ชาวปทุมธานีกระทบหนักหลังการประปาหยุดจ่ายน้ำ การประปาส่วนภูมิภาค สาขาธัญบุรี หยุดจ่ายน้ำประปาในพื้นที
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2567 กรมประมงระบุกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ตอนนี้พื้นที่ 13 จังหวัดในไทยเจอปัญหา "ปลาหมอคางดำ" ระบาดหนัก ซึ่งเป็นปลาต่างถิ่น อาศัยอยู่ปากน้ำ ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย ป่าชายเลน จนถึงบริเวณชา
เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2567 กรมประมงระบุกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ตอนนี้พื้นที่ 13 จังหวัดในไทยเจอปัญหา "ปลาหมอคางดำ" ระบาดหนัก ซึ่งเป็นปลาต่างถิ่น อาศัยอยู่ปากน้ำ ทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย ป่าชายเลน จนถึงบริเวณชายฝั่งทะเล ความสามารถเยอะ ทนความเค็มได้สูง วางไข่ได้ทั้งปี "แม่ปลา" ตัวหนึ่งสามารถวางไข่ได้ 50-300 ฟอง ต่อมาก็เป็นหน้าที่ "พ่อปลา" ที่ต้องดูแล "ลูกปลา" โดยการอมไข่ลูกปลาไว้ในปากตัวเองจนกว่าจะฟักตัวออกจากไข่ นาน 2-3 สัปดาห์ กายวิภาคของปลาหมอคางดำ มีลำไส้ยาว ยาวกว่าตัวมันเองถึง 4 เท่า จึงเป็นปลาที่มีนิสัยดุร้าย เพราะหิวบ่อย ต้องการอาหารตลอดเวลา อาหารของปลาหมอคางดำคือ "กินได้หมด" ทั้งพืช สัตว์น้ำ ลูกปลา ลูกกุ้ง ลูกหอย ปลาหมอคางดำ ปลาหมอคางดำ ที่ผ่านมา ชาวประมงพยายามหาทางกำจัดปลาหมอคางดำระยะตัวโตเต็มวัย แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล เมื่อเอาไปทำอาหาร เนื้อปลาก็ไม่อร่อย บางคนจับมาได้พอเจอสีสันตัวปลาที่แปลก ๆ ก็โยนกลับทิ้งลงน้ำ หรือบางคนก็ส่งโรงงานอาหารสัตว์ทำปลาป่น ก็ขายได้กิโลไม่ถึง 10 บาท อีกวิธีควบคุมประชากรปลาหมอคางดำ คือ ขณะที่เป็น "ลูกปลา" ใช้ปลานักล่า "กะพงขาว" เข้าไปจัดการ เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์น้ำ ภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มินตรา ศีลอุดม ไขคำตอบให้ว่า เหตุที่ต้องใช้ "ปลากะพงขาว" เพราะเป็นปลากลุ่มกินเนื้อ มีพฤติกรรมนักล่า สามารถเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนประชากรได้ และปัจจุบันมีฟาร์มเพาะเลี้ยงปลากะพงขาวในไทยจำนวนมาก ข้อสงสัยต่อมาคือ เมื่อพ่อปลาคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้ลูกปลา ด้วยการอมไว้ในปาก จะเป็นอุปสรรคที่ทำให้ปลากะพงขาวจัดการลูกปลาหมอคางดำได้ยากหรือไม่นั้น อ.มินตรา ระบุว่า เมื่อลูกปลาฟักเป็นตัวจะมีช่วงเวลาที่ออกมาจากปากพ่อปลา ปลากะพงขาวก็จะจัดการได้ "กินหมดไม่สนลูกใคร" ปลากะพงขาว ปลากะพงขาว สำหรับแนวคิดที่ว่า ทำไมต้องเจาะจงใช้ปลากะพงขาว นักวิชาการ มช. ตั้งข้อสังเกตว่า ในมุมมองทางเศรษฐกิจ ปลากะพงขาวถือเป็นปลาที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าปลาหมอคางดำ เป็นปลาบริโภคที่ขายได้ราคาสูงกว่า การใช้ปลากะพงขาวเป็นนักล่าเพื่อลดปริมาณปลาหมอคางดำ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้เกษตรกรลดค่าอาหารได้เช่นกัน แsa casino เครดิต ฟรีฝาก 15 รับ 100 ล่าสุด วอ เลทต่วิธีการนี้ใช้ได้ผลดีกับฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาหรือสัตว์น้ำอื่น ๆ เท่านั้น ในสภาพธรรมชาติ ปลากะพงขาวไม่สามารถช่วยกำจัดปลาหมอคางดำได้แน่นอน นอกจากนี้ อ.