วันนี้ ( 27 เม.ย.2568) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อ
วันนี้ (12 มี.ค.2568) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยผู้บังคับการ สอท.1 และผู้บังคับการ สอท.3 เปิดเผยความคืบหน้า และขยายผลจับกุมผู้ต้องเพิ่มเติม เครื
วันนี้ (26 ส.ค.2567) พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.กมลา รายงานผลการจับกุมนายเจษฎาภรณ์ หรือ "บังยิ้ม" เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ต่อ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต หลังจากเปิดปฏิบัติการป
จากกรณีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสของเพจจิตอาสาดูแลสัตว์นั้น น.ส.ฎายิน เพชรรัตน์ ผู้ประสานงานโครงการ SOS Animal Thailand องค์กรเพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งประเทศไทย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า องค์กรที่ดูแลสัตว์นั้นมีทั้งที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องและไม่จดทะเบียน ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีการจัดการและดูแลสัตว์ที่แตกต่างกันไป ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 ก็เคยมีประชาชนร้องเรียนให้ตรวจสอบเพจหมามะเร็งดเซ๊ ก ซี่ บา ค่า ร่า ทดลอง้วย จึงได้รวบรวมหลักฐานและยื่นเรื่องไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แต่ก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าในการตรวจสอบ ขณะที่ประชาชนบางส่วนก็มองว่า การบริจาคเงินไปแล้ว ก็ถือว่าทำบุญไปแล้ว จึงไม่ได้ติดใจเอาความใด ๆ จึงทำให้อาจไม่มีเจ้าทุกข์ในคดีอย่างชัดเจน ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ใจบุญก่อนจะบริจาคเงินให้องค์กรใด ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือขององค์กรนั้น ๆ ก่อน โดยเฉพาะการตรวจสอบชื่อเจ้าของเพจ เจ้าของบัญชีว่าได้มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่ หรือมีประวัติน่าสงสัยอย่างไร รวมถึงการตรวจสอบค่าใช้จ่ายหรืออัปเดตข้อมูลสัตว์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและเปิดเผย ซึ่งในปัจจุบันสามารถตรวจสอบข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ หากในกรณีที่องค์กรหรือกลุ่มอาสาสมัครไม่สามารถดูแลสุนัขต่อได้จริง เนื่องจากไม่ได้รับเงินบริจาค ทางเครือข่ายกลุ่มดูแลสัตว์ก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ หากมีสุนัข 200 ตัว ก็อาจจะแบ่งกันดูแลแต่ละเครือข่ายหลักสิบตัว ก็จะช่วยให้สัตว์ไม่ต้องถูกทิ้งได้ แต่การจัดการที่ยั่งยืนที่สุด คือการหาบ้านที่พร้อมดูแลสัตว์ไปตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้ปัญหาสัตว์จรจัดต้องวนเวียนกลับมาเกิดซ้ำอีก ขณะที่ไทยพีบีเอสออนไลน์ได้สัมภาษณ์แอดมิน “เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand-WDT” เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อความโปร่งใส กรณีการรับบริจาคว่า ทางเพจไม่ได้ทำบัญชี แต่ใช้การอัปเดตการรักษาอย่างต่อเนื่องบนเพจเฟซบุ๊ก ยืนยัน มูลนิธิฯ ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาได้ยื่นภาษีกับกรมสรรพากรต่อเนื่อง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมา เพจมียอดผู้ติดตามหลักแสนคน จึงอยากช่วยเพจอาสาต่าง ๆ ที่เดือดร้อน ก็จะใช้วิธีช่วยแชร์ต่อเพื่อช่วยเหลือกันตลอด ซึ่งวิธีการที่จะตรวจสอบเพจต่าง ๆ ก็คือ การย้อนดูประวัติการทำงานของแต่ละเพจว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เพจ "หมามะเร็ง" ชี้แจงดรามาขอรับบริจาคถี่ ยันภาระค่าใช้จ่าย 5 แสนต่อเดือน
