UID: 63939

งบกลาง 3,045 ล้านบาท คือตัวเลขเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย แต่ยังไม่มีรายละเอีย

นักบาสเกตบอลและพ่อค้าอาวุธสงคราม แม้ความรุนแรงของการกระทำความผิดของแต่ละคน ที่ดูแล้วต่างกันจนแทบไม่น

นักบาสเกตบอลและพ่อค้าอาวุธสงคราม แม้ความรุนแรงของการกระทำความผิดของแต่ละคน ที่ดูแล้วต่างกันจนแทบไม่น่าเชื่อว่า นักโทษ 2 คน บริทนีย์ ไกรเนอร์ นักบาสเกตบอลหญิงชาวอเมริกัน ที่ถูกตัดสินจำคุกด้วยข้อหาครอบครองและนำน้ำมันกัญชาเข้าประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามของประเทศ และ วิกเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธสงครามในยุค 1990 ชายผู้เป็นที่หมายหัวจากตำรวจทั่วทั้งโลกด้วยสมญานาม “พ่อค้าแห่งความตาย” จะได้มาเจอกันที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ด้วยเหตุผล “การแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ” แม้ โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ จะยืนยันด้วยตัวเองว่า การได้ บริตนีย์ ไกรเนอร์ กลับมานั้นคุ้มค่าแก่การแลกตัวนักโทษแล้ว เพราะมองถึงเรื่องมนุษยธรรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ไบเดน ต้องเสี่ยงกับการถูกโจมตีจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน ที่ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงตำหนิว่า “รู้สึกอายแทน ที่เขา (ไบเดน) เลือกคนดังมากกว่ามังสวิรัติ” (บูท เป็นมังสวิรัติ)“เป็นการแลกเปลี่ยนที่แย่มาก เอาพ่อค้าความตายไปแลกกับน้ำมันกัญชา”“นี่คงเป็นของขวัญคริสต์มาสที่ดีของปูติน” และยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ เชอร์รีล ไกรเนอร์ คู่สมรสของ บริตนีย์ ไกรเนอร์ แอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศ วิกเตอร์ บูทคา สิ โน 369 เป็น 1 ในชายที่ตำรวจทั่วโลกต้องการตัวเป็นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1990 จนถึงต้นทศวรรษที่ 2000 เด็กชายบูท เกิดในทาจิกิสถาน ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไป บูท จึงได้สัญชาติรัสเซียมาแทน บูท ใช้ชีวิตวัยเด็กตามปกติ ทำงานเป็นหน่วยข่าวกรอง เป็นสมาชิกของ KGB หรือ หน่วยสืบราชการลับของรัสเซีย แต่เขาพยายามมองหาโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิตเสมอ บูท เปิดโอกาสให้ตัวเองในเส้นทางพ่อค้าอาวุธสงคราม ภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี พ.ศ.2534 เขาหาเงินซื้อเครื่องบินเก่าที่เหลือจากสงคราม และใช้มันเป็นพาหนะส่งอาวุธไปยังพื้นที่ที่ไม่มีการขนส่งทางอากาศที่ไหนอยากเข้าไป “พื้นที่สงคราม” จากนั้น บูท ก็เลื่อนขั้นชั้นธุรกิจตัวเขาเอง เป็นทั้งพ่อค้า นักธุรกิจ นักขนส่งอาวุธ ชื่อเสียงของ บูท ทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในสมญานาม “พ่อค้าความตาย” (Merchant of death) เพราะพันธมิตรทางการค้าของ บูท ส่วนใหญ่คือกลุ่มผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ เช่น กลุ่มอัลกออิดะห์ กลุ่มตาลีบัน นอกจากนั้น บูท ยังสนิทสนมกับคนใกล้ชิดของทั้งอดีตและปัจจุบัน ปธน.