หลายฝ่ายห่วงเกิดปัญหากับกีฬายิงปืน-ตะกร้อในซีเกมส์

วันนี้ (12 ก.ย.2565) นางแขม เครือวัลย์ อายุ 83 ปี หรือ มโนราห์แขม ครูสอนมโนราห์ชื่อดัง ของ จ.กระบี่ ยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษโรงพยาบาลเหนือคลอง โดยมีเจ้าหน้าที่และญาติเข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจ หลังจาก
วันนี้ (28 พ.ค.2567) มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 27
เมื่อขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ สิ่งที่ผู้หญิง 2 คนตัดสินใจแก้ปัญหาไม่แตกต่างกัน คือ การกู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้ในโทรศัพท์มือถือ ถึงวันนี้ ทั้งคู่มีหนี้สินนอกระบบรวมแล้วคนละ 50,000 – 70,000 บาท และ กำลังถูกติดตามทวงหนี้ด้วยวิธีการต่างๆ ผู้หญิงคนแรกเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง กู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้ 2,000 บาท แต่ได้รับเพียง 1,200 บาท เพราะถูกหักค่าดำเนินการไว้ 800 บาท แอปฯ กำหนดเงื่อนไขให้เธอชำระเงินรวมทั้งต้นและดอกเบี้ยจำนวน 2,007 บาทคืนภายใน 7 วัน หากเกินกำหนดจะถูกคิดค่าทวงถามติดตามวันละ 200 บาท รวมแล้วเธอกู้เงินจาก 6 แอป เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ให้กับแอปฯ ที่กู้เงินมาก่อนหน้านี้ เมื่อไม่สามารถชำระเงินตรงตามกำหนด การข่มขู่ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อติดตามทวงหนี้จึงเกิดขึ้น เพราะแอปฯ ขอสิทธิเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อ ตำแหน่งโลเคชั่น ข้อความ SMS การโทรเข้า-ออก รูปภาพ ไฟล์ต่างๆ และกล้องถ่ายภาพ ไว้ก่อนแล้ว ผู้หญิงอีกคนเป็นแม่ค้า เธอไม่สามารถกู้เงินในระบบได้ เนื่องจากติดแบล็คลิสต์ เงินกู้นอกระบบจึงเป็นทางออก เธอกู้เงินจากแอปเงินกู้จำนวน 5 แอปๆ ละ 2,00ฝาก 20 รับ 100 ล่าสุด วอ ล เลท50 รับ 100 ufa0 – 3,500 บาท บางแอปฯ สามารถชำระเงินคืนได้ตามกำหนด แต่บางแอปฯ ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามเงื่อนไข จึงถูกติดตามทวงถามหนี้ไปยังบุคคลที่ 3 เพื่อเร่งรัดให้ชำระหนี้ ปัจจุบันทั้ง 2 คน หยุดจ่าย หยุดกู้ ลบแอปฯ ทิ้ง และทำบัตรประชาชนใหม่ ตามคำแนะนำของผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ก มือปราบหนี้นอกระบบ-แอพเงินกู้ และกลุ่มแอนตี้หมวกกันน็อคออนไลน์ ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ถูกคุกคามจากการทวงหนี้นอกระบบทุกรูปแบบ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว ผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ก มือปราบหนี้นอกระบบ-แอพเงินกู้ รวบรวมข้อมูลจากผู้ที่ร้องเรียนผ่านเพจ พบว่า มีแอปพลิเคชันเงินกู้ กว่า 80 แอปฯ ที่สมาชิกกู้เงินแล้วได้เงินไม่เต็มจำนวน นอกจากนั้นยังถูกติดตามทวงถามหนี้ลักษณะข่มขู่ประจานทำให้อับอาย แอปฯ เงินกู้เหล่านี้ใช้วิธีโฆษณาเชิญชวนในหลายรูปแบบที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งข้อความ SMS ทางโทรศัพท์มือถือ เฟซบุ๊ก แอปพลิเคชันไลน์ และยูทูป ผู้ดูแลเพจฯ ยังเปิดเผยวิธีการที่แอปพลิเคชันเงินกู้ใช้ทวงหนี้ ทั้งส่งข้อความข่มขู่ในแอปพลิเคชันไลน์ สมาชิกบางคนร้องเรียนว่า ถูกหลอกให้ถ่ายคลิปตัวเองลักษณะอนาจารส่งไปให้ เพื่อแลกกับการปิดยอดหนี้ แต่กลับถูกนำคลิปมาข่มขู่ให้ชำระเงิน หากไม่ทำตามจะส่งคลิปไปยังบุคคลอื่น ที่ผ่านมาสมาชิกในกลุ่มร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานให้เร่งแก้ไขปัญหา และ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแอปฯ เงินกู้ ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมได้บางส่วน แต่ก็ยังพบแอปฯ เปิดใหม่อยู่ตลอดเวลา มีข้อมูลว่า แอปพลิเคชันเงินกู้ทางโทรศัพท์ที่ดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งไม่ได้ขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลจากกระทรวงการคลัง ปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนหลังจากใช้บริการแอปพลิเคชันเงินกู้เหล่านี้ คือ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ระบุว่า ผู้ที่ถูกข่มขู่ ใช้ความรุนแรง การประจานความเป็นหนี้ให้บุคคลอื่นรับรู้ สามารถแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีได้ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ มองว่า หนี้นอกระบบแม้อัตราดอกเบี้ยทั้งปีอาจสูงถึงร้อยละ 2,000 แต่การกู้ได้ง่าย เอกสารไม่ยุ่งยาก จึงตอบโจทย์ประชาชนที่ต้องการใช้เงินด่วนแต่ไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้ในระบบได้ แอปพลิเคชันเงินกู้ แม้ดูเหมือนผู้ลงทุนมีความเสี่ยงสูงที่จะหนี้สูญ แต่ด้วยวิธีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่า กม.กำหนด จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย และเจ้าของแอปพลิเคชันยังสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้กู้ และอาจนำข้อมูลไปขายต่อเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อผู้กู้อีกทางหนึ่ง นอกจากนั้น ยังเสนอว่า การลดความเหลื่อมล้ำและทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบควรเริ่มแก้ไขตั้งแต่โครงสร้างระบบบริหารการเงิน ขยายบริการการเงินในระบบเพื่อลดส่วนแบ่งตลาดของหนี้นอกระบบ และหาวิธีจูงใจให้หนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ
เมื่อขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ สิ่งที่ผู้หญิง 2 คนตัดสินใจแก้
ผ้าม้วนลายช้าง ถูกเตรียมไว้เพื่อรอลูกค้ามารับไปผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ผู้จัดการฝ่ายผลิต โรงงานผลิตและ
วันนี้ (27 มิ.ย.2567) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผย ภาวะเศรษฐกิจการคลั
เมื่อขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ สิ่งที่ผู้หญิง 2 คนตัดสินใจแก้ปัญหาไม่แตกต่างกัน คือ การกู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้ในโทรศัพท์มือถือ ถึงวันนี้ ทั้งคู่มีหนี้สินนอกระบบรวมแล้วคนละ 50,000 – 70,000 บาท และ กำลังถูกติดตามทวงหนี้ด้วยวิธีการต่างๆ ผู้หญิงคนแรกเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง กู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้ 2,000 บาท แต่ได้รับเพียง 1,200 บาท เพราะถูกหักค่าดำเนินการไว้ 800 บาท แอปฯ กำหนดเงื่อนไขให้เธอชำระเงินรวมทั้งต้นและดอกเบี้ยจำนวน 2,007 บาทคืนภายใน 7 วัน หากเกินกำหนดจะถูกคิดค่าทวงถามติดตามวันละ 200 บาท รวมแล้วเธอกู้เงินจาก 6 แอป เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ให้กับแอปฯ ที่กู้เงินมาก่อนหน้านี้ เมื่อไม่สามารถชำระเงินตรงตามกำหนด การข่มขู่ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อติดตามทวงหนี้จึงเกิดขึ้น เพราะแอปฯ ขอสิทธิเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ เช่น รายชื่อผู้ติดต่อ ตำแหน่งโลเคชั่น ข้อความ SMS การโทรเข้า-ออก รูปภาพ ไฟล์ต่างๆ และกล้องถ่ายภาพ ไว้ก่อนแล้ว ผู้หญิงอีกคนเป็นแม่ค้า เธอไม่สามารถกู้เงินในระบบได้ เนื่องจากติดแบล็คลิสต์ เงินกู้นอกระบบจึงเป็นทางออก เธอกู้เงินจากแอปเงินกู้จำนวน 5 แอปๆ ละ 2,00ฝาก 20 รับ 100 ล่าสุด วอ ล เลท50 รับ 100 ufa0 – 3,500 บาท บางแอปฯ สามารถชำระเงินคืนได้ตามกำหนด แต่บางแอปฯ ไม่สามารถชำระเงินคืนได้ตามเงื่อนไข จึงถูกติดตามทวงถามหนี้ไปยังบุคคลที่ 3 เพื่อเร่งรัดให้ชำระหนี้ ปัจจุบันทั้ง 2 คน หยุดจ่าย หยุดกู้ ลบแอปฯ ทิ้ง และทำบัตรประชาชนใหม่ ตามคำแนะนำของผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ก มือปราบหนี้นอกระบบ-แอพเงินกู้ และกลุ่มแอนตี้หมวกกันน็อคออนไลน์ ที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ถูกคุกคามจากการทวงหนี้นอกระบบทุกรูปแบบ น.ส.กนกพรรณ หมวกไสว ผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊ก มือปราบหนี้นอกระบบ-แอพเงินกู้ รวบรวมข้อมูลจากผู้ที่ร้องเรียนผ่านเพจ พบว่า มีแอปพลิเคชันเงินกู้ กว่า 80 แอปฯ ที่สมาชิกกู้เงินแล้วได้เงินไม่เต็มจำนวน นอกจากนั้นยังถูกติดตามทวงถามหนี้ลักษณะข่มขู่ประจานทำให้อับอาย แอปฯ เงินกู้เหล่านี้ใช้วิธีโฆษณาเชิญชวนในหลายรูปแบบที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งข้อความ SMS ทางโทรศัพท์มือถือ เฟซบุ๊ก แอปพลิเคชันไลน์ และยูทูป ผู้ดูแลเพจฯ ยังเปิดเผยวิธีการที่แอปพลิเคชันเงินกู้ใช้ทวงหนี้ ทั้งส่งข้อความข่มขู่ในแอปพลิเคชันไลน์ สมาชิกบางคนร้องเรียนว่า ถูกหลอกให้ถ่ายคลิปตัวเองลักษณะอนาจารส่งไปให้ เพื่อแลกกับการปิดยอดหนี้ แต่กลับถูกนำคลิปมาข่มขู่ให้ชำระเงิน หากไม่ทำตามจะส่งคลิปไปยังบุคคลอื่น ที่ผ่านมาสมาชิกในกลุ่มร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานให้เร่งแก้ไขปัญหา และ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแอปฯ เงินกู้ ซึ่งตำรวจสามารถจับกุมได้บางส่วน แต่ก็ยังพบแอปฯ เปิดใหม่อยู่ตลอดเวลา มีข้อมูลว่า แอปพลิเคชันเงินกู้ทางโทรศัพท์ที่ดำเนินการอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งไม่ได้ขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลจากกระทรวงการคลัง ปัญหาที่มีผู้ร้องเรียนหลังจากใช้บริการแอปพลิเคชันเงินกู้เหล่านี้ คือ เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 ของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 (เรื่องสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ระบุว่า ผู้ที่ถูกข่มขู่ ใช้ความรุนแรง การประจานความเป็นหนี้ให้บุคคลอื่นรับรู้ สามารถแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีได้ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ มองว่า หนี้นอกระบบแม้อัตราดอกเบี้ยทั้งปีอาจสูงถึงร้อยละ 2,000 แต่การกู้ได้ง่าย เอกสารไม่ยุ่งยาก จึงตอบโจทย์ประชาชนที่ต้องการใช้เงินด่วนแต่ไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้ในระบบได้ แอปพลิเคชันเงินกู้ แม้ดูเหมือนผู้ลงทุนมีความเสี่ยงสูงที่จะหนี้สูญ แต่ด้วยวิธีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่า กม.กำหนด จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงตามไปด้วย และเจ้าของแอปพลิเคชันยังสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้กู้ และอาจนำข้อมูลไปขายต่อเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อผู้กู้อีกทางหนึ่ง นอกจากนั้น ยังเสนอว่า การลดความเหลื่อมล้ำและทำให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบควรเริ่มแก้ไขตั้งแต่โครงสร้างระบบบริหารการเงิน ขยายบริการการเงินในระบบเพื่อลดส่วนแบ่งตลาดของหนี้นอกระบบ และหาวิธีจูงใจให้หนี้นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ
วันนี้ (24 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในกิจกรรม "ภูมิใจไทยสัญจร ครั้งที่ 5 จ.ขอนแก่น" พร้อมเปิด