วันนี้ (6 มี.ค.2568) ชาวชุมชนประปา ต.จอหอ อ.เมืองน

วันนี้ (18 ต.ค.2567) นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีข่าวปัญหามะพร้าวผลแก่และกะทิสดในจ.ตรังมีราคาแพง ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารและขนมหวานหลายชนิดที่ใช้กะท
วันนี้ (2 ต.ค.2564) เวลา 08.00 น. กู้ภัยอยุธยารวมใจ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่า พบศพชายสวมเสื้อสีเขียว คาดว่าน่าจะเป็นชายคนขับเรือ ที่ล่มบริเวณหน้าวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยจุดที่พบศพอยู่ในแม่น้ำเจ้าพ
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 โฆษกของกองทัพอิสราเอลแถลงถึงกรณีที่มีการอ้างว่า กองทัพใช้ "ฟอสฟอรัสขาว" ในปฏิบัติการโจมตีทางตอนใต้ของเลบานอน โดยระบุว่ากองทัพอิสราเอล ปฏิบัติงานตามแนวทางที่ชัดเจน คือยึดมั่นความถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นแนวทางของกองทัพ ทั้งในปฏิบัติการทางตอนเหนือและตอนใต้ และเป็นสิ่งที่จะยึดมั่นต่อไป กลุ่มควันที่ขาวที่คาดว่าเกิดจากการระเบิดของฟอสฟอรัสขาวในกาซา กลุ่มควันที่ขาวที่คาดว่าเกิดจากการระเบิดของฟอสฟอรัสขาวในกาซา ด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานการพบหลักฐานว่าอาวุธที่กองทัพอิสราเอลใช้โจมตีตอนใต้ของเลบานอน เป็นกระสุนซึ่งมีหมายเลขที่ระบุว่าอาวุธดังกล่าว ผลิตในสหรัฐฯ ในช่วงปี 1989-1992 สอดคล้องกับข้อมูลจากฝั่งเลบานอนที่ระบุว่าเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา อิสราเอลใช้อาวุธดังกล่าวก่อเหตุโจมตีซ้ำๆ ด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ยอมรับว่า กังวลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ระบุว่าอิสราเอลใช้ฟอสฟอรัสขาวซึ่งผลิตในสหรัฐฯ โดยได้สอบถามเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว พร้อมระบุว่าเมื่อใดก็ตามที่สหรัฐฯ ส่งมอบวัตถุอย่างฟอสฟอรัสขาวให้กองทัพอื่นๆ สหรัฐฯ คาดหวังอย่างเต็มที่ว่า อาวุธเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้อย่างชอบธรรมและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ทั้งนี้ฟอสฟอรัสขาว ถือเป็นอาวุธเคมีต้องห้ามตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่สามารถนำมาใช้ได้ในกรณีที่ใช้ฟอสฟอรัสขาวเพื่อการอำพรางตัวหรือให้แสงสว่าง ในสมรภูมิรบ ในขณะที่คณะผู้แทนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเดินทางเยือนจุดผ่านแดนราฟาห์ ฝั่งประเทศอียิปต์ กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นโศกนาฏกรรม ที่ยืดเยื้อยาวนานเกินไป ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงถือว่าสันติภาพและความมั่นคงเป็นความรับผิดชอบอันดับแรก เจ้าหน้าที่สหประชาชาติให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อพลเรือนในกาซา เจ้าหน้าที่สหประชาชาติให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อพลเรือนในกาซา ส่วนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐฯ กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใช้โซ่ตรวนมัดตัวเองติดกับรั้วของทำเนียบขาว เพื่อเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซา ยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จัดโดยกลุ่ม "เสียงชาวยิวเพื่อสันติภาพ" กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใช้โซ่ตรวนมัดตัวเอง เรียกร้องการหยุดยิงในกาซา กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใช้โซ่ตรวนมัดตัวเอง เรียกร้องการหยุดยิงในกาซา อีกจุดหนึ่งที่มีการประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดีซี คืออาคารรัฐสภา ซึ่งผู้ประท้วงพากันตะโกนและชูป้ายทีฝาก 50 รับ 100 ถอน ไม่ อั้น ล่าสุดฝาก 1 บาท ฟรี 99่มีข้อความเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการส่งอาวุธให้อิสราเอล และให้หยุดยิงในกาซา ซึ่งในเวลาต่อมาตำรวจของรัฐสภาได้นำตัวผู้ประท้วงออกจากอาคาร ผู้ประท้วงพากันตะโกนในรัฐสภาสหรัฐฯ ผู้ประท้วงพากันตะโกนในรัฐสภาสหรัฐฯ ฟอสฟอรัสขาวถูกจัดว่าเป็นอาวุธที่ก่อให้เกิดไฟลุกภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธสงครามบางชนิด (Convention on the Prohibition of Use of Certain Conventional Weapons ; CCW) จากระเบียบข้อ 3 ของอนุสัญญาห้ามการใช้ฟอสฟอรัสขาวต่อเป้าโจมตีที่ใกล้กับพลเรือน แต่ "อิสราเอลไม่ได้ลงนามรับรองอนุสัญญาดังกล่าว" "ฟอสฟอรัสขาว" เป็นสารเคมีที่มักถูกบรรจุในกระสุนปืนใหญ่ ระเบิด เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนจะติดไฟได้ และเกิดความร้อนสูงถึง 815 องศาเซลเซียส มักถูกใช้ในวัตถุประสงค์ทางการทหารเพื่อการอำพรางตัว แต่ฟอสฟอรัสขาวก็ยังทำให้เกิดบาดแผลร้ายแรงได้เมื่อสัมผัสกับผิวหนัง ผู้ได้รับบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสขาวในสงครามอื่นๆ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสขาวในสงครามอื่นๆ แผลที่ถูกฟอสฟอรัสขาวกัด จะมีลักษณะเหมือนแผลไฟไหม้ และรุนแรงถึงกระดูก แผลของผู้ที่สัมผัสจะหายช้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี เช่นต้องเอาฟอสฟอรัสขาวออกจากแผลให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเกิดบาดแผลเรื้อรัง และสามารถลุกติดไฟได้หากฟอสฟอรัสขาวที่ค้างในผิวหนังเจอกับออกซิเจน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสต้องทนทุกข์ทรมานตลอดชีวิต จากการหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ ทำให้เคลื่อนไหวได้ลำบาก เมื่อเวลาผ่านไป แผลที่ได้รับบาดเจ็บจะเปลี่ยนเป็นแผลเป็นแบบไฟไหม้ และสร้างความเจ็บปวดทางจิตใจได้ "ฟอสฟอรัสขาว" ถือเป็นอาวุธชนิดหนึ่งในการภาวะสงคราม แม้ว่าอาวุธที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ จะไม่ได้ถูกห้ามอย่างชัดเจนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ แต่ตามหลักปฏิบัติสากลถือว่ารัฐต่างๆ ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อพลเรือนที่เกิดจากอาวุธเหล่านั้น นอกจากนี้ อาวุธเพลิงยังอยู่ภายใต้ระเบียบข้อ 3 ของ CCW ปาเลสไตน์และเลบานอนได้เข้าร่วมระเบียบข้อ 3 ในขณะที่อิสราเอลยังไม่ได้ให้สัตยาบันระเบียบข้อ 3 ห้ามการใช้อาวุธเพลิงที่ทิ้งลงทางอากาศใน "ชุมชน" แต่กระนั้น ก็มีช่องโหว่ใหญ่ๆ 2 ช่อง คือ ควันที่เกิดจากการสัมผัสออกซิเจนของฟอสฟอรัสขาว ควันที่เกิดจากการสัมผัสออกซิเจนของฟอสฟอรัสขาว ผลกระทบเหล่านี้ ทำให้องค์กร Human Rights Watch และ รัฐภาคีของ CCW หลายแห่งแนะนำให้ปิดช่องโหว่ดังกล่าวและพัฒนาข้อจำกัดในการใช้อาวุธเพลิงไหม้ภาคพื้นดินเพิ่มขึ้น CCW คือ อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธธรรมดา ซึ่งปัจจุบันเป็นกฎหมายระหว่างประเทศเพียงฉบับที่ควบคุมอาวุธเพลิง Human Right Watch ระบุว่าตั้งแต่ 27 ธ.