วันนี้ (29 ต.ค.2567) ผู้นำด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิตกว่า 200 คนจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมหgclub88888 review
วันนี้ (4 ม.ค.2566) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศฉบับที่ 1/2566 เรื่องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดย กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคา
วันนี้ (23 พ.ค.2567) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลวิเคราะห์โครงสร้างประชากรไทยพบว่า ปัจจุบันไทยพึ่งพาการบริโภคในสัดส่วนที่สูงขึ้น และฐานประชากรในอนาคตอาจมีกำลังซื้อจำกัด เสี่ยงทำให้การบริโภคในประเทศโตช้า ดังนั้นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน รวมถึงดึงคนและแรงงานต่างชาติที่มีทักษะและgclub88888 reviewมีศักยภาพเข้ามา เพื่อเพิ่มการบริโภคในประเทศ โดยโครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนไป ทั้งจากจำนวนประชากรที่เริ่มลดลง และการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทย 3 ด้านหลักคือ การขาดแคลนแรงงานในระดับที่รุนแรงขึ้น การบริโภคในประเทศที่โตช้าลง ภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้พบว่า สิงคโปร์ที่กำลังจะเป็นสังคมสูงวัยขั้นสุดยอดไล่เลี่ยกับไทยแต่มีแนวโน้มพึ่งพาการบริโภคในประเทศลดลงจาก 37 % เหลือเพียง 31 % หรือแม้แต่เวียดนามและอินโดนีเซียที่กำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัยก็เริ่มเห็นสัดส่วนการพึ่งพาการบริโภคในประเทศลดลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าประเทศเหล่านี้ มีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านอื่นๆ มาเสริม อย่างไรก็ตาม การบริโภคในประเทศของไทยเติบโตชะลอลงจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่กระทบกำลังซื้อ ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น รวมถึงภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้นอนาคต หากจำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จะฉุดการบริโภคในประเทศให้ขยายตัวช้าลงอีก โดยโครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รายได้ประชากรมีความไม่แน่นอนตามสถานการณ์เศรษฐกิจ การบริโภคที่อาจลดลงจากทั้งผู้สูงอายุที่ใช้จ่ายน้อยลงและจำนวนประชากรที่น้อยลง จะยิ่งส่งผลลบต่อการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฐานประชากรไทยในอนาคตมีกำลังซื้อจำกัด ดังนี้ ขณะที่แรงงานไทยมีผลิตภาพแรงงานต่ำ และส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในธุรกิจที่มีค่าตอบแทนน้อย ผลิตภาพแรงงานไทยมีการขยายตัวเฉลี่ยต่อปีค่อนข้างต่ำอยู่ที่ราว 1.5 % (CAGR 2014-2022) ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอยู่ในธุรกิจที่มีค่าตอบแทนรายได้ต่ำ โดยเฉพาะในภาคเกษตรที่ผลิตภาพแรงงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภาคธุรกิจอื่นๆ แต่กลับมีสัดส่วนแรงงานที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้สูงถึงราว 30% ของจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด ขณะที่แรงงานภาคเกษตรมีรายได้เฉลี่ยเพียง 6,975 บาทต่อเดือนเท่านั้น (ส่งผลให้แรงงานกลุ่มนี้มีความสามารถในการบริโภคที่จำกัด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเป็นความท้าทายเร่งด่วนที่ไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่การบริโภคในประเทศจะชะลอตัวลง โดยมีแนวทางดำเนินการที่อาจมีกรอบเวลาแตกต่างกัน โดยเฉพาะการเพิ่มรายได้ของประชาชนให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น โดยการปรับโครงสร้างการผลิต ควบคู่กับการพัฒนาทักษะแรงงานให้รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้มข้นและบริการที่มีมูลค่าสูง เช่น อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ แผงวงจร PCB/PCBA) อุตสาหกรรมดิจิทัล จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตามโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ พบว่า มีจำนวนผู้ประกอบการ SMEs รวม 3.18 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 99.5 % ของผู้ประกอบการทั้งหมด 3.2 ล้านรายมีสัดส่วนการจ้างงานสูงถึง 71 % แต่กลับสร้างรายได้ให้กับประเทศคิดเป็นสัดส่วนเพียง 35 % ของ GDP เท่านั้น (และมีแนวโน้มที่การสร้างรายได้อาจลดลงจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการขยายตลาดของรายใหญ่ นอกจากนี้การจัดสรรงบประมาณภาครัฐและวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของประชากร ซึ่งแต่ละมาตรการอาจมีกรอบระยะเวลาของการดำเนินการและเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นมาตรการระสั้นและระยะยาว โดยมาตรการระยะสั้น เช่น ปรับปรุงระบบบริการสาธารณะ เช่น ระบบขนส่ง ให้รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น การติดตั้งลิฟท์ ทางลาดให้เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในหน่วยงานภาครัฐ และมีมาตรการทั้งจูงใจให้ภาคเอกชนจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานให้ผู้สูงอายุยังมีงานทำต่อ ซึ่งไทยและหลายประเทศได้มีมาตรการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ เช่น การจ่ายค่าจ้างเงินอุดหนุนให้แก่ธุรกิจที่จ้างงานผู้สูงอายุ การให้เงินกู้ยืม/เงินช่วยเหลือในการประกอบอาชีพ เป็นต้น ส่วนมาตรการระยะกลาง-ยาว คือกระจายศูนย์บริการด้านสาธาณสุขที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง วางแผนการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้ดูแลผู้สูงอายุให้เพียงพอกับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาให้บริการ เช่น ระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ซึ่งสอดคล้องไปกับเทรนด์โลกที่คาดว่าในช่วงปี 2020-2027 มูลค่าตลาด Health Tech ทั่วโลกจะเติบโตที่ 14.5 % (CAGR) และในเอเชียแปซิฟิกจะมีเติบโตได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 17.6 % (CAGR) รวมไปถึงการดึงชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อหรือแรงงานต่างชาติที่มีทักษะสูงเข้ามา เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยยังรักษามาตรฐานของสินค้าและบริการ และการเข้าถึงของคนในประเทศ การใช้จ่ายของชาวต่างชาติเป็นอีกกลุ่มที่มีความสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยในปี 2566 ชาวต่างชาติมีการใช้จ่ายหรือการบริโภคในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 5 % ของ GDP ทยอยฟื้นตัวกลับไปสู่ช่วงก่อน โควิดที่มีสัดส่วนการบริโภคราว 11 % นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวระยะสั้น เช่น กลุ่มผู้สูงอายุที่พำนักระยะยาวหลังเกษียณ กลุ่มที่ทำงานทางไกล รวมถึงกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่มีทักษะสูง อย่างไรก็ดี ภายใต้มาตรการการดึงดูดเม็ดเงินจากชาวต่างชาติ ภาครัฐควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในประเทศ รักษามาตรฐานของสินค้าและบริการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และประสบการณ์ที่ดีแก่ชาวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการควบคุมและดูแลให้คนในประเทศ ยังสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการได้ โดยไม่มีอุปสรรคด้านราคาและการเข้าถึง เช่น หากรัฐออกมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามารักษาพยาบาลในไทย ก็ต้องรักษาสมดุลให้จำนวนบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอกับการเข้าถึงการรักษาของคนในประเทศ เป็นต้น อ่านข่าว: ราคาทองเช้านี้ ร่วงแรง 500 บาท แนะขายกำไรระยะสั้นที่ 41,950 บาท เงินเข้าหรือยัง ? เงินคงเหลือบัตรคนจนเข้าพร้อมเพย์ 23-24 พ.ค.นี้
วันนี้ (23 พ.ค.2567) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลวิเคราะห์โครงสร้างประชากรไทยพบว่า ปัจจุบันไทยพึ่งพา
gclub88888 review-จ.เชียงใหม่ พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโอมิครอน 2 คน
