เครดิต ฟรี ยืนยัน ตัว ตน เครดิต ฟรี ยืนยัน ตัว ตน-แจก เครดิต ฟรี เดือน เกิด 2019แทง บอล ฝาก ไม่มี ขั้น ต่ํา-เดิมพันฟรี เล่นไพ่ดัมมี่ออนไลน์ ได้เงินจริง

ligaz888 line

วันนี้ (15 พ.ย.2565) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.2565 ถึงวันที่ 20 ม

“ตลาด-โรงเรียน” ส่องความคิดและทำอย่างมีระบบ “ลดอุบัติเหตุ” “ตลาด-โรงเรียน” ส่องความคิดและทำอย่างมีระ

“ตลาด-โรงเรียน” ส่องความคิดและทำอย่างมีระบบ “ลดอุบัติเหตุ” “ตลาด-โรงเรียน” ส่องความคิดและทำอย่างมีระบบ “ลดอุบัติเหตุ” ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ยานพาหนะของมนุษย์ อาทิ พฤติกรรมเมาแล้วขับ การใช้ความเร็วเกินพิกัด หรือความประมาท  ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางด้านชีวิต และทรัพย์สินตามมา นอกจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในขั้นต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ควรมองข้าม คือการจัดระเบียบการจราจรบริเวณ 2 ฟากฝั่งถนนในชุมชน อาทิ การตีเส้นทางจราจรตามท้องถนน การจัดการกับตลาดริมทาง การจราจรบริเวณชุมชนโดยเฉพาะตามสถานศึกษาต่างๆ จากผลสำรวจสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงของสำนักอำนวยความปลอดภัยทางถนน กรมทางหลวงพบว่า อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับอันตรายข้างทางที่มีสัดส่วนสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพื่อหาจุดร่วม และนำเสนอจุดต่างในการป้องกันอุบัติเหตุในชุมชนร่วมกัน ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ องค์กรและภาคีเครือข่ายอุบัติเหตุทางถนน ได้ร่วมจัดเวทีเสวนา ผ่านรูปแบบเวทีเสวนาย่อยในหัวข้อ“เดินทางปลอดภัย ไม่ไกลเกินฝัน”กับการจัดการความปลอดภัยบริเวณสถานที่ที่มีการเดินทางสัญจรในชีวิตประจำวัน โดยมีตัวแทนจากผู้ประกอบการตลาดริมทางหลวง ตัวแทนจากสถานศึกษา มาร่วมวงเสวนาใน 2 หัวข้อ ประกอบด้วย “ตลาดปลอดภัย...สร้างรายได้ด้วยการจัดการ”และ“ไปมาโรงเรียน สะดวกและปลอดภัย...ร่วมมือร่วมใจจัดระบบจราจร” มาที่หัวข้อแรก“ตลาดปลอดภัย...สร้างรายได้ด้วยการจัดการ” มีตัวแทนสถานประกอบการ ตัวแทนจากตลาดริมทางหลวง ตลาดเร่ ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการตลาดริมทางให้เกิดเครดิต ฟรี ยืนยัน ตัว ตน เครดิต ฟรี ยืนยัน ตัว ตนระบบระเบียบ ด้านภูมิทัศน์ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ มาร่วมวงเสวนา นายวิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์ ผู้ประกอบการร้าน “โปรดปราณ” ตลาดเก่าปราณบุรี และนายโชดก วิริยะพงษ์ ตัวแทนผู้ประกอบการตลาดมายอง จ.ระยอง ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ  จึงมักมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปและกลับจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือ ปัญหาเรื่องการจราจร รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมกันนี้ยังเคยมีประวัติ พ่อค้าแม่ค้าเคยรถยนต์พุ่งชนไปในร้านค้า มีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บด้วย จากปัญหาที่เกิดขึ้นตัวแทนจากตลาดริมทางทั้งสองพื้นที่ ได้เผยถึงการจัดระเบียบตลาดริมทางไว้อย่างน่าสนใจคือ ตลาดจำต้องมีที่จอดรถ ต้องมีการปรับภูมิทัศน์ทางเข้า มีโซนขายสินค้าชัดเจน มีห้องน้ำไว้บริการ พร้อมชี้ถึงผลเสียให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้รับรู้ ยกตัวอย่างเช่น  หากไม่ปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ ไม่มีที่จอดรถ หรือยังมีสายไฟระแกะระกะ รวมถึงห้องน้ำไม่มีไว้บริการ หรือจะยังขายของตามริมทางตามใจฉัน นอกจากไม่เกิดความเป็นระเบียบและความสวยงามน่าซื้อแล้ว อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นตามมา รวมไปถึงรายได้ที่อาจลดน้อยลงด้วย ตัวแทนผู้ประกอบการตลาดมายองยังชี้ด้วยว่า เริ่มแรก เราให้พวกเขาเหล่านี้มาขายในสถานที่ที่เราจัดให้ โดยให้มาขายฟรีๆ ไม่เสียค่าที่ เขายังไม่มาเลย แต่เมื่อชี้ถึงผลเสียประกอบกับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็เจอกับประสบการณ์ตรง ทั้งรายได้ที่น้อยลงและการเกิดอุบัติเหตุ เหล่าบรรดาแม่ค้าพ่อค้าจึงมาหนุนร่วมกับเราในที่สุด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาซื้อมากขึ้น รายได้ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ผู้ประกอบการร้าน “โปรดปราณ” ตลาดเก่าปราณบุรี ได้ร่วมสะท้อนว่า “ตลาดริมทางจำเป็นต้องมี เพราะเราเป็นตลาดขายวิถีชีวิตที่สะท้อนถึงประเพณี วัฒนธรรม  แม้สภาพโลกยุคใหม่ เราจะสะกัดกั้นมันไม่ได้ แต่การพัฒนาสิ่งใหม่นั้น ไม่ควรทอดทิ้งสิ่งเก่า ที่สำคัญต้องผ่านการบริหารจัดการอย่างมีระบบ จะสามารถสร้างคุณค่า และรายได้ชนิดแบบยั่งยืน” มาที่หัวข้อสนทนาที่สอง เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการจัดการชุมชน โดยเฉพาะการจราจรเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ในหัวข้อ “ไปมาโรงเรียน สะดวกและปลอดภัย...ร่วมมือร่วมใจจัดระบบจราจร” ผ่านบทเรียนการจัดการจราจรอย่างมีระบบของ “โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย”โดยมีประเด็นการจัดการที่น่าสนใจคือ การอนุญาตให้รถผู้ปกครองที่มารับส่งนักเรียนสามารถเข้ามาส่งและรับภายในโรงเรียนได้ เพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจรและการเกิดอุบัติเหตุ นายสุวิทย์ เทียมทัด รองผอ.โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย เปิดเผยถึงที่มาในการจัดทำโครงการว่า เริ่มแรกโรงเรียนหัวหินวิทยาลัยก็มีการจัดการจราจรเหมือนๆ กับโรงเรียนทั่วไป คือปิดประตูหน้าโรงเรียน ถ้ามีผู้ปกครองขับรถมารับมาส่ง ก็จะจอดตรงหน้าโรงเรียน ตรงนี้ส่งผลให้การจรจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เกิดทัศนวิสัยไม่ดีด้านการจราจร และส่งผลโดยตรงเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ จึงมาคิดว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไรดี และจากประสบการณ์ที่ไปดูงานในต่างประเทศพบว่า เขาให้ผู้ปกครองขับรถรับส่งภายในโรงเรียนเลย หรือบางประเทศ รถเขาจะจอดนอกเขตโรงเรียน แล้วให้นักเรียนเดินเท้าเข้ามา จากประเด็นการดูงานในต่างประเทศที่ว่านี้ จึงเกิดแนวคิดมาปรับเปลี่ยนประยุกต์ใช้ โดยต้องเปิดประตูโรงเรียนทุกครั้งที่เปิดทำการเพื่อให้รถผู้ปกครองสามารถขับรถมาส่งนักเรียนภายในโรงเรียนได้ โดยทำแบบวันเวย์ แยกพื้นที่รถที่จอดรอ กับรถที่ส่งหรือรับอย่างเดียวออกจากกันชัดเจน ผลที่ตามมาคือ รถไม่ติดเหมือนก่อน ความเคลียดก็ไม่เกิดขึ้น ปัญหารถเฉี่ยวชนเด็กนักเรียนที่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็ไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว รอง ผอ.โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ยังระบุทิ้งท้ายว่า โรงเรียนในพื้นที่ กทม. น่าจะนำแนวคิดนี้ไปทดลองใช้เพื่อแก้ปัญหาการจรจาจรที่ติดขัดอย่างหนัก นับเป็นตัวอย่าง การมีส่วนร่วมและลงมือทำ  ที่การเดินทางปลอดภัยนับจากนี้ จะไม่ไกลเกินฝันอีกแล้ว ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ยานพาหนะของมนุษย์ อาทิ พฤติกรรมเมาแล้วขับ การใช้ความเร็วเกินพิกัด หรือความประมาท  ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางด้านชีวิต และทรัพย์สินตามมา นอกจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุในขั้นต้นแล้ว ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ควรมองข้าม คือการจัดระเบียบการจราจรบริเวณ 2 ฟากฝั่งถนนในชุมชน อาทิ การตีเส้นทางจราจรตามท้องถนน การจัดการกับตลาดริมทาง การจราจรบริเวณชุมชนโดยเฉพาะตามสถานศึกษาต่างๆ จากผลสำรวจสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงของสำนักอำนวยความปลอดภัยทางถนน กรมทางหลวงพบว่า อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับอันตรายข้างทางที่มีสัดส่วนสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพื่อหาจุดร่วม และนำเสนอจุดต่างในการป้องกันอุบัติเหตุในชุมชนร่วมกัน ทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ องค์กรและภาคีเครือข่ายอุบัติเหตุทางถนน ได้ร่วมจัดเวทีเสวนา ผ่านรูปแบบเวทีเสวนาย่อยในหัวข้อ“เดินทางปลอดภัย ไม่ไกลเกินฝัน”กับการจัดการความปลอดภัยบริเวณสถานที่ที่มีการเดินทางสัญจรในชีวิตประจำวัน โดยมีตัวแทนจากผู้ประกอบการตลาดริมทางหลวง ตัวแทนจากสถานศึกษา มาร่วมวงเสวนาใน 2 หัวข้อ ประกอบด้วย “ตลาดปลอดภัย...สร้างรายได้ด้วยการจัดการ”และ“ไปมาโรงเรียน สะดวกและปลอดภัย...ร่วมมือร่วมใจจัดระบบจราจร” มาที่หัวข้อแรก“ตลาดปลอดภัย...สร้างรายได้ด้วยการจัดการ” มีตัวแทนสถานประกอบการ ตัวแทนจากตลาดริมทางหลวง ตลาดเร่ ที่ประสบความสำเร็จในการจัดการตลาดริมทางให้เกิดระบบระเบียบ ด้านภูมิทัศน์ ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ มาร่วมวงเสวนา นายวิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์ ผู้ประกอบการร้าน “โปรดปราณ” ตลาดเก่าปราณบุรี และนายโชดก วิริยะพงษ์ ตัวแทนผู้ประกอบการตลาดมายอง จ.ระยอง ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เนื่องจากพื้นที่จังหวัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ  จึงมักมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปและกลับจำนวนมาก สิ่งที่ตามมาและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็คือ ปัญหาเรื่องการจราจร รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมกันนี้ยังเคยมีประวัติ พ่อค้าแม่ค้าเคยรถยนต์พุ่งชนไปในร้านค้า มีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บด้วย จากปัญหาที่เกิดขึ้นตัวแทนจากตลาดริมทางทั้งสองพื้นที่ ได้เผยถึงการจัดระเบียบตลาดริมทางไว้อย่างน่าสนใจคือ ตลาดจำต้องมีที่จอดรถ ต้องมีการปรับภูมิทัศน์ทางเข้า มีโซนขายสินค้าชัดเจน มีห้องน้ำไว้บริการ พร้อมชี้ถึงผลเสียให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าได้รับรู้ ยกตัวอย่างเช่น  หากไม่ปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ ไม่มีที่จอดรถ หรือยังมีสายไฟระแกะระกะ รวมถึงห้องน้ำไม่มีไว้บริการ หรือจะยังขายของตามริมทางตามใจฉัน นอกจากไม่เกิดความเป็นระเบียบและความสวยงามน่าซื้อแล้ว อุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นตามมา รวมไปถึงรายได้ที่อาจลดน้อยลงด้วย ตัวแทนผู้ประกอบการตลาดมายองยังชี้ด้วยว่า เริ่มแรก เราให้พวกเขาเหล่านี้มาขายในสถานที่ที่เราจัดให้ โดยให้มาขายฟรีๆ ไม่เสียค่าที่ เขายังไม่มาเลย แต่เมื่อชี้ถึงผลเสียประกอบกับเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าก็เจอกับประสบการณ์ตรง ทั้งรายได้ที่น้อยลงและการเกิดอุบัติเหตุ เหล่าบรรดาแม่ค้าพ่อค้าจึงมาหนุนร่วมกับเราในที่สุด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวมาซื้อมากขึ้น รายได้ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ขณะที่ผู้ประกอบการร้าน “โปรดปราณ” ตลาดเก่าปราณบุรี ได้ร่วมสะท้อนว่า “ตลาดริมทางจำเป็นต้องมี เพราะเราเป็นตลาดขายวิถีชีวิตที่สะท้อนถึงประเพณี วัฒนธรรม  แม้สภาพโลกยุคใหม่ เราจะสะกัดกั้นมันไม่ได้ แต่การพัฒนาสิ่งใหม่นั้น ไม่ควรทอดทิ้งสิ่งเก่า ที่สำคัญต้องผ่านการบริหารจัดการอย่างมีระบบ จะสามารถสร้างคุณค่า และรายได้ชนิดแบบยั่งยืน” มาที่หัวข้อสนทนาที่สอง เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการจัดการชุมชน โดยเฉพาะการจราจรเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ในหัวข้อ “ไปมาโรงเรียน สะดวกและปลอดภัย...ร่วมมือร่วมใจจัดระบบจราจร” ผ่านบทเรียนการจัดการจราจรอย่างมีระบบของ “โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย”โดยมีประเด็นการจัดการที่น่าสนใจคือ การอนุญาตให้รถผู้ปกครองที่มารับส่งนักเรียนสามารถเข้ามาส่งและรับภายในโรงเรียนได้ เพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจรและการเกิดอุบัติเหตุ นายสุวิทย์ เทียมทัด รองผอ.โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย เปิดเผยถึงที่มาในการจัดทำโครงการว่า เริ่มแรกโรงเรียนหัวหินวิทยาลัยก็มีการจัดการจราจรเหมือนๆ กับโรงเรียนทั่วไป คือปิดประตูหน้าโรงเรียน ถ้ามีผู้ปกครองขับรถมารับมาส่ง ก็จะจอดตรงหน้าโรงเรียน ตรงนี้ส่งผลให้การจรจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก เกิดทัศนวิสัยไม่ดีด้านการจราจร และส่งผลโดยตรงเป็นความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ จึงมาคิดว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไรดี และจากประสบการณ์ที่ไปดูงานในต่างประเทศพบว่า เขาให้ผู้ปกครองขับรถรับส่งภายในโรงเรียนเลย หรือบางประเทศ รถเขาจะจอดนอกเขตโรงเรียน แล้วให้นักเรียนเดินเท้าเข้ามา จากประเด็นการดูงานในต่างประเทศที่ว่านี้ จึงเกิดแนวคิดมาปรับเปลี่ยนประยุกต์ใช้ โดยต้องเปิดประตูโรงเรียนทุกครั้งที่เปิดทำการเพื่อให้รถผู้ปกครองสามารถขับรถมาส่งนักเรียนภายในโรงเรียนได้ โดยทำแบบวันเวย์ แยกพื้นที่รถที่จอดรอ กับรถที่ส่งหรือรับอย่างเดียวออกจากกันชัดเจน ผลที่ตามมาคือ รถไม่ติดเหมือนก่อน ความเคลียดก็ไม่เกิดขึ้น ปัญหารถเฉี่ยวชนเด็กนักเรียนที่เคยเกิดขึ้นบ่อยครั้งก็ไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว รอง ผอ.โรงเรียนหัวหินวิทยาลัย ยังระบุทิ้งท้ายว่า โรงเรียนในพื้นที่ กทม. น่าจะนำแนวคิดนี้ไปทดลองใช้เพื่อแก้ปัญหาการจรจาจรที่ติดขัดอย่างหนัก นับเป็นตัวอย่าง การมีส่วนร่วมและลงมือทำ  ที่การเดินทางปลอดภัยนับจากนี้ จะไม่ไกลเกินฝันอีกแล้ว

วันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) เรื่อง เหตุการณ์ผู้ก่อเหตุถือปืนบุกยิงผู้ป่วยที่หอผู้ป่วย COVID ส่วนขยาย 6+1 กรมการแพทย์ โดยมีเนื้อหาดังนี้ จ