ค.2551 - 18 ม.ค.2552 หรือราว 23 วัน อิสราเอลยิงกระสุนฟอสฟอรัสขาวกว่า 200 ลูกเข้าไปในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซา ทำให้เกิดเพลิงไหม้เป็นบริเวณกว้าง กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลระบุว่า กองทัพอิสราเอลใช้กระสุนเพียงเพื่อสร้างม่านควันเท่านั้น แต่ในมุมมองของ Human Right Watch เห็นว่า ไม่ว่าจุดประสงค์ที่ชัดเจนคืออะไร แต่เหตุการณ์นั้นทำให้พลเรือนในกาซา บาดเจ็บ และ ล้มตายหลายสิบคน นอกจากนี้ ฟอสฟอรัสขาว ยังสร้างความเสียหายให้กับที่อยู่อาศัยและสถานที่สำคัญอีกมาก เช่น โรงเรียน ตลาด ค่ายผู้อพยพ และ โรงพยาบาล การโจมตีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจทั้งในและต่างประเทศ ในปี 2556 "อิสราเอล" ให้คำมั่นต่อศาลสูงสุดระหว่างประเทศว่าจะไม่ใช้ "ฟอสฟอรัสขาว" กับพลเรือนเมื่อโจมตีกาซาอีกต่อไป แต่ก็ยังมีบันทึกท้ายข้อความว่า แม้ว่าคำมั่นสัญญาต่อศาลฯ ว่าจะไม่ใช้ แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ในปี 2556 กองทัพอิสราเอลยังประกาศว่ากำลังพัฒนาควันเพื่ออำพรางตัวแบบใหม่ที่ปราศจากฟอสฟอรัสขาว แต่ระบุว่าขอสงวนสิทธิ์ในการใช้และสะสมกระสุนฟอสฟอรัสขาวจนกว่าจะมีทางเลือกอื่นเพียงพอ อ้างอิง : Human Right Watch
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 โฆษกของกองทัพอิสราเอลแถลงถึงกรณีที่มีการอ้างว่า กองทัพใช้ "ฟอสฟอรัสขาว" ในปฏ
วันนี้ (23 ก.พ.2564) เว็บไซต์ worldometers รายงานสถานการณ์ COVID-19 ทั่วโลก ติดเชื้อสะสม 112,258,917
กลายเป็นคลิปที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ หลังเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น พาร์ท 3 พร้อมระบุข้อความว่า
เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 โฆษกของกองทัพอิสราเอลแถลงถึงกรณีที่มีการอ้างว่า กองทัพใช้ "ฟอสฟอรัสขาว" ในปฏิบัติการโจมตีทางตอนใต้ของเลบานอน โดยระบุว่ากองทัพอิสราเอล ปฏิบัติงานตามแนวทางที่ชัดเจน คือยึดมั่นความถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเป็นแนวทางของกองทัพ ทั้งในปฏิบัติการทางตอนเหนือและตอนใต้ และเป็นสิ่งที่จะยึดมั่นต่อไป กลุ่มควันที่ขาวที่คาดว่าเกิดจากการระเบิดของฟอสฟอรัสขาวในกาซา กลุ่มควันที่ขาวที่คาดว่าเกิดจากการระเบิดของฟอสฟอรัสขาวในกาซา ด้านหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานการพบหลักฐานว่าอาวุธที่กองทัพอิสราเอลใช้โจมตีตอนใต้ของเลบานอน เป็นกระสุนซึ่งมีหมายเลขที่ระบุว่าอาวุธดังกล่าว ผลิตในสหรัฐฯ ในช่วงปี 1989-1992 สอดคล้องกับข้อมูลจากฝั่งเลบานอนที่ระบุว่าเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา อิสราเอลใช้อาวุธดังกล่าวก่อเหตุโจมตีซ้ำๆ ด้าน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ยอมรับว่า กังวลเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ระบุว่าอิสราเอลใช้ฟอสฟอรัสขาวซึ่งผลิตในสหรัฐฯ โดยได้สอบถามเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว พร้อมระบุว่าเมื่อใดก็ตามที่สหรัฐฯ ส่งมอบวัตถุอย่างฟอสฟอรัสขาวให้กองทัพอื่นๆ สหรัฐฯ คาดหวังอย่างเต็มที่ว่า อาวุธเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้อย่างชอบธรรมและสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ทั้งนี้ฟอสฟอรัสขาว ถือเป็นอาวุธเคมีต้องห้ามตามกฎหมายระหว่างประเทศ แต่สามารถนำมาใช้ได้ในกรณีที่ใช้ฟอสฟอรัสขาวเพื่อการอำพรางตัวหรือให้แสงสว่าง ในสมรภูมิรบ ในขณะที่คณะผู้แทนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเดินทางเยือนจุดผ่านแดนราฟาห์ ฝั่งประเทศอียิปต์ กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นโศกนาฏกรรม ที่ยืดเยื้อยาวนานเกินไป ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงถือว่าสันติภาพและความมั่นคงเป็นความรับผิดชอบอันดับแรก เจ้าหน้าที่สหประชาชาติให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อพลเรือนในกาซา เจ้าหน้าที่สหประชาชาติให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อพลเรือนในกาซา ส่วนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ของสหรัฐฯ กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใช้โซ่ตรวนมัดตัวเองติดกับรั้วของทำเนียบขาว เพื่อเรียกร้องให้หยุดยิงในกาซา ยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จัดโดยกลุ่ม "เสียงชาวยิวเพื่อสันติภาพ" กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใช้โซ่ตรวนมัดตัวเอง เรียกร้องการหยุดยิงในกาซา กลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันใช้โซ่ตรวนมัดตัวเอง เรียกร้องการหยุดยิงในกาซา อีกจุดหนึ่งที่มีการประท้วงในกรุงวอชิงตัน ดีซี คืออาคารรัฐสภา ซึ่งผู้ประท้วงพากันตะโกนและชูป้ายทีฝาก 50 รับ 100 ถอน ไม่ อั้น ล่าสุดฝาก 1 บาท ฟรี 99่มีข้อความเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการส่งอาวุธให้อิสราเอล และให้หยุดยิงในกาซา ซึ่งในเวลาต่อมาตำรวจของรัฐสภาได้นำตัวผู้ประท้วงออกจากอาคาร ผู้ประท้วงพากันตะโกนในรัฐสภาสหรัฐฯ ผู้ประท้วงพากันตะโกนในรัฐสภาสหรัฐฯ ฟอสฟอรัสขาวถูกจัดว่าเป็นอาวุธที่ก่อให้เกิดไฟลุกภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้อาวุธสงครามบางชนิด (Convention on the Prohibition of Use of Certain Conventional Weapons ; CCW) จากระเบียบข้อ 3 ของอนุสัญญาห้ามการใช้ฟอสฟอรัสขาวต่อเป้าโจมตีที่ใกล้กับพลเรือน แต่ "อิสราเอลไม่ได้ลงนามรับรองอนุสัญญาดังกล่าว" "ฟอสฟอรัสขาว" เป็นสารเคมีที่มักถูกบรรจุในกระสุนปืนใหญ่ ระเบิด เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนจะติดไฟได้ และเกิดความร้อนสูงถึง 815 องศาเซลเซียส มักถูกใช้ในวัตถุประสงค์ทางการทหารเพื่อการอำพรางตัว แต่ฟอสฟอรัสขาวก็ยังทำให้เกิดบาดแผลร้ายแรงได้เมื่อสัมผัสกับผิวหนัง ผู้ได้รับบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสขาวในสงครามอื่นๆ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสขาวในสงครามอื่นๆ แผลที่ถูกฟอสฟอรัสขาวกัด จะมีลักษณะเหมือนแผลไฟไหม้ และรุนแรงถึงกระดูก