มินตรา ยังระบุว่าการใช้ปลากินปลา "ไม่ใช่วิธีที่ยั่งยืน" เพราะธรรมชาติของปลากะพงขาว จะทนต่อสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิน้ำ ค่าออกซิเจนในน้ำ ค่า pH ค่าความขุ่น ความเป็นด่าง ค่าแอมโมเนียอิสระในน้ำ และค่าคุณภาพน้ำอื่น ๆ ได้ไม่ดีเท่าปลาหมอคางดำ และ หากจำแนกกันจริง ๆ ในสภาพธรรมชาติทั้ง 2 สปีชีส์นี้ เป็นปลาคนละกลุ่มเพราะถิ่นกำเนิดต่างกัน ปลากะพงขาว ปลากะพงขาว นอกจากปลากะพงขาวที่เป็นปลานักล่าแล้ว อาจใช้ปลานักล่าชนิดอื่นที่ใช้แทนได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มีการเพาะเลี้ยงได้ เพราะสัดส่วนจำนวนก็ต้องเยอะเพียงพอกับจำนวนเหยื่อ (ปลาหมอคางดำ) และต้องมีความเหมาะสมกับสภาพน้ำในพื้นที่เลี้ยงนั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่พบว่ามีสัตว์น้ำชนิดไหนที่มีความทนทานในสภาพน้ำกร่อย น้ำจืด ได้ดีเท่าปลากะพงขาว แต่ถ้าเทียบความอดทน ปลาหมอคางดำอดทนได้มากกว่า อ.มินตรา ยังให้คำแนะนำที่พอจะช่วยลดประชากรปลาหมอคางดำที่รวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาในขณะนี้ได้คือ "กิน" แต่ต้องตั้งเป้าให้แน่ชัดว่า กินเพื่อลดจำนวนประชากรปลาหมอคางดำเท่านั้น ห้ามนำไปเลี้ยงต่อโดยเด็ดขาด เจอก็ต้องฆ่า เพราะปลาหมอคางดำถือเป็นสัตว์ต่างถิ่นสำหรับประเทศไทย คือไม่ควรอยู่ในไทย แม้เนื้อจะน้อย แต่สามารถนำไปแปรรูปปรุงรสให้อร่อยได้ ปลาหมอคางดำ ปลาหมอคางดำ อีกวิธีหนึ่งคือ ให้นำไปทำเป็นปลาป่นเลี้ยงสัตว์ เพราะเป็นปลาที่เนื้อน้อย ก้างเยอะ ปริมาณแคลเซียมสูง แต่ใช้ได้เพียงธุรกิจฟาร์มขนาดเล็กเท่านั้น เพราะเนื้อปลาหมอคางดำมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อสัตว์ในปริมาณน้อย การจะนำปลาหมอคางดำมาทำปลาป่นแล้วเติมกรดอะมิโนเพิ่มเข้าไป ในทางธุรกิจถือว่าไม่คุ้มต่อการลงทุน ปลาป่นจากปลาหมอคางดำ ปลาป่นจากปลาหมอคางดำ รู้หรือไม่ : ปลาหมอคางดำ และ ปลาหมอสีคางดำ คือตัวเดียวกัน อ่านข่าวเพิ่ม : คลังถอยไม่ใช้เงิน ธ.ก.ส.แจกดิจิทัลวอลเล็ต หั่นงบเหลือ 4.5 แสนล้าน เปิดเบื้องลึก "ปัญหาทับลาน" อุทยานฯ เสียป่า หรือใครได้เป็นเจ้าของที่ดิน?
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2564 เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เผยแพร่รูปภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า วันที่ 9 พ.ย.2564 เวลา 11.30 น. ดร.ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง ให้ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์