วันนี้ (16 พ.ย.2565) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่
วันที่ 10 พ.ค.2568 เวลา 17.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จ
วันนี้ (6 ต.ค.2564) ราคาหุ้นของบริษัท YG Entertainment ต้นสังกัดของวง Blackpink เปิดตลาดที่ 65,300 ว
จากกรณีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสของเพจจิตอาสาดูแลสัตว์นั้น น.ส.ฎายิน เพชรรัตน์ ผู้ประสานงานโครงการ SOS Animal Thailand องค์กรเพื่อสวัสดิภาพสัตว์แห่งประเทศไทย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า องค์กรที่ดูแลสัตว์นั้นมีทั้งที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องและไม่จดทะเบียน ซึ่งแต่ละแห่งก็จะมีการจัดการและดูแลสัตว์ที่แตกต่างกันไป ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 ก็เคยมีประชาชนร้องเรียนให้ตรวจสอบเพจหมามะเร็งดเซ๊ ก ซี่ บา ค่า ร่า ทดลอง้วย จึงได้รวบรวมหลักฐานและยื่นเรื่องไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) แต่ก็ยังไม่ได้รับความคืบหน้าในการตรวจสอบ ขณะที่ประชาชนบางส่วนก็มองว่า การบริจาคเงินไปแล้ว ก็ถือว่าทำบุญไปแล้ว จึงไม่ได้ติดใจเอาความใด ๆ จึงทำให้อาจไม่มีเจ้าทุกข์ในคดีอย่างชัดเจน ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ใจบุญก่อนจะบริจาคเงินให้องค์กรใด ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือขององค์กรนั้น ๆ ก่อน โดยเฉพาะการตรวจสอบชื่อเจ้าของเพจ เจ้าของบัญชีว่าได้มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องหรือไม่ หรือมีประวัติน่าสงสัยอย่างไร รวมถึงการตรวจสอบค่าใช้จ่ายหรืออัปเดตข้อมูลสัตว์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและเปิดเผย ซึ่งในปัจจุบันสามารถตรวจสอบข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ หากในกรณีที่องค์กรหรือกลุ่มอาสาสมัครไม่สามารถดูแลสุนัขต่อได้จริง เนื่องจากไม่ได้รับเงินบริจาค ทางเครือข่ายกลุ่มดูแลสัตว์ก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ หากมีสุนัข 200 ตัว ก็อาจจะแบ่งกันดูแลแต่ละเครือข่ายหลักสิบตัว ก็จะช่วยให้สัตว์ไม่ต้องถูกทิ้งได้ แต่การจัดการที่ยั่งยืนที่สุด คือการหาบ้านที่พร้อมดูแลสัตว์ไปตลอดชีวิต เพื่อไม่ให้ปัญหาสัตว์จรจัดต้องวนเวียนกลับมาเกิดซ้ำอีก ขณะที่ไทยพีบีเอสออนไลน์ได้สัมภาษณ์แอดมิน “เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand-WDT” เกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อความโปร่งใส กรณีการรับบริจาคว่า ทางเพจไม่ได้ทำบัญชี แต่ใช้การอัปเดตการรักษาอย่างต่อเนื่องบนเพจเฟซบุ๊ก ยืนยัน มูลนิธิฯ ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องและสามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมาได้ยื่นภาษีกับกรมสรรพากรต่อเนื่อง ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ ที่ผ่านมา เพจมียอดผู้ติดตามหลักแสนคน จึงอยากช่วยเพจอาสาต่าง ๆ ที่เดือดร้อน ก็จะใช้วิธีช่วยแชร์ต่อเพื่อช่วยเหลือกันตลอด ซึ่งวิธีการที่จะตรวจสอบเพจต่าง ๆ ก็คือ การย้อนดูประวัติการทำงานของแต่ละเพจว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง เพจ "หมามะเร็ง" ชี้แจงดรามาขอรับบริจาคถี่ ยันภาระค่าใช้จ่าย 5 แสนต่อเดือน
จากกรณีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสของเพจจิตอาสาดูแลสัตว์นั้น น.ส.ฎายิน เพชรร