แผลของผู้ที่สัมผัสจะหายช้าหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี เช่นต้องเอาฟอสฟอรัสขาวออกจากแผลให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเกิดบาดแผลเรื้อรัง และสามารถลุกติดไฟได้หากฟอสฟอรัสขาวที่ค้างในผิวหนังเจอกับออกซิเจน ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากฟอสฟอรัสต้องทนทุกข์ทรมานตลอดชีวิต จากการหดตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ ทำให้เคลื่อนไหวได้ลำบาก เมื่อเวลาผ่านไป แผลที่ได้รับบาดเจ็บจะเปลี่ยนเป็นแผลเป็นแบบไฟไหม้ และสร้างความเจ็บปวดทางจิตใจได้ "ฟอสฟอรัสขาว" ถือเป็นอาวุธชนิดหนึ่งในการภาวะสงคราม แม้ว่าอาวุธที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ จะไม่ได้ถูกห้ามอย่างชัดเจนตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ แต่ตามหลักปฏิบัติสากลถือว่ารัฐต่างๆ ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อพลเรือนที่เกิดจากอาวุธเหล่านั้น นอกจากนี้ อาวุธเพลิงยังอยู่ภายใต้ระเบียบข้อ 3 ของ CCW ปาเลสไตน์และเลบานอนได้เข้าร่วมระเบียบข้อ 3 ในขณะที่อิสราเอลยังไม่ได้ให้สัตยาบันระเบียบข้อ 3 ห้ามการใช้อาวุธเพลิงที่ทิ้งลงทางอากาศใน "ชุมชน" แต่กระนั้น ก็มีช่องโหว่ใหญ่ๆ 2 ช่อง คือ ควันที่เกิดจากการสัมผัสออกซิเจนของฟอสฟอรัสขาว ควันที่เกิดจากการสัมผัสออกซิเจนของฟอสฟอรัสขาว ผลกระทบเหล่านี้ ทำให้องค์กร Human Rights Watch และ รัฐภาคีของ CCW หลายแห่งแนะนำให้ปิดช่องโหว่ดังกล่าวและพัฒนาข้อจำกัดในการใช้อาวุธเพลิงไหม้ภาคพื้นดินเพิ่มขึ้น CCW คือ อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธธรรมดา ซึ่งปัจจุบันเป็นกฎหมายระหว่างประเทศเพียงฉบับที่ควบคุมอาวุธเพลิง Human Right Watch ระบุว่าตั้งแต่ 27 ธ.ค.2551 - 18 ม.ค.2552 หรือราว 23 วัน อิสราเอลยิงกระสุนฟอสฟอรัสขาวกว่า 200 ลูกเข้าไปในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซา ทำให้เกิดเพลิงไหม้เป็นบริเวณกว้าง กระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลระบุว่า กองทัพอิสราเอลใช้กระสุนเพียงเพื่อสร้างม่านควันเท่านั้น แต่ในมุมมองของ Human Right Watch เห็นว่า ไม่ว่าจุดประสงค์ที่ชัดเจนคืออะไร แต่เหตุการณ์นั้นทำให้พลเรือนในกาซา บาดเจ็บ และ ล้มตายหลายสิบคน นอกจากนี้ ฟอสฟอรัสขาว ยังสร้างความเสียหายให้กับที่อยู่อาศัยและสถานที่สำคัญอีกมาก เช่น โรงเรียน ตลาด ค่ายผู้อพยพ และ โรงพยาบาล การโจมตีดังกล่าวสร้างความไม่พอใจทั้งในและต่างประเทศ ในปี 2556 "อิสราเอล" ให้คำมั่นต่อศาลสูงสุดระหว่างประเทศว่าจะไม่ใช้ "ฟอสฟอรัสขาว" กับพลเรือนเมื่อโจมตีกาซาอีกต่อไป แต่ก็ยังมีบันทึกท้ายข้อความว่า แม้ว่าคำมั่นสัญญาต่อศาลฯ ว่าจะไม่ใช้ แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ในปี 2556 กองทัพอิสราเอลยังประกาศว่ากำลังพัฒนาควันเพื่ออำพรางตัวแบบใหม่ที่ปราศจากฟอสฟอรัสขาว แต่ระบุว่าขอสงวนสิทธิ์ในการใช้และสะสมกระสุนฟอสฟอรัสขาวจนกว่าจะมีทางเลือกอื่นเพียงพอ อ้างอิง : Human Right Watch
วันนี้ (1 มิ.ย.2567) เมื่อช่วงกลางดึกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายภูริณัฐ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาฆ่านายไพศาล