วันนี้ (10 มิ.ย.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้า หลังจากนายนเรนทรา โมดี ของอินเดียจากพรรค BJP ชนะการ
วันนี้ (10 ก.พ.2565) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้า และ ส.ส.เสรีรวมไทย เปิดเผยถึงการโหวตร่างกฎหมายของ ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยที่เห็นด้วยกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) ว่า เป็นเรื่องส่วน
วันนี้ (10 มิ.ย.2567) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้า หลังจากนายนเรนทรา โมดี ของอินเดียจากพรรค BJP ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา และได้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) กระทรวงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ภายใต้การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อินเดียกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจหลักที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลกด้วย GDP ที่ขยายตัวถึงร้อยละ 8.2 ในปีงบประมาณ 2566 – 2567 (เม.ย. 2566 - มี.ค.2567) โดยขยายตัวสูงกว่าที่รัฐบาลอินเดียคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 7.6 และเมื่อครั้งที่นเรนทรา โมดี เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อปี 2557 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอินเดียในขณะนั้นขยายตัวสูงอยู่ที่ร้อยละ 7.4 เช่นกัน นายพูนพงษ์กล่าวว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าการที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ชนะการเลือกตั้งเป็นนายกฯ ต่ออีกสมัย จะไม่ส่งผลกระทบในการกำหนดทิศทางนโยบายด้านต่างประเทศและการค้าต่างประเทศในระยะยาว ผอ.สนค.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาอินเดียดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระและเป็นเอกเทศ (independent foreign policy) สนับสนุนโลกหลายขั้วอำนาจ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ซึ่งส่งผลดีต่ออินเดียอย่างชัดเจนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ขยายวงกว้างระหว่างจีนและสหรัฐฯ นำไปสู่การยกระดับอินเดียสู่ระบบห่วงโซ่การผลิตของโลกแทนที่จีน และพาอินเดียเป็นมหาอำนาจเกิดใหม่ (Emerging Power) นอกจากนี้ อินเดียเพิ่งมีการเริ่มใช้นโยบายด้านการค้าต่างประเทศใหม่ปี 2566 เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 จากเดิมที่มีการใช้นโยบายการค้าต่างประเทศในช่วงปี 2558 – 2563 จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คาดการณ์ว่าทิศทางการดำเนินนโยบายดังกล่าวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับสภาวะปัจจุบันและก่อนหน้านี้ของอินเดีย “การบูรณาการของอินเดียเข้ากับตลาดโลก และทำให้อินเดียเป็นประเทศคู่ค้าที่มีความน่าเชื่อถือ (trust) และไว้วางใจได้ (reliable) ซึ่งจะช่วยให้อินเดียศบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเอง พร้อมทั้งเป้าการเป็นศูนย์กลางการส่งออกโลก มุ่งเน้นการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศคู่ค้าต่าง ๆเช่น สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร โอมาน ศรีลังกา ออสเตรเลีย และเปรู” ล่าสุดเมื่อมี.ค.ที่ผ่านมา อินเดียได้ลงนามความตกลง FTA กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association: EFTA) ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ซึ่งผลการดำเนินนโยบายการค้าต่างประเทศที่แข็งแกร่งของอินเดียสะท้อนให้เห็นจากตัวเลขการส่งออกของอินเดียที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยการส่งออกสินค้าและบริการของอินเดียรวมกันมีมูลค่าสูงกว่า 776.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี ของอินเดียจากพรรค BJP ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรี ของอินเดียจากพรรค BJP ชนะการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามทิศทางนโยบายการค้าต่างประเทศของอินเดียต่อไป เนื่องจากอินเดียยังคงเป็นตลาดที่น่าจับตามองจากนานาประเทศ จากขนาดตลาดที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกมากกว่า 1,400 ล้านคน นายพูนพงษ์ กล่าวว่า อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย 10 ประเทศสำคัญที่ไทยจะดำเนินการนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกมีการเร่งผลักดันการใช้สิทธิ์ภายใต้ความตกลง FTA ที่ไทยมีกับอินเดียทั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ ไทย-อินเดีย และ อาเซียน-อินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างการยกระดับความตกลงให้มีความทันสมัยและครอบคลุมมากขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ส่งออกและผู้ประกอบการไทย รวมถึงผลักดันสินค้าไทยให้สามารถจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ของอินเดีย ปี 2566 อินเดียเป็นคู่ค้าลำดับที่ 11 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 16,044.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 555,217 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.8 ของการค้ารวมของไทยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปอินเดีย ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อัญมณีและเครื่องประดับ และ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้านำเข้าสำคัญจากอินเดีย ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งแเลข อั้น 16 9 63ละทองคำ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ อ่านข่าว: ทวงแชมป์ "ทุเรียนไทย" ส่งออกตลาดจีน 4 เดือน พุ่ง 2.25 แสนตัน กวก.เดินหน้าปั้นทุเรียนใต้คุณภาพ ตั้งเป้าส่งออก 1.3 แสนล้านบาท “ทุเรียนไทย” ยังโดดเด่นในญี่ปุ่น ผู้ส่งออกชี้ให้เกษตรกรมั่นใจในคุณภาพ
วันนี้ (7 ก.ค.2564) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 262 คน รวมผู้ป่วยสะสมระลอกเดือน เม.ย.2564 จำนวน 10,285 คน เสียชี
ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่และค่าครองชีพที่สูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้สถานการณ์เงินฝากของไทยลดลง