วันนี้ (29 ต.ค.2567) ผู้นำด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิตกว่า 200 คนจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมหgclub88888 review
วันนี้ (4 ม.ค.2566) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศฉบับที่ 1/2566 เรื่องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดย กอนช.ได้ติดตามสถานการณ์และประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำด้วยฝนคา
วันนี้ (23 พ.ค.2567) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลวิเคราะห์โครงสร้างประชากรไทยพบว่า ปัจจุบันไทยพึ่งพาการบริโภคในสัดส่วนที่สูงขึ้น และฐานประชากรในอนาคตอาจมีกำลังซื้อจำกัด เสี่ยงทำให้การบริโภคในประเทศโตช้า ดังนั้นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน รวมถึงดึงคนและแรงงานต่างชาติที่มีทักษะและgclub88888 reviewมีศักยภาพเข้ามา เพื่อเพิ่มการบริโภคในประเทศ โดยโครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนไป ทั้งจากจำนวนประชากรที่เริ่มลดลง และการเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมสูงวัยขั้นสุดยอด ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทย 3 ด้านหลักคือ การขาดแคลนแรงงานในระดับที่รุนแรงขึ้น การบริโภคในประเทศที่โตช้าลง ภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้พบว่า สิงคโปร์ที่กำลังจะเป็นสังคมสูงวัยขั้นสุดยอดไล่เลี่ยกับไทยแต่มีแนวโน้มพึ่งพาการบริโภคในประเทศลดลงจาก 37 % เหลือเพียง 31 % หรือแม้แต่เวียดนามและอินโดนีเซียที่กำลังจะเข้าสู่สังคมสูงวัยก็เริ่มเห็นสัดส่วนการพึ่งพาการบริโภคในประเทศลดลงเช่นกัน สะท้อนให้เห็นว่าประเทศเหล่านี้ มีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านอื่นๆ มาเสริม อย่างไรก็ตาม การบริโภคในประเทศของไทยเติบโตชะลอลงจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่กระทบกำลังซื้อ ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาสินค้าและบริการแพงขึ้น รวมถึงภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้นอนาคต หากจำนวนประชากรไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จะฉุดการบริโภคในประเทศให้ขยายตัวช้าลงอีก โดยโครงสร้างประชากรไทยที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่รายได้ประชากรมีความไม่แน่นอนตามสถานการณ์เศรษฐกิจ การบริโภคที่อาจลดลงจากทั้งผู้สูงอายุที่ใช้จ่ายน้อยลงและจำนวนประชากรที่น้อยลง จะยิ่งส่งผลลบต่อการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฐานประชากรไทยในอนาคตมีกำลังซื้อจำกัด ดังนี้ ขณะที่แรงงานไทยมีผลิตภาพแรงงานต่ำ และส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในธุรกิจที่มีค่าตอบแทนน้อย ผลิตภาพแรงงานไทยมีการขยายตัวเฉลี่ยต่อปีค่อนข้างต่ำอยู่ที่ราว 1.5 % (CAGR 2014-2022) ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอยู่ในธุรกิจที่มีค่าตอบแทนรายได้ต่ำ โดยเฉพาะในภาคเกษตรที่ผลิตภาพแรงงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภาคธุรกิจอื่นๆ แต่กลับมีสัดส่วนแรงงานที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมนี้สูงถึงราว 30% ของจำนวนผู้มีงานทำทั้งหมด ขณะที่แรงงานภาคเกษตรมีรายได้เฉลี่ยเพียง 6,975 บาทต่อเดือนเท่านั้น (ส่งผลให้แรงงานกลุ่มนี้มีความสามารถในการบริโภคที่จำกัด ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรเป็นความท้าทายเร่งด่วนที่ไทยต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่การบริโภคในประเทศจะชะลอตัวลง โดยมีแนวทางดำเนินการที่อาจมีกรอบเวลาแตกต่างกัน โดยเฉพาะการเพิ่มรายได้ของประชาชนให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น โดยการปรับโครงสร้างการผลิต ควบคู่กับการพัฒนาทักษะแรงงานให้รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ที่มีการใช้เทคโนโลยีเข้มข้นและบริการที่มีมูลค่าสูง เช่น อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ แผงวงจร PCB/PCBA) อุตสาหกรรมดิจิทัล จะมีแนวโน้มเติบโตขึ้น