ของรัสเซีย อีกหลายคนด้วย ในยุคที่โลกกำลังซบเซาจากพิษของสงคราม แต่ธุรกิจของ บูท กลับรุ่งโรจน์ บูท ไม่ได้ทำธุรกิจกับลูกค้ากลุ่มก่อการร้ายแต่เพียงฝ่ายเดียว บริษัทขนส่งทางอากาศของ บูท นั้นยังให้บริการขนส่งทั่วโลก เรียกว่าบริการประทับใจทุกออเดอร์ ต้นทุนต่ำ ไม่มีข้อจำกัด ส่งอาวุธได้หลากหลาย ส่งถึงที่ ไม่ว่าปลายทางจะทุรกันดานมากแค่ไหน และลูกค้ารายหนึ่งที่เคยใช้บริการของ บูท ก็คือ รัฐบาลสหรัญฯ ที่เคยใช้เครื่องบินของ บูท ขนทหารและยุทโธปกรณ์ในช่วงสงครามสหรัฐฯ บุกอิรัก รวมถึง ดิก เซนีย์ อดีตรอง ปธน.สหรัฐฯ ในยุค ปธน.จอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็เป็นลูกค้าอีกคนหนึ่งของบริษัท บูท เช่นกัน ในปี 2543 สหประชาชาติประกาศว่า วิกเตอร์ บูท เป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ของโลก เป็นบุคคลอันตรายห้ามเดินทางข้ามประเทศ นั่นทำให้ตัว บูท ต้องอาศัยอยู่ภายในรัสเซียเท่านั้น แต่ทางการสหรัฐฯ ก็ไม่ลดละความพยายามที่จะได้ตัว บูท มา จึงส่งสายลับ 2 คนเข้าไปตีสนิท โดยทั้ง 2 คนอ้างว่า เป็นตัวแทนจากกลุ่ม FARC หรือ กองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย เป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลโคลอมเบีย ต้องการขายยาเสพติดให้ บูท และนำเงินไปซื้ออาวุธสงครามเพื่อนำไปโจมตีรัฐบาล และใช้เวลากว่า 7 ปีที่แผนการหลอกให้ บูท เดินทางออกจากรัสเซียจะสำเร็จ ในปี พ.ศ. 2551 บูท นัดเจอลูกค้าทั้ง 2 ที่ กทม. ประเทศไทย ระหว่างการพบปะ 2 ชั่วโมงนั้น พ่อค้าอาวุธก็บรรยายถึงสินค้าต่างๆ ที่บริษัทเตรียมมาให้ ไม่ว่าจะเป็น จรวดพร้อมระเบิด 700-800 ลูก กระสุนปืนอีกนับล้านนัด ปืนอากา-47 เครื่องบินขนส่ง 2 ลำ และเครื่องบินไร้คนขับ บังคับด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ทิ้งระเบิดทำลายสถานีเรดาร์ที่สหรัฐฯ สร้างไว้ในโคลอมเบีย และหลังการนั้น ทางตำรวจกองปราบปรามของไทย ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษงานต่อต้านการก่อการร้าย สำนักงานปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา (DEA) ก็เข้าจับกุม บูท ข้อหาร่วมกันจัดหาและรวบรวมทรัพย์สิน เพื่อการก่อการร้าย ซึ่งสหรัฐฯ ก็ยื่นเรื่องต้องการนำตัว บูท ไปดำเนินคดีต่อที่สหรัฐฯ ทันที วิกเตอร์ บูท ขณะถูกจับในประเทศไทย วิกเตอร์ บูท ขณะถูกจับในประเทศไทย แต่ศาลอาญาชั้นต้นของไทยในขณะนั้นตัดสินว่า คดีนี้เป็นคดีการเมือง ไม่ใช่คดีระหว่างประเทศ ไม่สามารถใช้ข้อบังคับจาก พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2475 ได้ เนื่องจากพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่า การตกลงซื้อขายในวันเกิดเหตุ เป็นการซื้อขายของกลุ่ม FARC ตัวจริง กับ วิกเตอร์ บูท จริงหรือไม่ ดังนั้น วิกเตอร์ บูท จึงถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำกลางคลองเปรมแทน ทางการสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากอยู่ในอธิปไตยของไทย แต่ก็มีความพยายามอีกครั้งคือยื่นอุทธรณ์ จนกระทั่งในเดือน พ.