วันแรก! เช็กราคาปรับค่าแท็กซี่อัตราใหม่เริ่มกม.แรก 40 บาท

วันนี้ (27 มี.ค.2564) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในประเทศ วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 80 คน จำแนกเป็น ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 แฮกเกอร์

หลายคนอาจได้ติดตามข่าว กรณีที่กระทรวงสาธารณสุขของประเทศบราซิลรายงาน เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2567 ว่า พบผู้ป่วย "โรคไข้โอโรพุช" หรือ Oropouche Fever เสียชีวิต 2 คนแรกของโลกที่บราซิล ข้อมูล เมื่อวันที่ 23 ก.

ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 3 แฮกเกอร์แก้ไขวงเงิน ระบบเติมเงินทรูมูฟ 105 ล้านบาท ศาลฎีกาสั่งจำคุก 50 ปีแฮกเกอร์แก้ไขระบบเติมเงินทรูมูฟกว่า 105 ล้านบาท วันนี้ (13 ก.ค.2558) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด แจ้งว่า สืบเนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.4948/2551 ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 โจทก์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด โจทก์ร่วม นายทวีทรัพย์ ลลิตศศิวิมล จำเลยที่ 1 นายปรเมศ วิทยากร จำเลยที่ 2 และนายฉัตรชัย บูรณะดิษ จำเลยที่ 3 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ร่วมกันฉ้อโกงโดยการโจรกรรมข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เข้าระบบข้อมูลของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ไขวงเงินการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินให้มีมูลค่าสูงขึ้น 105 ล้านบาทและได้นำออกไปจำหน่าย 12 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ให้ จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 48 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 96 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 64 ปี แต่ให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 16 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 32 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 21 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 4 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 5 ปี 4 เดือน วันนี้ (13 ก.ค.2558) บริษัท ทรู มูฟ จำกัด แจ้งว่า สืบเนื่องจากคดีหมายเลขแดงที่ อ.494man u vs chelsea ดู ออนไลน์8/2551 ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 โจทก์ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด โจทก์ร่วม นายทวีทรัพย์ ลลิตศศิวิมล จำเลยที่ 1 นายปรเมศ วิทยากร จำเลยที่ 2 และนายฉัตรชัย บูรณะดิษ จำเลยที่ 3 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 3 ฐานร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีไว้เพื่อจำหน่ายบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ร่วมกันฉ้อโกงโดยการโจรกรรมข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน เข้าระบบข้อมูลของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด เพื่อเข้าไปแก้ไขวงเงินการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินให้มีมูลค่าสูงขึ้น 105 ล้านบาทและได้นำออกไปจำหน่าย 12 ล้านบาทเศษ ทำให้บริษัท ทรู มูฟ จำกัด ได้รับความเสียหาย ขณะนี้ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลอาญาได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 ให้ จำคุกจำเลยที่ 1 ฐานร่วมกันปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 48 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 96 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 64 ปี แต่ให้ลงโทษจำคุก 50 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด จำคุกจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และกระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 16 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 32 ปีลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 21 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานร่วมกันจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม รวม 4 กรรม จำคุกกระทงละ 2 ปี เป็นจำคุก 8 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 แล้วจำคุก 5 ปี 4 เดือน

วันนี้ (5 ก.พ.2567) ตำรวจไซเบอร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. เตือนภัย เทศกาลตรุษจีน 2567 ระวัง ถูกหลอกแจกอั่งเปาออนไลน์ ซึ่งมิจฉาชีพจะหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ 1. มิจฉาชีพจะส่งข้อความผ่านช่องทางต่า