อย่างไรก็ตามโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ พบว่า มีจำนวนผู้ประกอบการ SMEs รวม 3.18 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 99.5 % ของผู้ประกอบการทั้งหมด 3.2 ล้านรายมีสัดส่วนการจ้างงานสูงถึง 71 % แต่กลับสร้างรายได้ให้กับประเทศคิดเป็นสัดส่วนเพียง 35 % ของ GDP เท่านั้น (และมีแนวโน้มที่การสร้างรายได้อาจลดลงจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการขยายตลาดของรายใหญ่ นอกจากนี้การจัดสรรงบประมาณภาครัฐและวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตของประชากร ซึ่งแต่ละมาตรการอาจมีกรอบระยะเวลาของการดำเนินการและเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นมาตรการระสั้นและระยะยาว โดยมาตรการระยะสั้น เช่น ปรับปรุงระบบบริการสาธารณะ เช่น ระบบขนส่ง ให้รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายให้อาคารและสิ่งปลูกสร้างต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น การติดตั้งลิฟท์ ทางลาดให้เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในหน่วยงานภาครัฐ และมีมาตรการทั้งจูงใจให้ภาคเอกชนจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงการพัฒนาทักษะแรงงานให้ผู้สูงอายุยังมีงานทำต่อ ซึ่งไทยและหลายประเทศได้มีมาตรการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ เช่น การจ่ายค่าจ้างเงินอุดหนุนให้แก่ธุรกิจที่จ้างงานผู้สูงอายุ การให้เงินกู้ยืม/เงินช่วยเหลือในการประกอบอาชีพ เป็นต้น ส่วนมาตรการระยะกลาง-ยาว คือกระจายศูนย์บริการด้านสาธาณสุขที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง วางแผนการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์และผู้ดูแลผู้สูงอายุให้เพียงพอกับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงการนำเทคโนโลยีทางการแพทย์มาให้บริการ เช่น ระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ซึ่งสอดคล้องไปกับเทรนด์โลกที่คาดว่าในช่วงปี 2020-2027 มูลค่าตลาด Health Tech ทั่วโลกจะเติบโตที่ 14.5 % (CAGR) และในเอเชียแปซิฟิกจะมีเติบโตได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 17.6 % (CAGR) รวมไปถึงการดึงชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อหรือแรงงานต่างชาติที่มีทักษะสูงเข้ามา เพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยยังรักษามาตรฐานของสินค้าและบริการ และการเข้าถึงของคนในประเทศ การใช้จ่ายของชาวต่างชาติเป็นอีกกลุ่มที่มีความสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยในปี 2566 ชาวต่างชาติมีการใช้จ่ายหรือการบริโภคในประเทศคิดเป็นสัดส่วน 5 % ของ GDP ทยอยฟื้นตัวกลับไปสู่ช่วงก่อน โควิดที่มีสัดส่วนการบริโภคราว 11 % นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวระยะสั้น เช่น กลุ่มผู้สูงอายุที่พำนักระยะยาวหลังเกษียณ กลุ่มที่ทำงานทางไกล รวมถึงกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่มีทักษะสูง อย่างไรก็ดี ภายใต้มาตรการการดึงดูดเม็ดเงินจากชาวต่างชาติ ภาครัฐควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในประเทศ รักษามาตรฐานของสินค้าและบริการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ และประสบการณ์ที่ดีแก่ชาวต่างชาติ ควบคู่ไปกับการควบคุมและดูแลให้คนในประเทศ ยังสามารถใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการได้ โดยไม่มีอุปสรรคด้านราคาและการเข้าถึง เช่น หากรัฐออกมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามารักษาพยาบาลในไทย ก็ต้องรักษาสมดุลให้จำนวนบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอกับการเข้าถึงการรักษาของคนในประเทศ เป็นต้น อ่านข่าว: ราคาทองเช้านี้ ร่วงแรง 500 บาท แนะขายกำไรระยะสั้นที่ 41,950 บาท เงินเข้าหรือยัง ? เงินคงเหลือบัตรคนจนเข้าพร้อมเพย์ 23-24 พ.ค.นี้
วันนี้ (23 พ.ค.2567) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยผลวิเคราะห์โครงสร้างประชากรไทยพบว่า ปัจจุบันไทยพึ่งพา