ย.2553 ความพยายามของสหรัฐฯ ก็สำเร็จ วิกเตอร์ บูท ถูกส่งตัวไปยังสหรัฐฯ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นเป็นผู้ยืนยันด้วยตัวเอง เสียงตะโกนในห้องพิพากษาที่สหรัฐฯ หลังจากที่ศาลของสหรัฐฯ ตัดสินว่า บูท มีความผิดข้อหาก่อการร้าย และจะต้องโทษจำคุก 25 ปีในเรือนจำที่มีการป้องกันความปลอดภัยระดับกลาง ที่เมืองแมเรียน รัฐอิลลินอยส์ รัฐบาลรัสเซีย ออกมากล่าวหาว่า รัฐบาลสหรัฐฯ นั้นจัดฉากเพื่อต้องการเก็บตัวอดีตสายลับรัสเซียคนนี้ไว้กับตัว เพื่อรีดเอาความลับของรัสเซีย และตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา รัสเซียพยายามเจรจาเพื่อนำตัว วิกเตอร์ บูท กลับมาที่รัสเซียโดยตลอด โดยให้เหตุผลว่า “เพื่อนรักของเราคนนี้” เป็นเพียงนักธุรกิจคนหนึ่งเท่านั้น แอนเดร โซลดาตอฟ นักข่าวชาวรัสเซียและผู้เชี่ยวชาญด้านบริการรักษาความปลอดภัย วิเคราะห์ว่า การได้มาซึ่งตัว วิกเตอร์ บูท ในครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะของรัสเซียในรอบ 10 กว่าปีที่พยายามเจรจาขอแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับสหรัฐฯ และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการ “ธนาคารตัวประกัน” ของรัสเซียก็ได้ เพราะยังมีนักโทษชาวรัสเซียอีกมากที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของรัสเซีย เช่นเหล่าแฮกเกอร์ชาวรัสเซียที่ยังถูกคุมขังไว้ในสหรัฐฯ นักวิเคราะห์ต่างประเทศของ CNN มองว่า รัสเซียอาจวางแผนที่จับกุมคนอเมริกันเพื่อนำมาต่อรองกับสหรัฐฯ มากขึ้นก็ได้ อย่างเช่นกรณีของ ไกรเนอร์ ที่ถูกจับก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะปะทุขึ้นเพียง 1 สัปดาห์ ก็ยิ่งเป็นแรงกดดันให้สหรัฐฯ ต้องรีบหาทางนำตัวชาวอเมริกันที่บริสุทธิ์กลับมาให้ไวที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พอใจของคนในประเทศ รวมถึงครอบครัวของ ไกรเนอร์ ที่เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ช่วยเหลือให้มากกว่านี้ วิกเตอร์ บูท เป็นใคร ทำไมทั้งรัสเซียถึงอยากได้ตัวกลับมา และสหรัฐฯ ถึงอยากเก็บเอาไว้ใกล้ๆ การตัดสินใจแลกตัวนักโทษที่มีฐานความผิดแตกต่างกันเช่นนี้ เป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่าต่อสหรัฐฯ และรัสเซียหรือไม่ อาจจะไม่สามารถตอบได้แน่ชัดนัก แต่ที่แน่ๆ ปูติน ปธน.รัสเซีย มีคำตอบออกมาอย่างชัดเจนว่า เมื่อสหรัฐฯ ต้องเร่งพยายามเจรจาเพื่อแลกตัว นักโทษชายอเมริกัน พอล เวลแลน อดีตนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่ถูกรัสเซียคุมขังไว้ด้วยข้อหาจารกรรมข้อมูล และต้องโทษจำคุก 16 ปี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า นักโทษที่ถูกกักขังด้วยข้อหานี้ จะมีการปฏิบัติที่แตกต่างไปจากนักโทษคดีอื่นๆ กับอดีตสายลับ KGB ที่รัสเซียต้องการคือ วาดิม คราสิคอฟ ที่ขณะนี้ถูกคุมขังในเรือนจำเยอรมนี “they have things they want in this world” รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวถึง รัสเซีย ไว้ ที่มา : AP, BBC, CNN

วันนี้ (1 ส.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานที่หน้าศาลฎีกา ตัวแทนเครือข่ายประชาชน นำโดยนายสุชาติ สวัสดิ์ศรี