว่า กลุ่มเสี่ยง มีความเสี่ยงในการที่จะแพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่นได้ในอนาคต จึงอยากให้คนกลุ่มนี้ รีบตัดสินใจว่าจะฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคโดยเร็วที่สุดหรือไม่ ในอนาคตผู้ที่ไม่ได้รับการสร้างภูมิคุ้มกัน ก็จะมีมาตรการต่างๆดำเนินการต่อไปในอนาคต เช่นไม่สามารถไปร่วมทำกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ ได้ หรือมีข้อจำกัดในการเข้าไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวอีกว่า อยากให้ชาวบุรีรัมย์เข้าใจว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น ต้องการให้การควบคุมโรคสิ้นสุดโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ชาวบุรีรัมย์กลับมาใช้ชีวิต ประกอบอาชีพ ตามวิถีปกติสุขให้เร็วที่สุด

วันนี้ (17 ส.ค.2564) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบใ