เรือ Amerigo Vespucci ซึ่งเป็นเรือสำเภาสัญชาติอิตาลี ที่ได้รับสมญานามว่า the most beautiful ship in

ฝ่ายกบฏลิเบียประกาศเส้นตาย 48 ชั่วโมง ก่อนบุกเมืองบานีวาหลิด ฝ่ายกบฏในลิเบียยื่นคำขาดให้ประชาชนรีบหนีออกจากเมืองที่ยังคงภักดีต่อ พ.อ.โมฮัมมา กัดดาฟี ภายใน 48 ชั่วโมง โดยประกาศสุดท้ายนี้มีช่วงเวลาตั้งแ

เรือ Amerigo Vespucci ซึ่งเป็นเรือสำเภาสัญชาติอิตาลี ที่ได้รับสมญานามว่า the most beautiful ship in the world หรือเรือที่สวยที่สุดในโลก และยังเก่าแก่ที่สุดในโลกจากอิตาลี ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าเรือภูเก็ตเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (5 พ.ย.) เรือมีความโดดเด่นด้วยโครงสร้างเรือใบสามเสาที่งดงาม โครงเรือและลวดลายแกะสลักได้รับการออกแบบอย่างประณีตและสง่างาม ผสมผสานความคลาสสิกและความอลังการอย่างลงตัว โดยจะเปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้แล้ว ได้เข้าเยี่ยมชมระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย.นี้ จากนั้นจะเดินทางไปยังอินเดียต่อไป ขณะที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ได้จัดเรือตรวจการณ์และเฮลิคอปเตอร์ ออกไปต้อนรับและคุ้มกันความปลอดภัย พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการเข้าเทียบท่า อีกทั้งมีการบรรเลงดนตรีจากวงดุริยางค์ต้อนรับอย่างสมเกียรติ สำหรับเรือสำเภา Amerigo Vespucci สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1930 สำหรับฝึกทหารเรือของอิตาลี โดยตั้งชื่อเรือตาม Amerigo Vespucci นักสำรวจและต้นหนเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นเรือใบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเต็มลำ จะมีใบเรือ 24 ใบ พื้นที่ทั้งหมด 2,600 ตารางเมตร ความยาว 101 เมตร เสากระโดงหลักสามเสาสูงจากระดับน้ำทะเล 54 เมตร ความลึกในการกินน้ำสูงสุดคือ 7.30 เมตร และระวางขับน้ำ 4,100 ตัน ในช่วงแรกเรือลำนี้ถูกใช้งานเพื่อฝึกซ้อมการเดินสมุทรให้กับเหล่านาวิกโยธินชาวอิตาลี จากนั้นถูกใช้งานเพื่อเป็นเรือสำรวจน่านน้ำเชิงอนุรักษ์ เป็นเวลาอีกกว่า 30 ปี รวมแล้วอายุของเรือลำนี้มากกว่า 90 ปี โดยกำลังเดินทางรอบโลก เพื่อเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมของอิตาลี และจะแวะให้ผู้สนใจเข้าชมตามเมืองท่าต่าง ๆ 15 แห่ง ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของการออกเดินทางรอบโลก ซึ่งบนเรือนอกจากจะเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ยังมีภัตตาคารอิตาเว็บ maxbetเลี่ยน และรายการบันเทิงต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอิตาลี

จากกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ออกมาระบุถึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า ราคาคงเป็นไปตามข้อเสนอของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ให้เก็บค่าโดยสารตลอดสายไม่เกิน 59 บาท ในส่วนต่