วันนี้ (16 าส.ค.67) ศึกวอลเลย์บอลซีวีลีก ประเภททีม
3 สิงหาคม 2025 - 00:59
วันนี้ (9 ก.ย.2566) ประมาณ 09.30 น. พนักงานสอบสวนก
3 สิงหาคม 2025 - 00:59

วันนี้ (25 ส.ค.2566) บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ชี้แจงกรณีแผ่นบัวตกแต่งขอบทางวิ่งร่วงหล่น เมื่อเวลา 18.16 น. ของวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยบีทีเอส ระบุว่า ขออ

วันนี้ (26 ก.พ.2568) นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะตัวแทนรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมวิป 3​ ฝ่าย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.2568) ว่า วันนี้ได้มีการห

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 พล.อ.ต.นพ.อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กรมการแพทย์ออกแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 21 ก.ค.2564 สำหรับสาระสำคัญ ระบุว่า การรักษา COVID-19 แบ่งกลุ่มตามอาการได้เป็น 4 กรณี ดังนี้1.ผู้ติดเชื้อ COVID-19 ไม่มีอาการอื่น ๆ หรือสบายดี แนะนําให้แยกกักตัวที่บ้านหรือในสถานที่รัฐจัดให้อย่างน้อย 14 วัน นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ ระยะเวลาการกักตัว (ในสถานพยาบาลรวมกับที่บ้าน) อาจนานกว่านี้ในผู้ป่วยบางรายขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์โดยให้ดูแลรักษาตามดุลยพินิจของแพทย์ไม่ให้ยาต้านไวรัส เนื่องจากส่วนมากหายได้เองและอาจได้รับผลข้างเคียงจากยา โดยให้พิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจรในกลุ่มที่ไม่มีอาการขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์2.ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง /โรคร่วมสำคัญ ภาพถ่ายรังสีปอดปกติพิจารณาให้ยาฟาวิพิราเวียร์ (favipiravir) เริ่มให้ยาเร็วที่สุด หากตรวจพบเชื้อมาเกิน 7 วัน และผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยอาจไม่จําเป็นต้องให้ยาต้านไวรัส เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้น่าจะหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนแนะนําให้แยกกักตัวที่บ้านหรือในสถานที่รัฐจัดให้หากเข้าเกณฑ์ที่จะรับการรักษาแบบ home isolation หรือ community isolation ก็สามารถให้การรักษาในลักษณะดังกล่าวได้โดยให้ปฏิบัติตามหลักการแยกโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเป็นเวลาอย่างน้อย (รวมทุกระบบบอล สด 77การรักษา) 14 วัน นับจากวันที่เริ่มมีอาการหรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น อย่างน้อย 24 - 48 ชั่วโมง3.ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือมีโรคร่วมสําคัญ หรือผู้ป่วยที่มีปอดบวม (pneumonia) เล็กน้อย ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ข้อ 4 ปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ได้แก่ อายุมากกว่า 60 ปี มีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) รวมโรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ โรคไตเรื้อรัง (CKD) โรคหัวใจ และหลอดเลือด รวมโรคหัวใจแต่กําเนิด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ รวมถึงมีภาวะอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 90 กก. หรือ BMI ≥30 กก./ตร.ม.) ตับแข็ง ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ และ lymphocyte น้อยกว่า 1,000 เซลล์/ลบ.มม. หรือผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงของโรคมากขึ้น แนะนําให้รักษาในโรงพยาบาล โดยให้อยู่ในระบบการรักษาและการแยกโรคอย่างน้อย 14 วัน นับจากวันที่เริ่มมีอาการหรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น (อาจอยู่โรงพยาบาลน้อยกว่า 14 วัน แล้วกลับไปกักตัวต่อที่บ้านจนครบ 14 วัน)แนะนําให้ยาฟาวิพิราเวียร์ (favipiravir) โดยเริ่มให้ยาเร็วที่สุด ให้ยานาน 5 วัน หรือมากกว่า ขึ้นกับอาการทางคลินิก ตามความเหมาะสมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ พิจารณาให้ corticosteroid ร่วมกับ favipiravir ในกรณีที่มีผู้ป่วยมีอาการและภาพถ่ายรังสีปอดที่แย่ลง คือ มี progression of infiltrates หรือค่า room air SpO2 ≤96% หรือพบว่ามี SpO2 ขณะออกแรงลดลง ≥3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรก (exercise-induced hypoxia)4.ผู้ป่วยยืนยันที่มีปอดบวมที่มี hypoxia (resting O2 saturation ≤96 %) หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจน SpO2 ≥3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรกขณะออกแรง (exercise-induced hypoxemia) หรือภาพรังสีทรวงอกมี progression ของ pulmonary infiltratesแนะนําให้ยาฟาวิพิราเวียร์ (favipiravir) เป็นเวลา 5-10 วัน ขึ้นกับอาการทางคลินิก โดยอาจพิจารณาให้ lopinavir/ritonavir 5-10 วัน ร่วมด้วย (ตามดุลยพินิจของแพทย์) และแนะนําให้ corticosteroid

เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 พล.อ.ต.นพ.อิทธิพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า กรมการแพทย์ออกแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรั

วันนี้ (4 เม.ย.2568) นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์สายพันธุ์เชื้อ